วันที่ 17 กันยายน 2568 เวลา 10:25 น.
17 กันยายน 2568 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกฎหมายตามพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2568) โดยข้อห้ามบริโภคแอลกอฮอล์ในที่สถานที่ที่ขายแอลกอฮอล์ หรือให้บริการเพื่อการค้า ในเวลาห้ามขาย หากฝ่าฝืนมีความผิด โทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
โดยระบุว่า จุดจบสายลาก ห้ามดื่มในร้านนอกเวลาขาย เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ทางกรมการปกครอง ออกมาเตือนประชาชนเกี่ยวกับ การนั่งดื่มในร้านเหล้านอกเวลาขาย “เสี่ยงผิด” กฎหมายตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2568)
โดยข้อห้ามบริโภคแอลกอฮอล์ในที่สถานที่ที่ขายแอลกอฮอล์ หรือให้บริการเพื่อการค้า ในเวลาห้ามขาย หากฝ่าฝืนมีความผิด โทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
สรุปง่าย ๆ คือ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่ขายหรือจัดบริการเพื่อประโยชน์ทางการค้า ในเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เที่ยงคืน – 11.00น.และ 14.00-17.00น.)
โดย พรบ.ฉบับนี้จะมีผลบังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ( 8 พ.ย.2568)
สิ่งที่ควรรู้คือ ผู้ดื่มโดนปรับ”อย่างที่ทราบกันแล้ว ว่าการยกเลิกกำหนดช่วงเวลาขาย ในการลงนามฉบับล่าสุดของอดีตนายกแพรทองธาร ยกเว้นให้ขายในช่วงเวลา 14.00-17.00น. ตามประกาศล่าสุดจะมีแค่
1. ท่าอากาศยานนานาชาติ
2. สถานบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
3. โรงแรมที่มีใบอนุญาตโรงแรม
ไม่ได้มีการยกเว้นให้ ร้านอาหาร แล้วถ้ากฎหมายฉบับนี้ถูกบังคับใช้ จะเกิดอะไรขึ้น ?
จะทำให้มีผู้ดื่มหลายราย รีบดื่มให้ทันก่อนเวลา และคนที่ดื่มหนัก ดื่มเร็ว ร่างกายจะได้รับแอลกอฮอล์เร็วและมากเกินไป ร่างกายจะพยายามกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเป็นกลไกป้องกันตัวเองของร่างกาย อีกทั้งยังอาจเกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย และหากอาเจียนรุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่จนต้องเข้ารับการรักษา
วิธีแก้ไข
เวลาดื่มต้องมีสติอย่างมาก ทางผู้ดื่มต้องรู้ตัวเอง สั่งแต่พอดี คำนวนเวลาดื่มต่อแก้วให้ดี เฝ้ามองดูเวลา อย่างสม่ำเสมอ เพราะมิฉะนั้นอาจโดนปรับ หรือ มีโอกาสเมาหนักและเกิดเหตุไม่คาดฝันได้
ส่วนทางพนักงานในร้าน ผมขอเชิญชวนให้ ไม่ขายคนเมาจนขาดสติ ผมเชื่อว่าพี่น้องที่ทำงานอยู่หน้างานจริง ๆ ต่างมีทราบดีว่าควรทำอย่างไร ช่วยแสดงพลังให้สังคมได้รู้ถึงผลกระทบทั้งต่อตนเองและสังคมที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ ถึงจะลดแค่ 1% ในการลดโอกาสการเกิดเหตุไม่คาดฝัน ก็ยังคุ้มที่จะทำ
