แคนเบอร์รา, 15 ก.ย. (ซินหัว) — วันจันทร์ (15 ก.ย.) ศูนย์บริการสภาพอากาศออสเตรเลียเผยแพร่รายงานการประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศแห่งชาติออสเตรเลีย ฉบับที่ 1 ระบุว่าที่อยู่อาศัยริมชายฝั่งของชาวออสเตรเลียถึง 1.5 ล้านหลังจะเผชิญความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลหนุนสูงภายในปี 2050 และการเสียชีวิตจากอากาศร้อนจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า หากโลกมีอุณหภูมิสูงกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมถึง 3 องศาเซลเซียส

รายงานระบุว่าหากโลกมีอุณหภูมิสูงแตะระดับดังกล่าว ที่อยู่อาศัยมากกว่า 3 ล้านหลังจะเผชิญความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเลหนุนสูงภายในปี 2090 และคาดว่ายอดเสียชีวิตจากอากาศร้อนอาจเพิ่มขึ้นร้อยละ 444 ในซิดนีย์ และร้อยละ 259 ในเมลเบิร์น แต่หากจำกัดอุณหภูมิไว้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ยอดเสียชีวิตจากอากาศร้อนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 103 ในซิดนีย์ และร้อยละ 60 ในเมลเบิร์น

คริส โบเวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพลังงานของออสเตรเลีย กล่าวว่าชาวออสเตรเลียกำลังเผชิญผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน แต่เห็นได้ชัดว่าการป้องกันอุณหภูมิทุกๆ องศาไม่ให้โลกร้อนขึ้น จะช่วยให้คนรุ่นหลังหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรงที่สุดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

ศูนย์บริการฯ พบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกตอนนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยยุคก่อนอุตสาหกรรม (ปี 1850-1900) อยู่ 1.2 องศาเซลเซียส แต่สภาพอากาศของออสเตรเลียอบอุ่นขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติระดับประเทศในปี 1910

หากอุณหภูมิโลกร้อนกว่าระดับยุคก่อนอุตสาหกรรม 3 องศาเซลเซียส สิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ในออสเตรเลียจะถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ หรือสูญพันธุ์ไป โดยพืชพื้นเมืองมากถึงร้อยละ 70 จะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เคยพบมาก่อน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เผยแพร่แผนการปรับตัวแห่งชาติฉบับแรกของออสเตรเลีย ซึ่งระบุถึงแนวปฏิบัติในการปรับตัวที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อรับมือต่อรายงานความเสี่ยงดังกล่าว และคาดว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะประกาศเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษ ปี 2035 ภายในไม่กี่วันนี้