หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 กันยายน 2568

วันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 05:38 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 กันยายน 2568

>> เพลิงไหม้โรงงานกำจัดสารเคมี ซอยแสมดำ 17 คาดสาเหตุเกิดจาก ปฏิกิริยาทางเคมี

06.51 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยแสมดำ 17 ถนนแสมดำ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็น โกดังอุตสาหกรรมคอนกรีตชั้นเดียว ปลูกติดกัน 2 หลัง ประกอบกิจการโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรม ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในโกดังที่ 1 เพลิงลุกไหม้โกดังที่ 1 เสียหายทั้งหมด และภายในโกดังมีสารเคมี บ่อแมกนีเซียม และถังบรรจุสารเคมี แมกนีเซียม ลุกลามโกดังที่ 2 เสียหายบริเวณหลังคาบางส่วน เป็นพื้นที่สำหรับเก็บถังบรรจุสารเคมี ( กรดซัลฟิวริก ) และลุกลามไปยังโกดังเก็บสารเคมีข้างเคียง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 100 ตารางเมตร

กรณีแสงเพลิงที่เกิดจากสารเคมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่โรงงานได้ใช้ทรายทำการกลบเพื่อระงับแสงเพลิงก่อนใช้ปูนขาวเพื่อปรับสภาพ และได้ทำการเคลื่อนย้ายถังบรรจุสารเคมีออกจากพื้นที่ จะดำเนินการกำจัดในขั้นตอนต่อไป รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ปฏิกิริยาเคมีภายในบ่อแมกนีเซียมทำให้เกิดเพลิงไหม้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนเทียน


>> รวบ 2 ชายไทย หนีตายจากปอยเปตกลับไทย อ้างถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกทำงานก่อนบังคับทำเพจปลอม

09.00 น. กองกำลังบูรพา,ฉก.อรัญประเทศ และ ชค.ทพ.12 โดย ร้อย.ทพ.1206 ได้ลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบและพบชายต้องสงสัย 2 คน เดินอยู่ในสวนปาล์มบริเวณบ้านเนินสมบูรณ์ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นคนไทย 2 คน โดยพบว่าหนึ่งในนั้นมีบาดแผลที่ขาทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือและทำแผลเบื้องต้น

จากการสอบสวนทั้งสองให้การว่า เมื่อต้นเดือนกันยายน 68 ที่ผ่านมา โดยพวกเขาได้ติดต่อหางานผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ระบุว่าจะได้ทำงานที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ แต่เมื่อเดินทางมาถึง กลับถูกผู้นำพาที่ไม่ทราบชื่อหลอกให้ข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา และถูกนำตัวไปที่ตึกแห่งหนึ่งในพื้นที่ กรุงปอยเปต โดยมีชาวจีนเป็นผู้ควบคุม

โดยทั้งสองถูกบังคับให้ทำงานเป็นแอดมินเพจปลอมบนเฟซบุ๊ก และหากทำยอดไม่ถึงเป้าหมายหรือไม่ทำตามคำสั่งก็จะถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยความกลัวและหวังจะเอาชีวิตรอด พวกเขาจึงตัดสินใจหลบหนีออกมาเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันเดียวกัน และเดินเท้าข้ามชายแดนกลับมายังประเทศไทย กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนมาพบและควบคุมตัวไว้ได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ร้อย.ทพ.1206 ได้นำตัวทั้งสองคนส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและสืบสวนขยายผลต่อไป


>> เพลิงไหม้ร้านทำเบาะ เสียหายหนัก พบน้องแมวสำลักควันและนอนหมดแรง จนท.ช่วยยื้อชีวิตจนกลับมาได้

09.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในร้านทำเบาะ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอย 4 หมู่ 14 ตำบลวัดไทรย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพลิงได้ลุกลามสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในร้านเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมรถน้ำเร่งเข้าควบคุมสถานการณ์ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจึงสามารถสกัดเพลิงไว้ได้สำเร็จ ก่อนลุกลามไปยังบ้านเรือนใกล้เคียง

ขณะเกิดเหตุ ได้ช่วยเหลือแมวที่สำลักควันและนอนหมดแรงอยู่ในกองเพลิงออกมา และใช้ถังออกซิเจนเป่าตัวและจมูกของแมว พร้อมใช้น้ำล้างตัวเพื่อลดความร้อน จนแมวกลับมาหายใจได้ตามปกติ สร้างความดีใจแก่ผู้พบเห็นและกลายเป็นอีกหนึ่งภาพประทับใจท่ามกลางเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้

จากการสอบถามเจ้าของร้านให้การว่า ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังมาจากชั้นเก็บสารเคมีภายในร้าน ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง พร้อมทั้งประเมินความเสียหายอย่างละเอียดต่อไป


>> ‘แพทองธาร‘ เผย เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ‘ ผ่านกระจก จิตใจเข้มแข็ง บอกขอบคุณทุกกำลังใจ

12.20 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร ที่เรือนจำคลองเปรม ว่า ตนเองได้เจอนายทักษิณ (คุณพ่อ) และนายทักษิณได้ตัดผมสั้นแล้ว ซึ่งเป็นการเยี่ยมผ่านกระจก ไม่ได้เจอตัว และสัมผัสกัน เป็นเพียงการเจอกันผ่านกระจก ก็ได้พูดคุยกัน และส่งกำลังใจให้คุณพ่อ ซึ่งท่านก็ได้เล่าว่า มีผู้คุมมาเล่าให้ฟังว่า มีประชาชนที่มาให้กำลังใจ มาทานก๋วยเตี๋ยวแถวนี้ และบอกว่าทานพร้อมท่าน ซึ่งท่านก็ฝากขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา และท่านก็ได้รับข่าวสาร เพราะมีผู้คุมเล่าให้ฟังด้วย

ส่วนเรื่องสุขภาพ ขณะนี้มีเรื่องความดัน และคงมีความเครียดบ้าง ความดันขึ้น ๆ ลง ๆ แต่นายทักษิณก็จิตใจเข้มแข็ง และเข้มแข็งกว่าเราอีก ท่านก็ได้ให้กำลังใจเรา ส่วนจะฝากบอกคนให้กำลังใจอย่างไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี อาจจะเรื่องความดันบ้าง และแน่นอนว่าเรื่องความเครียด คนที่เข้าไปอยู่ด้านใน ก็น่าจะมีเรื่องความเครียดอยู่แล้ว ขอขอบคุณกำลังใจมากกว่า ที่ทุกคนได้ส่งผ่านกำลังใจมาให้ และพวกเราเอง เวลาไปที่ไหนก็มีคนให้กำลังใจ ดังนั้น จึงต้องขอบคุณมาก ๆ

“ที่ผ่านมาคุณพ่อ และคุณแม่ไม่ได้เจอกันมากกว่า 17 ปี รอบนี้ก็มาเจอผ่านกระจก ชีวิตครอบครัวเราก็มีหลายรสชาติ ก็ให้กำลังใจกันไปในทุกเรื่อง และทุกหัวข้อ ซึ่งครั้งนี้ได้เจอกันประมาณ 30 นาที” นางสาวแพทองธาร กล่าว


>> ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้น ที่อำเภอเมือง, บางปลาม้า และสองพี่น้อง

13.00 น. นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง เพื่อรองรับมวลน้ำจากภาคเหนือและบริหารจัดการน้ำในเชิงพื้นที่

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่า มีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง ประมาณ 5,000 ครัวเรือน ที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ซึ่ง อบจ. อปท. ได้เข้าไปช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เน้นย้ำให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงและผลกระทบ พร้อมข้อสั่งการให้เตรียมกำลังพล เครื่องจักรกล รวมทั้ง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และแผนช่วยเหลือประชาชนในทุกอำเภอที่ประสบภัย รวมถึงแผนการอพยพสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ

ทางด้าน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ได้กล่าวถึงการดำเนินการที่ผ่านมาว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ร่วมกับจังหวัดสุพรรณบุรี จัดหาเครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย และการกำจัดผักตบชวา เพื่อป้องกันและเพิ่มการระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากตรวจดูสถานการณ์น้ำในวันนี้แล้ว จะได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สทนช. และกรมชลประทาน ในเรื่องของการระบายน้ำเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด


>> "อนุทิน" เผยหารือสภาอุตฯ ยืนยันยังไม่เปิดด่าน ยอมรับผลกระทบภาคอุตสาหกรรมมีแน่นอน

14.35 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า วันนี้ได้มาพูดคุยกับประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการ ซึ่งได้มีโอกาสมาแนะนำตนเอง และถือโอกาสมารับฟังสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการ รวมถึงปัญหาและข้อกังวลสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา

สำหรับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ นายอนุทิน ยอมรับว่าเป็นอุปสรรคกับภาคอุตสาหกรรมบ้าง แต่ก็ได้ชี้แจงให้ทราบชัดเจนแล้วว่า ในช่วงนี้ยังคงไม่มีการดำเนินการเปิดด่านอย่างแน่นอน ซึ่งแนวทางแก้ปัญหา ต้องใช้วิธีการทางการทหารและการทูตควบคู่กันไปในเวลาเดียวกัน แต่ต้อง หลังจากที่รัฐบาลเริ่มทำงานแล้ว โดยจะมีการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าฯได้ภายในสัปดาห์นี้


>> ตำรวจภูธร ภาค 5 แถลงจับ 2 คดี ยึดยาบ้ากว่า 9 ล้านเม็ด พร้อมไอซ์จำนวนมาก

14.55 น. ที่ ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท. กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 (ผบช.ภ.5), ฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 ฝ่ายปกครองตัวแทน ผวจ.เชียงราย, นายทศพล เผื่อนอุดม ผวจ.เชียงใหม่ สำนักงาน ปปส.ภาค 5 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติด 2 คดีในครั้งนี้

คดีที่ 1 จับขบวนการลำเลียงยาบ้า 6 ล้านเม็ด – เชียงราย สืบเนื่องเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.เชียงราย ร่วมกับ สภ.เชียงของ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดจับรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียนเชียงใหม่ บริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลยุพราชเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย หลังจากสืบทราบว่าเป็นพาหนะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อ.เวียงแก่น จากการตรวจค้นพบยาบ้า 24 กระสอบ รวมประมาณ 6,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณกระบะท้ายรถคลุมด้วยผ้าใบสีฟ้า จับกุมผู้ต้องหาชาย 3 ราย คือ ขณะเดียวกันยังมีชายวัยรุ่นร่วมขบวนการอีก 1 ราย หลบหนีไปได้ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าลำเลียงยาบ้าจากพื้นที่ ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งต่อเครือข่ายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่

คดีที่ 2 ไล่ล่ากลางดึก ยึดยาบ้า 3.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 100 กก. – เชียงใหม่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 ร่วมกับ สภ.แม่โจ้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดจับรถยนต์อีซูซุ สีเทา ทะเบียนนครราชสีมา บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาบ้านไร่สหกรณ์ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จากการตรวจค้นพบยาบ้า 15 กระสอบ รวมประมาณ 3,730,000 เม็ด และไอซ์น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาชาย 1 ราย ส่วนรถยนต์อีซูซุอีกคันซึ่งทำหน้าที่นำเส้นทางสามารถหลบหนีไปได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล


>> ตร.เร่งสอบสวน หาสาเหตุ สาวไทยสภาพเปลือย เสียชีวิตปริศนาคาโรงแรมหรู

15.38 น. สภ. เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ว่ามีผู้เสียชีวิต ภายในห้องพัก ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วย

ที่เกิดเหตุ ภายในห้องพัก พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทย อายุประมาณ 26 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.เอราวัณ จ.เลย เป็นลูกค้าของทางโรงแรม นอนเปลือยกายตะแคงอยู่ใต้ทีวี

จากนั้นจึงได้ประสานแพทย์นิติเวชรพ.วชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต สาขาเมืองใหม่ ร่วมชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบว่า พบว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ตามร่างกาย ไม่พบบาดแผล จากโดนทำร้าย แต่อย่างใด ตรวจสอบบนโต๊ะพบไวน์และแก้วไวน์ ตั้งอยู่ ภายในห้องยังพบกระเป๋าสะพายของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงได้ เก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนดำเนินการ ตรวจสอบว่า มีผู้ใดเข้ามา ภายในห้องพัก ดังกล่าว หรือไม่ จากนั้นจึงได้นำศพดังกล่าวไปยังรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อพิสูจน์ หาสาเหตุการตายอย่างละเอียด และติดต่อญาติของผู้ตาย มารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ต่อไป


>> "บิ๊กเต่า" เผยรับทำคดีร้องเรียนวัดดังย่านปทุมธานี เล็งเช็กเส้นทางการเงิน

15.48 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงกรณี มีชาวบ้านร้องเรียนให้ตรวจสอบพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่เบื้องต้นทราบว่า มีการโอนเงินให้สีกากว่า 12 ล้านบาท

สำหรับคดีนี้ มีผู้มาแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองปราบแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลที่ได้มาถือว่าน่าสนใจ ส่วนสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่ จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ คาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน


>> รถกระบะชนกับรถอเนกประสงค์ แล้วเสียหลักพุ่งลงข้างทางทั้งคู่ ริมถนนสายชุมพร - ระนอง พบผู้เสียชีวิต

15.50 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยสายชลชุมพร มีเหตุรถกระบะชนกับรถอเนกประสงค์แล้วเสียหลักตกไปข้างทาง ริมถนนสายชุมพร - ระนอง บริเวณใกลเคียงโรงเรียนวัดน้อมถวาย ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร

ที่เกิดเหตุ บริเวณร่องน้ำข้างทาง พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม้กซ์ สีดำ และใกล้กันพบรถอเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาว ลักษณะพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นผู้หญิง 1 ราย อายุ 44 ปี ไม่รู้สึกตัว หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยจึงช่วยการช่วยฟื้นคืนชีพ แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร


>> พายุฝนถล่มที่ท่าชนะ บ้านเรือนและโรงเรียนเสียหายหลายหลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บ จ.สุราษฎร์ธานี

16.10 น. ได้เกิดเหตุการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนและสถานที่ราชการในพื้นที่บ้านหนองบุญแก้ว หมู่ที่ 10 ต.ท่าชนะ ได้รับความเสียหาย

จากการสำรวจความเสียหายพบว่ามีบ้านเรือนและร้านค้าได้รับผลกระทบประมาณ 15 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ความเสียหายอยู่ที่หลังคาบ้านที่ถูกลมพัดจนกระเบื้องเปิด ส่งผลให้น้ำฝนไหลเข้าท่วมภายในบ้าน และทำให้ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย และโรงเรียนท่าชนะมีอาคารเรียน 3 หลังที่ได้รับผลกระทบ ความเสียหายหลักๆ ได้แก่ หลังคา ฝ้าเพดาน วัสดุการเรียนการสอน ป้อมยาม และประตูรั้ว

หลังเหตุการณ์สงบลง นายสำนวน ทองศรี นายอำเภอท่าชนะ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กำนันตำบลท่าชนะ, นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าชนะ, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาท่าชนะ, และการไฟฟ้าภูมิภาคสาขาท่าชนะ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด


>> ตร.กองปราบฯ รวบหนุ่มใหญ่ ขับรถพาเพื่อนยิงอริดับคาสี่แยกไฟแดง หนีคดีกว่า 19 ปี

16.19 น. พ.ต.ท.ธีระพงษ์ คงเขียว สารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (สว.กก.5 บก.ป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 7 กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี กระทำผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีและพาอาวุธปืนฯ” จับกุมได้ที่ริม ถนนสาย อบต.คลองสวน ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2543 ผู้ตายได้นั่งดื่มเหล้ายาดอง ซึ่งมีกลุ่มของนายเอ (นามสมมุติ) โดยมีเพื่อนอีก 3 คน นั่งอยู่อีกโต๊ะในร้านด้วย ต่อมานายบี (นามสมมุติ) 1 ใน 3 คนที่เป็นเพื่อนของนายเอ ซึ่งเป็นคู่อริกับผู้ตายเกิดโต้เถียงกัน ต่อมาขณะผู้ตายขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน กลุ่มของนายเอ (นามสมมุติ) ได้ขับรถกระบะติดตามไปดักหน้า โดยนายบี (นามสมมุติ) ลงจากรถใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตาย 4 นัด เสียชีวิตคาที่ จากนั้นนายเอ ได้พานายบี ไปส่งที่สถานีขนส่ง แล้วทั้งหมดแยกย้ายหลบหนี

เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ โดยนายเอ (นามสมมุติ) ถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 20 ปี แต่ได้รับการประกันตัวและหลบหนีคดีตั้งแต่ปี 2549 รวมเวลาหลบหนีกว่า 19 ปี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบทราบว่านายเอ ไปทำงานเป็นช่างรับเหมาเดินสายไฟตามแคมป์ก่อสร้างใน จ.สมุทรปราการ จึงวางแผนเข้าจับกุม จากนั้นนำตัวส่งศาลจังหวัดปากพนัง เพื่อรับโทษตามกฎหมายต่อไป


>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ชั้นบนเสียหายวอด เจ้าของบ้านจุดธูปขอพรบรรพบุรุษให้ญาติหายป่วย

18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บริเวณ ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นพบเพลิงได้ลุกไหม้จากตัวบ้านซึ่งก่อสร้างด้วยไม้ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้น้ำดับไฟก่อนประสานรถดับเพลิงเพิ่มมาอีก 3 คันจากเทศบาลเมืองศรีราชาเข้าร่วม โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องพังประตูเข้าไปแล้วใช้น้ำฉีดสกัด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ส่วนค่าเสียหายยังไม่ได้ตรวจสอบ

จากการสอบถาม เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ตนเองนั้นได้จุดธูปไหว้บรรพบุรุษเพื่อขอพรให้ญาติที่ป่วยอยู่ได้หายจากอาการป่วยหลังจากจุดเสียตนเองได้ออกจากบ้านจนกระทั่งพ่อของตนเองโทรมาว่าบ้านไฟไหม้ตนเองจึงรีบกลับมาดูก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณชั้นบนของบ้าน โดยห้องที่เกิดเพลิงไหม้นั้นเป็นห้องเก็บรูปภาพบรรพบุรุษหรือรูปผู้เสียชีวิต ของตระกูลตนเองตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

และหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุการเกิดไฟไหม้ที่แน่ชัดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง


>> รถจักรยานยนต์ชนกันกลางถนน มีผู้เสียชีวิต เป็นหนุ่มชาวเมียนมา จ.กาญจนบุรี

18.33 น. อาสาสมัครมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ได้รับแจ้ง ว่ามีอุบัติเหตุ รถชนกันและมีผู้บาดเจ็บ บริเวณใกล้เคียงโรงเรียนบ้านหนองตาบ่ง ถนนมุ่งหน้าบ้านป่าดิบ ม.4 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ลักษณะชนกับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เทน่า สีดำ ใกล้กันพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 ราย โดยเป็นชาย อายุประมาณ 20 - 30 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครฯ ได้ทำการตรวจสอบเช็กอาการและปฐมพยาบาลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ ก่อนรถพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.สมเด็จฯ19 (ท่าม่วง) ส่วนอีกราย ตรวจสอบอาการอย่างละเอียดพบว่า เสียชีวิตแล้ว เป็นชาย อายุ 26 ปีชาวสัญชาติเมียนมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง


>> คุณยายวัย 81 ปี จมน้ำเสียชีวิต หลังลงไปงมหอยในสระน้ำ บ้านกรับพวง อ.บางระกำ

18.52 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน รับแจ้งเหตุบุคคลสูญหายในน้ำ ที่บ้านกรับพวง อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก จึงจัดชุดปฏิบัติการใต้น้ำเข้าตรวจสอบ

กู้ภัยใช้เวลาค้นหาเพียง 5 นาที ก็พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทย อายุ 81 ปี ชาวบ้านกรับพวง หมู่ 1 ตำบลวังอิทก ก่อนนำส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรเพื่อทำการชันสูตร

เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตได้ออกมางมหอยขมในสระน้ำตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. กระทั่งญาติพบเพียงอุปกรณ์งมหอยวางอยู่ริมสระ แต่ไม่พบตัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยค้นหา จนพบว่าได้เสียชีวิตแล้ว

ด้านพนักงานสอบสวน สภ.บางระกำ ร.ต.อ.พงษ์ศิริ อำไพรพิศ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


>> “สาโรจน์” ลาออก เลขา ป.ป.ช. แล้ว ยังไม่ทราบสาเหตุการตัดสินใจ

19.21 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการในวันนี้ โดยยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง

สำหรับ นายสาโรจน์ ได้เข้ารับตำแหน่งเลขา ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 1 ตุลาคม 2569

ทั้งนี้ในช่วงเดือนเมษายน 2568 นายสาโรจน์ ได้ยื่นรับสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. ด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการตรวจเงินแผ่นดินด้วย

ทั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุของการลาออกครั้งนี้ ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์อนุมัติการลาออกราชการ ของ นายสาโรจน์ พร้อมแต่งตั้งให้ พล.ต.ต. อรุณ อมรวิริยะกุล รองเลขาฯ รักษาราชการแทนไปพลางก่อน


>> หนุ่มกัมพูชา ขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถเทรลเลอร์ เสียชีวิตกลางถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี

21.30 น. อาสามูลนิธิไตรคุณธรรม จ.ชลบุรี ตรวจสอบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเทรลเลอร์และมีผู้เสียชีวิต ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ขาเข้าพัทยา ช่วงทางโค้ง ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดนินจา ในพื้นที่ ต.หนองไม้แดง อ.เมืง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน ชลบุรี ลักษณะชนท้าย รถเทรเลอร์ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน ชลบุรี ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 37 ปี ชาวสัญชาติกัมพูชา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี 


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดพะเยา

00.09 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.6 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ ต.สันโค้ง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม