24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 14 กันยายน 2568

>> จับรายวันแรงงานเมียนมาเถื่อน ซุกสวนส้มโอ 70 คน 00.30 น. นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมชุดจับกุม รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ประจำจุดกรวดน้ำเกิ๊ก ถนนสาย 323 (สังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์) หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เฝ้าระวังและออกติดตามหาข่าวแบบบูรณาการอย่างเข้มข้น

จนกระทั่งพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นจำนวนมาก หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบริเวณสวนส้มโอของชาวบ้าน ในท้องที่ หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่จึงวางแผนกระจายกำลังเข้าปิดล้อม พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม หลังจากจับกุมตัวเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมารวมกันที่จุดกรวดน้ำเกิ๊กเพื่อคัดแยก รวมจำนวน 70 คน เป็นชาย 48 คน หญิง 22 คน ทุกคนไม่มีเอกสารอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร อีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ จึงควบคุมไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี

>> ทหารไทยสกัดจับขบวนการลอบขนอาหารคาชายแดน

08.00 น. กองกำลังบูรพา , หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ,ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 , กองพันทหารม้าที่ 30 และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์สระแก้ว ได้ร่วมกันลาดตระเวนในพื้นที่และตรวจพบสินค้าบริโภคจำนวนมากถูกซุกซ่อนอยู่ในไร่อ้อยบริเวณชายแดนบ้านหนองปรือ หมู่ 7 ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

สินค้าที่พบประกอบด้วยนมผง, น้ำกระเทียมดอง, น้ำตาลกรวด และไส้ขม ซึ่งเป็นอาหารที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต จากการตรวจสอบไม่พบผู้แสดงตนเป็นเจ้าของ คาดว่าสินค้าเหล่านี้ถูกนำมาซ่อนไว้เพื่อเตรียมลักลอบนำออกนอกประเทศไปยังกัมพูชา ซึ่งกำลังเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง การลักลอบนำอาหารออกนอกประเทศเช่นนี้จึงเป็นการซ้ำเติมวิกฤตดังกล่าวให้หนักยิ่งขึ้น

เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานกับด่านศุลกากรอรัญประเทศเพื่อตรวจสอบและนำสินค้าทั้งหมดไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> ระเบิดสนั่น โรงงานแอสฟัลท์ติก ลำพูน สลดไฟคลอกคนงานดับคาที่ 1 เจ็บอีก 2

08.45 น. เกิดเสียงระเบิด และมีควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า บริเวณแพลนท์ยางแอสฟัลท์ติก ของบริษัทแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 2 บ้านป่าพลู ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน

เจ้าหน้าที่และ และรถน้ำ อบต.ป่าพลู เข้าไประงับเหตุ พบไฟได้ลุกไหม้แพลนท์ยางแอสฟัลท์อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำจนไฟสงบ

พนักงานสอบสวน สภ.บ้านโฮ่ง เข้าตรวจสอบ พบคนงานถูกไฟคลอกเป็นชายบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ทางกู้ภัยได้นำตัวส่งรพ.บ้านโฮ่ง นอกจากนี้ พบร่างคนงานชายเสียชีวิต 1 ราย สภาพถูกไฟคลอกทั้งร่างเป็นตอตะโก อยู่ข้างรถแบคโฮที่ถูกไฟไหม้เสียหาย 1 คัน ส่วนสาเหตุระเบิดไฟลุกไหม้ครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

>> รวบแก๊งพอเพียง กลุ่ม จยย. ร่วม 100 คัน จัดทริปเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทุ่งกุลาร้องไห้ จ.สุรินทร์ พบมีทั้งรถดัดแปลงท่อเสียงดัง ดัดแปลงตัวรถ

12.00 น. ชุดตำรวจจราจร สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ควบคุมรถจักรยานยนต์ร่วม 100 คัน ขณะขี่ผ่านสถานีตำรวจบ้านด่าน เพราะมีลักษณะมาเป็นกลุ่มใหญ่ และรถส่วนใหญ่มีการดัดแปลงสภาพ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถแต่ละคันมีการดัดแปลงท่อไอเสีย ดัดแปลงสภาพรถให้ผิดแปลกไปจากเดิม และจำนวนหนึ่งไม่ได้ต่อภาษีและ พ.ร.บ.ประจำปี จึงควบคุมรถเอาไว้ที่ สภ.ก่อนทั้งหมด

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กำชับให้ตำรวจทุก สภ.ตรวจสอบวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมตั้งตัวเป็นกลุ่มแก๊ง ในลักษณะผิดกฎหมาย รวมถึงรถซิ่งที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อานนท์ เหล็กดี ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ออกมาเปิดเผยว่า รถทั้งหมดจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด หากคันไหนมีหลักฐานก็จะให้เอากลับไป แต่คันไหนไม่มีหลักฐานจะต้องตรวจยึดเอาไว้ก่อน ใครเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ต้องมีผู้ปกครองมารับทราบด้วย เบื้องต้นได้ทำการเปรียบเทียบปรับรถที่ผิด พ.ร.บ.จราจร ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้ทำไปตามกฎหมาย เพื่อให้สังคมสงบสุข ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งใครหรือมีเจตนาอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด

>> จยย.เฉี่ยวชนรถบรรทุกถูกล้อทับศีรษะ ดับสลดกลางถนนสายเอเชีย

เมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนกับ รถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร บริเวณใต้สะพานกลับรถ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 9 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุริมถนน พบศพนายนวรินทร์ อายุ 28 ปี ศรีษะถูกล้อรถทับอย่างแรง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีเขียวดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่ ห่างไปเล็กน้อยพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ทะเบียน สมุทรปราการ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บหลักฐาน และเชิญตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบสวน พร้อมเร่งหาพยานที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

>> น้ำท่วมอยุธยา ชาวบ้านตื่นตระหนก หลังมีคนเห็นจระเข้โผล่ใต้ถุนบ้าน ประกาศแจ้งเตือนผ่านเสียงตามสาย ขอให้ประชาชนระมัดระวัง

15.00 น. ชาวบ้านหมู่ 5 ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ต่างหวาดผวาหลังน้ำจากแม่น้ำน้อยล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้าน และมีผู้พบเห็น จระเข้โผล่ใต้ถุนบ้าน ท่ามกลางน้ำท่วม

นางนวลปรางค์ อายุ 79 ปี ยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก เล่าว่า ช่วงสองวันก่อนมีเพื่อนบ้านพบเห็นจระเข้ลอยเหนือน้ำ แต่ยังไม่มั่นใจว่าเป็นจริงหรือไม่ กระทั่งเมื่อวาน ขณะทำความสะอาดบ้าน ก็เหลือบไปเห็นสิ่งมีชีวิตโผล่อยู่ใต้ถุนบ้าน สังเกตบริเวณหัวมีปุ่มคล้ายจระเข้ จึงพายเรือเข้าไปดูใกล้ ๆ และพบว่าเป็น จระเข้ความยาวประมาณเมตรกว่า แม้ไม่มีท่าทีดุร้าย แต่ก็รีบมุดน้ำหายไป ทำให้ตนยังคงรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าลงน้ำ

ด้าน นายดิเรก ภู่สวาท กำนันตำบลท่าดินแดง ยืนยันว่า มีการถ่ายภาพยืนยันว่าเป็นจระเข้จริง ทำให้ชาวบ้านที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้ำท่วมยิ่งกังวลหนัก ขณะนี้ได้มีการ ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือน ให้ประชาชนระมัดระวัง และในช่วงกลางคืนยังมีการออกตรวจตราพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้ชาวบ้าน เหตุการณ์ดังกล่าวยิ่งสร้างความตื่นตระหนก เนื่องจากแม้พื้นที่นี้จะถูกน้ำท่วมทุกปี แต่เพิ่งมีการพบเห็นจระเข้เป็นครั้งแรกในปีนี้

>> ปภ. ส่งเรือเพิ่ม 70 ลำ ช่วยน้ำท่วมพระนครศรีอยุธยา รับมือแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่ง

15.33 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น จึงทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำบริเวณ อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บางปะอิน ปัจจุบัน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ 87 ตำบล 550 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,024 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคาดว่าจะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ส่งเรือจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี จำนวน 70 ลำ ไปสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี ก็ได้นำเรือเล็กพร้อมไม้พาย และเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 128 ลำ รวมถึงเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว รถผลิตน้ำดื่ม เต็นท์จีน และเต็นท์ครอบครัว กระจายความช่วยเหลืออยู่ในพื้นที่ต่างๆ และ ปภ. ยังได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร และหน่วยงานในพื้นที่ ช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อรับมือกับปริมาณน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

>> รวบลูกจ้างแสบย่องขโมยสินค้า IT มูลค่าเกือบล้าน

16.30 น. กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายพัน (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับตามศาลอาญา ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในครอบครองของนายจ้าง” จับได้บริเวณริมถนนซอยพงษ์พันธุ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค.68 เกิดเหตุลักทรัพย์ที่ ร้านสินค้า IT ถ.รามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร นายกำพลน์ฯ อดีตลูกจ้างได้ก่อเหตุลักทรัพย์สินนายจ้าง โดยได้ขโมยทรัพย์สินทั้งโทรศัพท์ iPhone, MacBook, กล้อง , โดรน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาสูง รวมมูลค่ากว่า 800,000 บาท ผู้เสียหายแจ้งว่าถูกลูกจ้างรายนี้คือ นายพัน (นามสมมุติ) ซึ่งใช้จังหวะที่ไม่มีใครอยู่ในร้านเข้าก่อเหตุอย่างใจเย็น

นายพัน (นามสมมุติ) นับเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง เพราะใช้ความไว้ใจที่นายจ้างมีให้เนื่องจากทำงานร่วมกันมาหลายเดือนเป็นช่องทางในการเข้าถึงทรัพย์สิน ก่อนจะลงมือก่อเหตุ และจากกสืบสวนเพิ่มเติม นายพัน (นามสมมุติ) ยังมีหมายจับในหลายพื้นที่มีหมายจับค้างเก่าในพื้นอื่นอีก 2 หมายจับในคดี “ยักยอกทรัพย์” จึงนับว่าเป็นบุคคลอันตราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพื่อติดตามหาทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป

>> ระทึก! ไฟไห้มเรือโดยสาร บริเวณท่าเรือวัดราชสิงขร

18.43 น. รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เรือ บริเวณท่าเรือวัดราชสิงขร ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยยานนาวา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ กำลังไปที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ

ศูนย์วิทยุพระราม 199 รายงานเพิ่มเติม

- เวลา 18.49 น. เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยยานนาวา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเรือโดยสาร เพลิงกำลังลุกไหม้ ไม่มีผู้ติดค้าง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

- เวลา 18.53 น. เหตุเพลิงไหม้เรือ บริเวณท่าเรือวัดราชสิงขร เพลิงลุกไหม้เรือที่จอดเทียบท่า จำนวน 1 ลำ และลุกลามเรือที่อยู่กลางน้ำจำนวน 2 ลำ

- เวลา 18.59 น. เหตุเพลิงไหม้เรือ บริเวณท่าเรือวัดราชสิงขร เรือที่จอดเทียบท่าเรือวัดสิงขร จำนวน 1 ลำ ขณะนี้เพลิงสงบ ส่วนเรือที่ลอยลำกลางแม่น้ำ จำนวน 2 ลำ เพลิงกำลังลุกไหม้ ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ อยู่ระหว่างการใช้น้ำ

- เวลา 19.02 น. เหตุเพลิงไหม้เรือ บริเวณท่าเรือวัดราชสิงขร เพลิงไหม้เรือที่ลอยลำอยู่กลางแม่น้ำจำนวน 2 ลำ ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

- เวลา 19.20 น. เหตุเพลิงไหม้เรือ เพลิงไหม้เรือที่ลอยลำอยู่กลางแม่น้ำจำนวน 2 ลำ ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการใช้โฟมเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีคราบน้ำมันลอยจำนวนมาก

- เวลา 19.25 น. เหตุเพลิงไหม้เรือ บริเวณท่าเรือวัดราชสิงขร ขณะนี้เพลิงสงบ รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

>> ชวดเข้าชิง! "บิว" ภูริพล ทำเวลา 10.17 วินาที วิ่ง 100 เมตรชาย ศึกกรีฑาชิงแชมป์โลก 2025 รอบรองชนะเลิศ

20.15 น. การแข่งขันศึกกรีฑาชิงแชมป์โลก 2025 (World Athletics Championships 2025) ณ สนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 ไฮไลท์อยู่ที่การแข่งขัน 100 เมตร รอบรองชนะเลิศ

"บิว" ภูริพล บุญสอน นักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย ลงทำการแข่งใน Heat ที่ 2 ลู่วิ่งที่ 9 โดย ภูริพล วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 7 ของ ด้วยเวลา 10.17 วินาที

ขณะที่อันดับ 1 ของ Heat ที่ 2 เป็นเคนเน็ธ เบดนาเร็ก จากสหรัฐ และคีเชน ธอมป์สัน ของจาเมกา ซึ่งทำเวลาเท่ากันที่ 9.85 วินาที

สำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ จะคัดนักกีฬาที่เข้าเป็นอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละฮีต รวม 3 ฮีต กับคนที่ทำเวลาดีที่สุดเมื่อรวมทุกฮีตอีก 2 คน รวมเป็น 8 คน เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป ซึ่ง "บิว" ภูริพล ไม่ผ่านเข้ารอบ