24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 กันยายน 2568
>> รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม ถูกรถบรรทุก ขับตามหลังทับร่างเสียชีวิตกลางสะพานข้ามคลอง
09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ถูกรถบรรทุก 22 ล้อ ทับเสียชีวิต บริเวณสะพานข้ามคลองพระอุดม ถนนชัยพฤกษ์ ขาเข้ามุ่งหน้าสะพานพระราม 4 ในช่องทางคู่ขนาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 22 ล้อ จอดอยู่ริมไหล่ทาง ห่างออกไปพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครปากเกร็ด ชาว จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น ร่างกายมีร่องรอยถูกรถทับ ใกล้กันพบรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125i สีดำ สภาพพังยับเยิน
คนขับรถบรรทุก เล่าว่า ตนได้รับจ้างขนหินจาก อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อมาส่งในซอยสามัคคี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะถึงที่เกิดเหตุ ตนขับมาตามปกติแล้วได้ยินเสียงดังโครม ก่อนพบว่ารถได้ทับรถจยย.พร้อมผู้เสียชีวิต โดยเชื่อว่าผู้เสียชีวิตนั้นเสียหลักล้มเอง ขณะพยายามแทรกช่องกลางระหว่างรถบรรทุกกับรถยนต์บนท้องถนน
ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมส่งร่างไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และเชิญตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> ผู้ว่าฯ อ่างทอง พร้อมนายกเหล่ากาชาด ลงพื้นที่มอบชุดธารน้ำใจ แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ
10.30 น. ณ ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคชุดธารน้ำใจ สภากาชาดไทย ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ จำนวน 278 ชุด
ผู้ว่าฯ อ่างทอง กล่าวว่า ในวันนี้ จังหวัดอ่างทอง สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อมอบ “ชุดธารน้ำใจ” ให้กับประชาชนชุดแรกที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่เอ่อท้นเข้าท่วมตลิ่ง จำนวน 278 ราย โดยปัจจุบันมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว 3 ตำบล 19 หมู่บ้าน และกว่า 400 ครัวเรือน ซึ่งหากเขื่อนเจ้าพระยาปรับอัตราการระบายน้ำเพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบอีกประมาณ 200 กว่าราย อย่างไรก็ตาม จังหวัดอ่างทองได้มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้แล้ว โดยได้สั่งการให้นายอำเภอได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประสานผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้แจ้งเตือนประชาชน จัดเตรียมทรัพยากรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกำลังพลให้มีความพร้อมสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดอ่างทอง ณ วันที่ 12 กันยายน มีพื้นที่ที่พักอาศัยของประชาชนที่ได้รับได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ 16 ตำบล 50 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 597 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ, อำเภอป่าโมก, อำเภอไชโย และอำเภอเมืองอ่างทอง
ขณะที่พื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจำนวน 2 อำเภอ 4 ตำบล คือ นาข้าวใน ต.เทวราช ต.ราชสถิตย์ ต.ไชโย รวม 740 ไร่ และพืชสวน (กล้วย) ใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก 4 ไร่ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 66 ราย
>> เจ้าของสุดปลื้ม ผ่อนกุญแจฟรีอยู่ 2 ปี สุดท้ายได้รถคืน
10.59 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันตรวจยึด รถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์ สีขาว จำนวน 1 คัน บริเวณหน้าร้านรับซื้อของเก่า ซอย 35 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ โดยให้บุตรชาย เป็นผู้ใช้รถคันดังกล่าว เมื่อประมาณเดือน ก.พ. 2566 พบว่ารถคันดังกล่าวหายไป สอบถามบุตรชายแล้วบอกว่าได้นำไปฝากไว้กับเพื่อนเพื่อเป็นการค้ำประกันเงินกู้ เจ้าของรถจึงได้ให้เงินบุตรชายไปไถ่ถอนรถคันดังกล่าวคืนกลับมา
เมื่อบุตรชายนำเงินไปคืนแล้ว ผู้ให้กู้บอกว่านำรถไปจำนำต่ออีกทอด ไม่สามารถติดตามรถมาคืนได้ เจ้าของรถได้ติดตามหารถมาโดยตลอด พร้อมทั้งผ่อนค่างวดรถมาตลอดทุกเดือน เป็นเวลา 2 ปีเศษ ต่อมาพบว่ามีผู้นำรถไปใช้งานอยู่ในเขตภาคกลาง จึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อติดตามรถกลับคืนมา
ต่อมาพบเบาะแสพบว่ารถมีการใช้งานในพื้นที่ จ.สระบุรี เจ้าของรถจึงแจ้งเบาะแสให้ตำรวจทางหลวงสระบุรีทราบ กระทั่งตำรวจทางหลวงสุรินทร์ จัดกำลังชุดสืบสวนเพื่อช่วยติดตามรถ เริ่มจากแกะรอยเบาะแสในพื้นที่ จ.สระบุรี จนได้ข้อมูลยืนยันว่ารถคันดังกล่าวเดินทางไปที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสานต่อตำรวจทางหลวงสระบุรี สุดท้ายพบว่ารถไปจอดอยู่บริเวณหน้าร้านรับซื้อของเก่า ย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และนำรถส่งคืนเจ้าของ ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าของรถได้เดินทางมาตรวจสอบยืนยันรถ ที่ สภ.เมื่องสุรินทร์ พร้อมแสดงความยินดีที่ได้รถกลับคืนมาในรอบ 2 ปี และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสระบุรีที่ติดตามยึดรถมาคืนได้โดยเร็ว
>> นายปานเทพ และแม่แตงโม ลุยมอบหลักฐาน ชี้ช่องเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อผู้ต้องหา
12.05 น. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต พร้อมนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน หรือแม่แตงโม นำเอกสารและวัตถุพยานใหม่ เช่น สำเนาสำนวนคดีและผลชันสูตรศพ มอบให้คณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม เพื่อประกอบสำนวน หลังพบพยานบางส่วนชำรุดหรือสูญหาย โดยตั้งเป้าพิสูจน์ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่
พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติฯ เผยความคืบหน้าสำนวนแล้วกว่า 90% สอบปากคำพยานแล้ว 52 ปาก และส่งภาพถ่ายหลักฐานให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ หากพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะส่งสำนวนต่อ ป.ป.ช. แต่หากไม่พบก็จะรับเป็นคดีพิเศษต่อไป โดยเตรียมลงพื้นที่อีกครั้งต้นเดือน ต.ค. เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลก่อนสรุปสำนวนคดี
>> ไฟไหม้บ้านเรือน ที่โพนพิสัย เสียหายวอดทั้งหลัง และพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายในกองเพลิง
12.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนพิสัย ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เพลิงได้ลุกไหม้เสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่งานป้องกันฯ อบต.ชุมช้าง ร่วมกับเทศบาลโพนพิสัย พร้อมด้วยรถดับเพลิงเข้าระดมใช้หัวฉีดน้ำควบคุม จนเพลิงสงบลงในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเสียหายทั้งหลัง และตรวจพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุประมาณ 17 ปี ซึ่งผู้พิการ และเป็นบุตรสาวของ เจ้าของบ้าน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนพิสัย เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ทั้งนี้ จังหวัดหนองคาย จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป
>> ไฟไหม้ที่ลานจอดรหน้าบ้าน ลุกลามรถยนต์เก๋ง-รถจยย.เสียหายวอด
13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ม.9 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ตรงลานจอดรถด้านหน้าเสียหาย รวมทั้ง รถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีฟ้า และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า สีดำ ถูกเผาวอดเสียหายทั้งคัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังนำถังแก๊สหุงต้มขนาดเล็กออกมาจากภายในบ้านได้ทัน ส่วนตัวบ้านไม่ได้รับความเสียหาย
เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 12.30 น. ตนออกไปทำธุระ กระทั่งเวลา 13.00 น. ภรรยาโทรมาแจ้งว่าไฟไหม้และมีชาวบ้านได้ยินเสียงแก๊สระเบิด จึงรีบกลับมาพบเจ้าหน้าที่กำลังดับเพลิงอยู่ โดยเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า เห็นควันพวยพุ่งออกมาจากจุดเก็บของ ก่อนจะมีเสียงระเบิด 2-3 ครั้ง และเกิดเปลวไฟลุกขึ้น โชคดีภายในบ้านไม่ได้รับความเสียหาย แต่ทรัพย์สินด้านนอก รวมถึงรถยนต์และรถจยย.ถูกไฟไหม้ทั้งหมด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้บันทึกภาพและเก็บพยานหลักฐาน พร้อมเชิญเจ้าของบ้านไปให้ปากคำเพิ่มเติม และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดภายในวันพรุ่งนี้
>> แก๊สหุงต้มรั่วไหล ร้านอาหารย่านสวนมะลิซอย 3 จนท.รุดเข้าระบายแก๊สหมดถังและเคลื่อนย้ายถังออกสู่พื้นที่โล่ง
13.05 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุแก๊สหุงต้มรั่วไหล สถานที่เกิดเหตุ ซอยสวนมะลิ 3 ถนนเฉลิมเขต 4 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ 5 ชั้น ประกอบกิจการร้านขายอาหาร เหตุเกิดขึ้นภายในห้องเก็บถังแก๊สบริเวณชั้นที่ 1 เป็นแก๊สหุงต้มขนาด 48 กิโลกรัม จำนวน 1 ถัง เกิดการรั่วไหล และทำให้เกิดประกายไฟ เพลิงลุกไหม้เสียหายผ้าปูโต๊ะเล็กน้อย ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำระบายแก๊สหมดถังและเคลื่อนย้ายถังออกสู่พื้นที่โล่ง
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากสายส่งแก๊สหุงต้มชำรุด และทำให้เกิดประกายไฟ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสวนมะลิ
>> โฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย ‘ทักษิณ’ในเรือนจำคืนที่ 3 พบความดันสูงขึ้นแต่เจ้าตัวพกยามารับประทานด้วย พบไม่มีความเครียดพูดคุยตามปกติทั่วไป
13.06 น. พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีการควบคุม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นคืนที่สาม ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานการหลับนอนยังคงปกติ ไม่มีอาการเครียด สามารถทานอาหารได้ครบทุกมื้อ แต่พบมีความดันขึ้นสูงมากกว่าปกติและนำยาประจำตัวเข้ามาไว้ทานเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนการอยู่กับผู้ต้องขังอื่นทราบว่าได้พูดคุยตามปกติทั่วไป ไม่มีการเก็บตัวแต่อย่างใด
ส่วน นายทักษิณ อยู่แดนกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ตามมาตรการเรือนจำฯ จากนั้นค่อยพิจารณาจำแนกผู้ต้องขังย้ายแดนตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ที่มีกระแสข่าวเรื่องการพิจารณาช่วยงานสาธารณะของทางเรือนจำฯ นั้นมีขั้นตอนระเบียบเรื่องการเขียนโครงการฝึกทักษะ ความสามารถ และใช้ระยะเวลามากกว่า 30 วัน ทำให้ช่วงแรก นายทักษิณ ยังคงอยู่ในเรือนจำฯ ไปก่อน
>> ส่งตัว "นางเขื่อน" พร้อมครอบครัว กลับเขมรแล้ว เหตุแชร์ข่าวปลอมและโจมตีประเทศไทย
13.37 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ ควบคุมตัว นางเขื่อน ชาวเขมรซึ่งมีสามีเป็นไทยและอาศัยอยู่ใน จ. ศรีสะเกษ พร้อมครอบครัวชาวกัมพูชา รวม 7 คน ส่งตัวกลับกัมพูชาผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิตร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี หลังจากที่นางเขื่อนมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยกว่า 20 ปี แต่มีพฤติกรรมแชร์ข่าวปลอม ใส่ร้ายโจมตีเจ้าหน้าที่ทหาร สร้างความไม่พอใจให้กับคนไทยในพื้นที่ และเมื่อตรวจสอบพบว่านางเขื่อน เอกสารหมดอายุ เท่ากับอยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย
ทั้งนี้การส่งกลับดังกล่าว เป็นไปตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยมีการตรวจสอบข้อมูล เอกสาร หลักฐาน จัดทำประวัติ จากนั้นทำการผลักดันกลับประเทศ
ซึ่งบรรยากาศช่วงเวลานั้น มีการพยายามสอบถามนางเขื่อนถึงความรู้สึก แต่เจ้าตัวไม่ตอบ ทำเพียงโบกมือปฎิเสธเท่านั้น ส่วนบรรยากาศด้านหน้าจุดผ่านแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวกัมพูชาประมาณ 100 คนรอเดินข้ามแดนกลับประเทศของตนเองเช่นกัน
>> "อนุทิน" ย้ำ ยังไม่เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ขอรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการก่อน ชี้ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ
15.23 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการเปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่าข่าวที่เผยแพร่ออกไปมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หรือ “บิ๊กเล็ก” ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเปิดด่านทันที ทั้งนี้ การดำเนินการลักษณะดังกล่าวไม่สามารถทำได้โดยพลการ ต้องผ่านขั้นตอนและข้อตกลงร่วมกันหลายด้าน โดยรัฐบาลจะต้องยึดผลประโยชน์ของประชาชนไทยเป็นหลัก
นายอนุทิน ระบุเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ทุกการดำเนินงานยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน จึงยังไม่สามารถออกนโยบายหรือสั่งการใด ๆ ได้ ต้องรอให้รัฐบาลใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการก่อน จึงจะกำหนดแนวทางชัดเจนได้
สำหรับกระแสคัดค้าน จาก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่กังวลว่าการเปิดด่านอาจเอื้อบ่อนการพนันและกลุ่มสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า การเปิดด่านไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันที แต่ต้องมีการเจรจาและบรรลุข้อตกลงอย่างรอบคอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะดำเนินการภายใต้รัฐบาลใหม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความจำเป็นในการทำความเข้าใจกับประชาชน นายอนุทินย้ำว่า ประชาชนเข้าใจสถานการณ์อยู่แล้ว และยืนยันว่าทุกการตัดสินใจจะทำโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
>> กองบังคับการปราบปราม เปิดปฏิบัติการ ทลายขบวนการสวมบัตรเถื่อน ฟอกตัวเป็นไทย EP.2
15.39 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 10 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่มนายหน้าจำนวน 4 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันสนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันให้ยื่นคำขอมีบัตรอันเป็นเท็จฯ, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ, ร่วมกัน ทำ ใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จฯ”
และผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 6 ราย ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันสนับสนุน ยื่นคำขอมีบัตร ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่”
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน เมษายน 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า มีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพตัวอย่างบัตรประชาชนในแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียของประเทศจีน (เสี่ยวหงษ์ชู – XHS) ว่ารับบริการจัดทำบัตรประชาชนไทยได้ จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบการกระทำผิด และดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหารายนี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้มีการขยายผลเพื่อจับกุมกลุ่มขบวนการดังกล่าว โดยมีการขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 และในวันที่ 11 ก.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่จับกุมกลุ่มนายหน้า จำนวน 4 ราย และกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 6 ราย รวมทั้งสิ้น 10 ราย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> รถกระบะเสียหลักชนบ้านเรือนและฟาดเข้าต้นไม้ข้างทาง เพื่อนสาวนั่งเบาะหลังดับ ส่วนหนุ่มคนขับเจ็บสาหัส
17.22 น. รับแจ้งจาก สมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย มีอุบัติเหตุรถกระบะ เสียหลักชนกับต้นไม้ข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในยานพาหนะ ริมถนน บ้านต้นตาล ม.11 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน ฉะเชิงเทรา ลักษณะเสียหลักชนบ้านเรือน และต้นไม้ข้างทาง ตรวจสอบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายคือคนขับรถกระบะ เป็นผู้ชายไทย อายุประมาณ 17 - 18 ปี อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลพนมสารคาม และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิงไทย อายุประมาณ 17 - 18 ปี อยู่ที่เบาะหลังคนขับ
เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีคำสั่งให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตชันสูตรที่ รพ.พนมสารคาม เพื่อหาสาเหตุต่อไป
>> "เฉลิมชัย" ลาออกจาก “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” ด้วยปัญหาทางสุขภาพ
18.22 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แจ้งนายทะเบียนพรรคการเมือง ลาออกจาก “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” โดยระบุเหตุผลปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.68 และมอบให้ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รักษาการแทน
>> หนุ่มวัย 29 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟส่องสว่าง บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.
20.38 น. ได้รับแจ้ง จากกู้ชีพกลางดง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ริมถนนสายผ่านศึก - กุดคล้า ใกล้เคียงโรงเรียนผ่านศึกสงเคราะห์ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ป้ายทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ลักษณะชนกับเสาไฟส่องสว่างข้างทาง ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางเจ้าหน้าที่เริ่มช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ พร้อมใช้เครื่อง AED กระตุ้นหัวใจ ระหว่างรอทีมแพทย์มาดำเนินการนำส่งโรงพยาบาลมวกเหล็ก และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 29 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กลางดง
>> แผ่นดินไหว ขนาด 4.1 ภายในพื้นที่ประเทศเมียนมา
20.50 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.1 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 395 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ถนนพาหุรัด พื้นที่เขตพระนคร
00.59 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ศูนย์การค้าผ้าและเครื่องประดับ ถนนพาหุรัด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้น ประกอบกิจการจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 24 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยภูเขาทอง
>> เพลิงไหม้รถจักรยานไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยสีลม 21
01.53 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ลานจอดรถจักรยานไฟฟ้าให้เช่า ใกล้เคียงซอยสีลม 21 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพลิงลุกไหม้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเสียหายทั้งหมด จำนวน 16 คัน เสียหายบางส่วน จำนวน 7 คัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางรัก
>> รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ หนุ่มน้อยดับกลางถนน
02.22 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต บนถนนรังสิต - นครนายก คลอง 8 ใกล้เคียงทางเข้าสหการประมูล ในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ไม่พบป้ายทะเบียน ล้มคว่ำสภาพหน้ารถพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเป็นชายไทย อายุ 15 - 16 ปี พื้นที่ สภ.ธัญบุรี
>> แผ่นดินไหว บริเวณหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
04.27 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.6 ลึก 10 กม. บริเวณทางตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.สตูล ประมาณ 367 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย