12 กันยายน 2568 ท่ามกลางการแข่งขันด้านอวกาศที่ดุเดือด ล่าสุด BBC รายงาน องค์การนาซาของสหรัฐฯ สั่งห้ามพลเมืองจีนที่ถือวีซ่าสหรัฐฯ เข้าไปยังสถานที่ปฏิบัติงานขององค์การนาซาและโครงการต่างๆ ในขณะที่ชาติคู่แข่ง อย่างประเทศจีน ยังคงดำเนินการแข่งขันเพื่อส่งมนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์ ซึ่งถือเป็นการห้ามพลเมืองจีนเหล่านี้เข้าทำงานในศูนย์วิจัยอวกาศที่ได้รับความนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่ง

NASA ได้ยืนยันโดยระบุว่าพลเมืองจีนจะถูกจำกัดการเข้าถึงทางกายภาพ และ ไซเบอร์ของสิ่งอำนวยความสะดวก วัสดุ และเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่างานของเรามีความปลอดภัย โครงการอวกาศที่เร่งตัวขึ้นของจีนทำให้สหรัฐฯ ตื่นตัว และทำให้การแข่งขันระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดรุนแรงยิ่งขึ้น

ผู้สนับสนุนนาซาชาวจีนหลายราย เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า พวกเขาถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงระบบไอที เมื่อวันที่ 5 กันยายน และ ถูกห้ามไม่ให้พบปะกันแบบตัวต่อตัว ความเคลื่อนไหวของนาซาเกิดขึ้นท่ามกลางวาทกรรมต่อต้านจีนที่เพิ่มมากขึ้น ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ และการแข่งขันด้านอวกาศที่กำลังร้อนระอุ

สหรัฐวางแผนส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์ ภายในปี 2027 แม้ว่าแผนดังกล่าวของสหรัฐ จะล่าช้า และมีต้นทุนเกินงบประมาณ ในทางกลับกันจีนก็ระบุว่า กำลังวางแผนส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ให้ได้ภายในปี 2030 เช่นกัน นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ประเทศได้เสนอภารกิจ ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บนดวงจันทร์ภายในกลางปี ​​2030 ซึ่งจัดเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำรวจทางเลือกด้านพลังงานสำหรับฐานบนดวงจันทร์

ก่อนหน้านี้นักบินอวกาศชาวจีนถูกตัดออกจากสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)  เนื่องจากวอชิงตันห้ามไม่ให้ NASA แบ่งปันข้อมูลกับจีน ข้อจำกัดล่าสุดจากนาซายิ่งทำให้ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงเนื่องมาจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ ในขณะที่ปักกิ่งและวอชิงตันแข่งขันกันเพื่อให้ได้เปรียบในด้านเทคโนโลยี ทั้งสองก็เริ่มระมัดระวังกันมากขึ้น

แต่ที่สำคัญ "การแข่งขันของทั้ง 2 ประเทศ ไม่ใช่แค่การไปดวงจันทร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการที่ใครจะสามารถควบคุมทรัพยากรของดวงจันทร์ได้เมื่อไปถึงที่นั่นด้วย  เพราะดวงจันทร์ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ รวมถึงโลหะหายาก เช่น เหล็กและไททาเนียม รวมถึงฮีเลียม ซึ่งใช้ในทุกอย่างตั้งแต่ตัวนำยิ่งยวดไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์"

ที่มา https://www.bbc.com/news/articles/c9wd5qpekkvo?