หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 11 กันยายน 2568

วันที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 05:30 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 11 กันยายน 2568


>> สาววัย 20 ปี ขี่รถจยย. เสียหลักชนขอบทาง ศีรษะกระแทกฟุตบาทเสียชีวิต

07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บหมดสติ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนราชพฤกษ์ - นนทบุรี 1 ใกล้เคียงซอยบางกร่าง 12 ในพื้นที่ ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง หมายเลขทะเบียน กทม. พลิกคว่ำอยู่ มีหมวกกันน็อกเต็มใบของผู้บาดเจ็บตกอยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนมีร่องรอยไถลยาวกว่า 10 เมตร ห่างออกไปพบร่างของผู้บาดเจ็บหมดสติ 1 ราย ทางอาสากู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือและปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 20 ปี

ทางผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ สามารถจับภาพผู้บาดเจ็บขับขี่รถจยย.อยู่เลนซ้าย ก่อนจะมีชาย 1 ราย ขับขี่รถจยย. อยู่เลนกลางและเปลี่ยนเลนกระทันหัน ทำให้ผู้บาดเจ็บหักหลบแล้วเสียหลักล้ม ศีรษะกระแทกขอบฟุตบาทข้างทาง หมวกกันน็อกหลุดกระเด็น ผู้บาดเจ็บได้ลุกขึ้นมานั่งและจับที่ศีรษะก่อนจะฟุบลงไปกับพื้นไปอีกครั้ง ส่วนชายคนดังกล่าวได้จอดรถข้างทาง และเดินไปหยิบหมวกกันน็อก ก่อนจะเดินมาดูผู้บาดเจ็บ จากนั้นจึงเริ่มมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือและเรียกรถพยาบาล

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


>> พนักงานสาวชาวเมียนมา ร้านขายหมูถูกเครื่องบดมือ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือและนำส่ง รพ. พบว่านิ้วมือผิดรูปทั้งหมด

08.40 น. เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และรถกู้ชีพ เทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง ได้รับแจ้งเหตุ ผู้หญิง อายุ 20 ปี ชาวเมียนมา พนักงานขายหมูของร้านได้ถูกเครื่องบดหมูบดมือซ้ายติดอยู่กับเครื่องบดหมู ที่ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ม.6 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่นำเครื่องมือพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างไปให้การช่วยเหลือ โดยค่อยๆ ถอดชิ้นส่วนเครื่องบดหมูออกทีละชิ้น ใช้เวลาช่วยเหลือประมาณ 30 นาที จึงนำมือออกมาจากเครื่องบดหมูได้แล้วทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำตัว 2 โรงพยาบาล

ทางพนักงานบัญชี ของร้าน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บ ได้นำหมูไปบดภายในร้านบริเวณด้านหลัง ส่วนตนคอยรับลูกค้าอยู่ด้านหน้า จนกระทั่งมีพนักงานเห็นจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ โดยพนักงานคนดังกล่าวเพิ่งมาทำงานได้อาทิตย์ที่แล้ว

นายเอกลักษณ์ เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต็กตึ้ง กล่าวว่า เมื่อมาถึงพบหญิงชาวเมียนมา มือติดอยู่ที่เครื่องบดหมู ผู้บาดเจ็บมีอาการเจ็บปวดแต่ไม่ถึงกับหมดสติสอบถามรู้เรื่อง หลังจากนำมือออกมาได้พบว่านิ้วมือซ้ายทั้ง 5 นิ้วมีอาการผิดรูปทั้งหมด จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง


>> บุกรวบช่างซ่อมนาฬิกา ลักทรัพย์นาฬิกาลูกค้า 11 เรือน รวมของ 'นีโน่-เมทนี' 2 เรือน มูลค่า 5 แสน หนีกบดานศรีสะเกษ

10.51 น. ตำรวจกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ( บก.ปพ.) ร่วมกันจับกุม นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในครอบครองของนายจ้าง” และ " ยักยอก" โดยยึดของกลางคืนได้ เป็นตั๋วจำนำของกลางนาฬิกาที่ลักขโมยมา โดยไปตามจับกุมได้ที่ห้องพัก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและเข้าจับกุมช่างซ่อมนาฬิกา ที่ได้ก่อเหตุลักนำนาฬิกาข้อมือของลูกค้ารวม 11 เรือนไปจำนำ ซึ่งรวมถึงนาฬิกา 2 เรือนของ นีโน่-เมทนี บุรณศิริ นักแสดงและผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ที่นำมาให้ซ่อม โดยได้รับเงินจากการจำนำรวมกว่า 500,000 บาท การจำนำครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 จากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีไปเช่าห้องพักเพื่อซ่อนตัวอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากการสืบสวนเจ้าหน้าที่จึงตามจับได้หลับผู้ต้องหามาเช่าห้องอยู่ได้เพียง 10 วัน และได้แสดงหมายจับเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด

นอกจากนี้ การตรวจสอบประวัติยังพบว่า นาย เอ (นามสมมุติ) มีหมายจับติดตัวในคดี "ยักยอกทรัพย์" ของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีก 1 คดีด้วย เจ้าหน้าที่ได้ยึดตั๋วจำนำนาฬิกาได้จำนวน 10 ใบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในคดี โดยนายนอสารภาพและยอมรับว่า เงินที่ได้จากการจำนำนาฬิกานั้น ส่วนหนึ่งนำไปใช้เล่นการพนันออนไลน์ และอีกส่วนหนึ่งโอนไปให้ภรรยาที่อาศัยอยู่ในประเทศลาว และเมื่อตรวจสอบพบว่าปัจจุบันในบัญชีของเขามีเงินเหลืออยู่ไม่ถึง 10,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> แรงงานกัมพูชาลักลอบข้ามแดนหนีความยากจน ยอมจ่าย 6,500 บาท หวังกลับมาทำงานในไทย

11.00 น. กองกำลังบูรพา, ฉก.อรัญประเทศ, ชค.ทพ.12 (ร้อย ทพ.1204) เเละฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมชาวกัมพูชา 9 ราย ที่ลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมายในพื้นที่บ.กุดหิน ม.4 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าแรงงานกลุ่มนี้เคยทำงานในประเทศไทยมาก่อน แต่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงก่อนหน้านี้เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดและมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด

แรงงานชาวกัมพูชาให้ข้อมูลว่า ในประเทศของตนเองไม่มีงานทำ รายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากและขาดแคลนรายได้อย่างหนัก พวกเขาจึงตัดสินใจกลับมาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง เพราะมีค่าตอบแทนสูงกว่ามาก โดยยอมจ่ายเงินให้ผู้นำพาเป็นจำนวนเงินสูงถึง 6,500 บาทต่อคน เพื่อเดินทางกลับเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ขณะที่แรงงานกลุ่มนี้กำลังรอรถยนต์เพื่อเดินทางเข้าสู่พื้นที่ตอนในของไทย เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนได้เข้าตรวจพบและจับกุมตัวได้ทั้งหมด ส่วนผู้นำพาได้อาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหลบหนีไปได้

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวชาวกัมพูชาทั้งหมดส่งให้สถานีตำรวจภูธรคลองน้ำใส เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่

11.58 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 2.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ในพื้นที่ ตําบลกี้ดช้าง อําเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน


>> เปิดปฏิบัติการ “9.9 FAKE COMPANY” ทลายแก๊งบริษัทผีจีนเทา หลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญกว่า 654 ล้าน

13.56 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอท. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งเปิดปฏิบัติการ “9.9 FAKE COMPANY” บุกค้น 13 จุดในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และเชียงใหม่ จับแก๊งบริษัทผีจีนเทา หลอกลงทุนเทรดหุ้นผ่านแพลตฟอร์ม ได้ผู้ต้องหา 15 ราย (ไทย 14 จีน 1) และอายัดตัวในเรือนจำ 1 ราย พร้อมของกลางรถหรู 9 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม 40 รายการ เงินสดหลายสกุล พระเครื่อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท

เบื้องต้นพบขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่เป็นระบบ ใช้บัญชีนิติบุคคลม้าสร้างความน่าเชื่อถือและรับเงินจากเหยื่อ ก่อนเบิกถอนเงินสดครั้งละหลายล้านบาทแล้วส่งต่อให้ผู้บงการชาวจีน ขณะที่ผู้เสียหายกว่า 265 ราย สูญเงินรวม 654 ล้านบาท โดยมีการแอบอ้างชื่อบุคคลดังด้านการลงทุนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ตำรวจเตรียมขยายผลหาตัวผู้บงการและเครือข่ายที่เหลือ พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป


>> ผู้การนิติเวช เผยผลชันสูตรศพ จนท.สวนสัตว์ถูกสิงโตรุมทำร้าย

14.16 น. พล.ต.ต.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผู้บังคับการสถาบันนิติเวข โรงพยาบาลตำรวจ (ผบก.นต.รพ.ตร.) ระบุว่า หลังจากได้รับศพ นายเจียน อายุ 58 ปี มาตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ได้ตรวจเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งศพคืนให้กับญาติเพื่อทำพิธีต่อไป

เบื้องต้น ผลการชันสูตรของคณะทำงาน ที่ได้ตรวจบาดแผลภายนอกและภายใน พบว่าผู้ตายมีบาดแผลฉกรรจ์เยอะมาก บริเวณลำคอ แขนขาถึงขั้นกระดูกหัก และเส้นเลือดฉีกขาด ทำให้เสียเลือดมาก ซึ่งการบาดเจ็บที่กระดูกหักบริเวณต้นคอ ทำให้ผู้เสียชีวิตเคลื่อนไหวไม่ได้ หรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ส่วนบาดแผลที่บ่งชี้ ทำให้เสียชีวิตหลักๆ มี 3 บาดแผลใหญ่ คือ ที่ต้นคอกระดูกหัก ทำให้ไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาได้ ต้องนอนนิ่งๆ บริเวณบาดแผลต้นขาฉีกขาด ทำให้เส้นเลือดแดง และเส้นเลือดดำฉีกขาด เลือดไหลออกมาจากบาดแผลไม่หยุด รวมไปถึงการบาดเจ็บบริเวณหลอดลม ทำให้เปล่งเสียงขอความช่วยเหลือไม่ได้

พล.ต.ต.วิรุฬห์ กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจาก บาดแผลฉีกขาดจากการถูกกัด จึงทำให้เส้นเลือดฉีกขาด ส่วนในเรื่องของถูกสิงโตกัดหรือไม่ จะต้องดูประกอบกับสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนที่มีมีทั้งคลิปภาพ เพราะจะทำให้เห็นภาพบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่อาจจะเข้ากันได้


>> คุณตาวัย 84 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ ร่างกระเด็นเสียชีวิตในร่องกลางถนน จ.ลำปาง

14.20 น. ศูนย์กู้ชีพจังหวัดลำปาง รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ และมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนสายลำปาง - งาว ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีดำ ป้ายทะเบียน จังหวัดลำปาง จอดอยู่ฝั่งขวาของถนน มีสภาพหน้ารถพังยับเยินมีรอยยุบ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีขาว-แดง ป้าย ทะเบียน จังหวัดลำปาง สภาพล้มอยู่กลางถนน มีรอยไถลของรถยาวประมาณ 20 เมตร และพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตกอยู่ร่องน้ำกลางถนน เป็นชายไทย อายุ 84 ปี ชาวบ้านพิชัย ในสภาพคว่ำหน้าเสียชีวิต คอหัก กระดูกหักหลายส่วน มีเลือดออกศีรษะจำนวนมาก

สอบถามคนขับรถกระบะ เล่าว่า ตนขับรถมาจากทางบ้านต้นมื่น ตำบลพิชัย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขับเบี่ยงเลนจากทางซ้ายมาทางขวา แล้วตัดหน้ารถของตน ตนเบรกแล้วแต่ไม่ทัน จึงชนเข้าอย่างจัง จนร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นตกร่องน้ำกลางถนน

ทางเจ้าหน้าที่่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ และจะดำเนินการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


>> ปอศ. ผนึกกำลัง กรมปศุสัตว์–ศุลกากร ยึดขาไก่แช่แข็งลักลอบนำเข้า กว่า 230 ตัน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

14.58 น. พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผกก.2.บก.ปอศ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และศุลกากร นำกำลังเข้าตรวจยึดขาไก่แช่แข็ง ลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย น้ำหนักรวมกว่า 230,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ภายในศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มบริษัทต้องสงสัยใช้ตู้คอนเทนเนอร์ลักลอบนำเข้าสินค้า ประเภทขาไก่แช่แข็ง เนื้อหมู และสินค้านำเข้าประเภทอื่น โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมีลักษณะการกระทำสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานของเครือข่ายลักลอบนำเข้าตีนไก่และหมูเถื่อน ที่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงถึงการจัดการอย่างเป็นขบวนการของกลุ่มผู้ต้องหา

ทั้งนี้ หลังลงพื้นที่ศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย ผลการตรวจสอบพบว่า บริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง มีการสำแดงเอกสารต่อกรมศุลกากรอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ในการนำเข้าสินค้าดังกล่าว โดยสินค้าของกลางที่ตรวจยึดได้ เป็นขาไก่แช่แข็งลักลอบนำเข้า น้ำหนักรวมกว่า 54,000 กิโลกรัม 
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีกลุ่มบริษัทฯ ที่กระทำความผิดเพิ่มเติมอีก โดยสามารถอายัดขาไก่แช่แข็งลักลอบนำเข้า ณ พื้นที่ศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ น้ำหนักรวมกว่า 230,000 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจยึดและอายัดสินค้าทั้งหมดไว้ โดยจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเด็ดขาด


>> ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม "วิเชียรบุรี" ปัจจุบันน้ำป่าสักล้นตลิ่ง ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน กระทบ 300 กว่าครัวเรือน

15.56 น. นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายธงชัย เสนาะศรีตระกูล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายกิตติ ลิ้มศิริชัย นายอำเภอวิเชียรบุรี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่อำเภอวิเชียรบุรี ซึ่งเกิดภัยจากอิทธิพลของร่องมรสุม ทำให้แม่น้ำป่าสักล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2568 ในพื้นที่ 7 ตำบล 14 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า 300 หลังคาเรือน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และคณะ ได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ เพื่อให้กำลังใจผู้ประสบภัย พื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลสระประดู่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำป่าสักล้นตลิ่ง ปัจจุบันมีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 70 ซม. และเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานดูแลประชาชนให้เต็มกำลังความสามารถ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ


>> ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงเรือตรวจเขื่อนปิดจุดฟันหลอ พร้อมเผยคืบหน้าเกินครึ่ง ย้ำเฝ้าระวังน้ำใกล้ชิด

16.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม โดยกล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำของกรุงเทพฯ ที่ต้องเฝ้าระวังจาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. น้ำฝนในพื้นที่ โดยช่วงที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักต่อเนื่อง และตกแบบ Rain Bomb ซึ่งมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. น้ำทะเลหนุน ซึ่งจะมีผลดันระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้สูงขึ้น และ 3. น้ำเหนือที่ไหลลงมา ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนค่อนข้างสูง ใกล้เคียงกับปี 2554 แต่เชื่อว่าปีนี้จะสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่า เพราะมีบทเรียนและประสบการณ์ที่ผ่านมา

ปัจจุบันเขื่อนเริ่มทยอยปล่อยน้ำลงมา อัตราการปล่อยอยู่ที่ประมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ระดับวิกฤตอยู่ที่ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นยังมีช่องว่างในการรองรับได้ แต่ไม่สามารถวางใจได้ ต้องระวังหากเกิดพายุเข้าหรือฝนตกหนักทางภาคเหนือ ซึ่งมีโอกาสทำให้น้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นและอาจทำให้เขื่อนต้องปล่อยน้ำเพิ่ม 
ในส่วนของแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีจุดฟันหลอที่ไม่มีคันกั้นน้ำ จำนวน 32 จุด ดำเนินการก่อสร้างแนวคันกั้นน้ำเสร็จแล้ว 22 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 จุด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ 3 จุดภายในเดือนกันยายน 2568 อีก 7 จุดที่เหลืออยู่ระหว่างการของบประมาณ โดยจุดที่เหลือเหล่านี้ได้จัดเรียงกระสอบทรายแล้ว


>> ‘ภูมิธรรม’ อำลามหาดไทย ห่วงสางปัญหายาเสพติด–ปราบผู้มีอิทธิพล เปิดใจหากมีโอกาสก็อยากนั่ง มท. กระทรวงเดียว

16.48 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการทำงานวันสุดท้ายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงมาที่ห้องสื่อมวลชนประจำกระทรวง เพื่อพูดคุยและร่วมรับประทานอาหารว่างกับสื่อมวลชน จากนั้นได้พาชมห้องทำงาน มท.1 พร้อมเปิดเผยว่า ไม่ได้มีของอะไรมากมาย เพราะตนเองเป็นรัฐมนตรีที่มีความเรียบง่าย อีกทั้งได้ทยอยเก็บของใช้ส่วนตัวออกจากกระทรวงไปบ้างแล้ว

นายภูมิธรรม ได้พูดคุยและตอบคำถามสื่อมวลชน ว่า อยากกลับมานั่งเก้าอี้นี้อีกครั้ง เพราะเป็นงานที่ใกล้ชิดกับประชาชนและมีภารกิจให้ทำมากมาย อีกทั้งยังเป็นสายงานที่ตนเองเรียนมาโดยตรง ตั้งแต่สมัยเรียนรัฐศาสตร์ จุฬาฯ จึงถือเป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก ยอมรับว่า รู้สึกเสียดายที่ยังไม่สามารถผลักดันการแก้ปัญหายาเสพติดและการจัดการผู้มีอิทธิพลได้อย่างเต็มที่ พร้อมฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สานต่อการแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดง

นายภูมิธรรม ย้ำว่า หากมีโอกาสได้กลับมาเป็นรัฐมนตรี ก็อยากอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเดียว


>> เหตุไฟไหม้แคมป์คนงาน ซอยสุขสวัสดิ์ 60 รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

16.54 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ บริษัทแห่งหนึ่ง ซอยสุขสวัสดิ์ 60 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็น เพิงพักโครงสร้างไม้หลังคาและฝาผนังสังกะสี ใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวของคนงาน ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ ใต้ถุนเพิงพัก เพลิงลุกไหม้เสียหายอุปกรณ์เครื่องนอนลุกลามกองเสื้อผ้า พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 3 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่ทราบสาเหตุ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณะ


>> มรดกเลือด พี่ชายเดือด ชักปืนยิงน้องสาวดับ ต่อหน้าเพื่อนบ้าน เซ่นปมแบ่งที่ดินไม่ลงตัว จ.ลำปาง

18.00 น. สภ.ห้างฉัตร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยปงยางคก เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ บ้านดอนแก้ว หมู่ 9 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง

ที่เกิดเหตุพบร่างของ หญิงไทย อายุ 59 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มีบาดแผลถูกยิง 4 นัด บริเวณศีรษะและลำตัว ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสอ (นามสมมุติ) อายุ 61 ปี เป็นพี่ชายแท้ๆ ของผู้ตาย เจ้าหน้าที่คุมตัวได้พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ .38 ที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบสวน นายสอ ให้การว่า เกิดจากปัญหาแบ่งมรดกที่ดิน หลังบิดาเสียชีวิตไปไม่กี่ปี ที่ดินมีทั้งหมด 6 แปลง แต่ตกลงกันไม่ได้ นายสมคิดได้เพียง 1 แปลง ส่วนนางมาลีต้องการเอาอีก 5 แปลงทั้งหมด ทำให้มีปากเสียงกันมาตลอดเย็นวันเกิดเหตุ นายสอ เข้าไปพูดคุย แต่ไม่เป็นผลจึงชักปืนยิง ทางน้องสาวพยายามวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือบ้านเพื่อน แต่ล้มหมดสติและเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ก่อนที่เจ้าตัวจะยอมมอบตัวกับตำรวจพร้อมอาวุธปืน เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> เหตุรัวยิงดับกลางซอยเทอดไท 33 ผู้ก่อเหตุเป็นหลานชาย ได้ขี่รถจยย.หลบหนี ตร.ประสานญาติเกลี่ยกล่อมให้มามอบตัว

18.38 น. รับแจ้งจาก ม.ร่วมกตัญญู เกิดเหตุทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธป์นยิงกัน มีผู้เสียชีวิต ภายในซอยเทอดไท 33 พื้นที่ เขตจอมทอง กทม.

ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชายไทย อายุ 45 ปี ลักษณะถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด มีบาดแผลตามร่างกาย บนพื้นพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 7 ปลอก ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบว่า เป็นหลานชาย อายุประมาณ 25 ปีของผู้เสียชีวิต หลังจากก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปแล้ว

ขณะที่ตำรวจ สน.บุคคโล และชุดสืบสวน ได้ข้อมูลว่า ครอบครัวของผู้ตายกับหลานชาย มีปัญหาเรื่องมรดกกันมานาน 2 ครอบครัวนี้ไม่ถูกกัน ล่าสุดมีเรื่องสุนัขตัดหน้ารถจักรยานยนต์มีเรื่องทะเลาะกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ พร้อมประสานญาติช่วยเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ส่วนร่างผู้ตายนำส่งรพ. ก่อนให้ครอบครัวรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


>> ลอบเผารถแบ็คโฮ งานก่อสร้างสะพานที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เสียหายวอด 1 คัน ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

19.20 น. ร้อย.ทพ.4214 ฉก.ทพ.42 ได้รับแจ้งจาก กำนัน ต.บ้านกลาง ว่ามีเหตุเผารถแบ็คโฮ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเข้ามาดำเนินการก่อสร้างสะพาน ในพื้นที่ บ.บางมะรวด ม.1 และ บ.แหลมแป้ง ม.8 ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี

ที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงไหม้รถแบ็คโฮ 1 คัน ทางเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิง ใช้หัวฉีดน้ำเข้าควบคุมและเพลิงสงบลงในเวลาต่อมา ตรวจสอบไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ


>> ผบ.ตร.สั่งเข้ม ปิดล้อมกระชับพื้นที่ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ป่าสวนยางสะบ้าย้อย จ.สงขลา

19.57 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กรณีเช้ามืดวันนี้ เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบชายแดนใต้ พื้นที่ป่าสวนยางเนินเขา บ้านห้วยเต่า ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญมาตั้งแต่แรก เพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ ประชาชน พระสงฆ์และสามเณร มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก

ในกรณีนี้ถือเป็นการเข้าปฏิบัติการต่อเป้าหมายที่มีการออกหมายจับและติดตามมาอย่างต่อเนื่อง โดยตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้ประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารเข้าปฏิบัติการ โดยเข้าควบคุมตัวเจ้าของสวน และได้มีการซักถามจนยืนยันว่าได้ให้ที่พักพิงกับผู้ก่อเหตุจริง จากนั้นได้แบ่งกำลังติดตามและค้นหา พบว่ากลุ่มผู้กระทำผิดได้หลบหนีอยู่ และได้มีการใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กัน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัย อยู่ระหว่างการสำรวจและเคลียร์พื้นที่ ยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดปฏิบัติการ เข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณจุดปะทะครั้งแรก ซึ่งเป็นเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี พบกระเป๋าเป้จำนวน 3 ใบ และคราบเลือดเชื่อว่าเป็นของคนร้าย และเกิดการยิงปะทะกันเป็นครั้งที่ 2 อยู่ระหว่างการปิดล้อมและการกระชับพื้นที่ พร้อมกับเชิญผู้นำให้มาเจรจาเพื่อให้คนร้ายออกมามอบตัว หากมีความคืบหน้าจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป


>> หนุ่มเมียนมา ขี่รถ จยย. เสียหลักล้ม ร่างกระเด็นตกคลอง ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีช่วยดึงขึ้นฝั่ง ก่อนรถกู้ชีพนำส่ง รพ.

20.00 น ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน รับแจ้งเหตุ รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถนนริมคลองอ้อมน้อย หมู่ที่ 4 ตำบลอ้อมน้อยอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า CBR 500R สีแดง หมายเลขทะเบียน สมุทรสาคร บริเวณด้านหน้าและด้านข้างพังยับ ส่วนตัวรถคาอยู่กับท่อนไม้บริเวณจุดก่อสร้างคลองอ้อมน้อย ส่วนคนขับตกลงไปในคลอง ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยนำขึ้นมาจากคลอง และรถกู้ชีพโรงพยาบาลวิชัยเวช ได้นำผู้ได้บาดเจ็บส่ง โรงพยาบาลมหาชัย 2 เป็น ชาย อายุ 31 ปี ชาวสัญชาติเมียนมา

จากการสอบถามชาวบ้านที่พักอาศัยใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ CBR ได้วิ่งมาเส้นทางริมคลองอ้อมน้อย ก่อนจะเฉี่ยวชนสุนัข ส่วนคนขับได้หักหลบและชนเข้ากับขอบไม้ คนกระเด็นตกน้ำ มีพลเมืองดีช่วยผู้บาดเจ็บขึ้นมา ส่วนอาการบาดเจ็บ หัวแตก ไหล่หลุด และขาด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ

ด้านพนักงานสอบสวน ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น ก่อนจะประสานรถยกให้นำรถขึ้น และเคลื่อนย้ายไป สภ.กระทุ่มแบน ก่อนจะประสานญาติเจ้าของมารับรถคืนต่อไป


>> ไฟไหม้เพิงพักร้าง ซอยพระรามที่ 6 วอดทั้งหลังแล้วลุกลามอาคารข้างเคียงเสียหายบางส่วน จนท.นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.

20.46 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ ซอยพระรามที่ 6 ซอย 18 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักร้างชั้นเดียวโครงสร้างไม้หลังคาสังกะสี ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ภายในเพิงพัก เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง แล้วลุกลามอาคารพาณิชย์ที่อยู่ใกล้เคียง ที่บริเวณระเบียงชั้นที่ 3 เสียหายบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 20 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่สายไฟฟ้า ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย (รายที่ 1) เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลศิริราช (รายที่ 2) เป็นเพศชาย ไม่ทราบอายุ มีอาการสำลักควันเล็กน้อย ปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุไม่ต้องการไปโรงพยาบาล (รายที่ 3) เป็นเพศหญิง ไม่ทราบอายุ มีอาการสำลักควันเล็กน้อย ปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุไม่ต้องการไปโรงพยาบาล พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท


>> แก๊สรถยนต์รั่วไหล ซอยเสรีไทย 41 พื้นที่เขตบึงกุ่ม

21.49 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุแก๊สรั่วไหล สถานที่เกิดเหตุหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยเสรีไทย 41 ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีบรอนด์ทอง หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง เจ้าหน้าที่ได้ทำการระบายแก๊สเป็นที่เรียบร้อย

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากตัวถังบรรจุแก๊สชำรุด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม