9 กันยายน 2568 สำนักข่าว Aljazeera รายงาน เมื่อวันจันทร์ ที่ 8 กันยายน เกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนรุ่น Gen Z หลายพันคนออกมารวมตัวกันใกล้อาคารรัฐสภาในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาล เพื่อคัดค้านการตัดสินใจแบนแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง Facebook, X และ YouTube รวมถึงแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลในวงกว้าง  เหตุการณ์ในกรุงกาฐมาณฑุรุนแรงมากขึ้น เมื่อตำรวจใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง ปืนฉีดน้ำ และกระบองเข้าใส่ผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของเมืองหลวง

มีผู้ประท้วง 17 ราย ถูกสังหารในกรุงกาฐมาณฑุ และอีก 2 ราย จากการประท้วงที่มีผู้เสียชีวิตในเมืองอิตาฮารี มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย และมีการประมาณการว่าอาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงถึง 400 ราย ซึ่งรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ราวินา ชัมดาซานี โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบหลังเหตุการณ์นองเลือด พร้อมระบุ  “เรารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์สังหารและการบาดเจ็บของผู้ประท้วงในเนปาลวันนี้ และขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนโดยเร็วและโปร่งใส” 

โฆษกคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ Prithvi Subba Gurung กล่าวเมื่อเช้าวันอังคารว่า ล่าสุด "รัฐบาลได้ยกเลิกการห้ามใช้โซเชียลมีเดียที่บังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  คำสั่งห้ามดังกล่าวได้ปิดกั้นเว็บไซต์สื่อ 26 แห่ง นั่นรวมถึง WhatsApp, Facebook, Instagram, LinkedIn และ YouTube โดยรัฐบาลพยายามจัดการกับข้อมูลที่ผิดพลาด การฉ้อโกง และ คำพูดที่แสดงความเกลียดชัง"

ขณะที่ รัฐบาลกล่าวเมื่อค่ำวันจันทร์ว่า จะจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนและเสนอค่าชดเชยให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการประท้วง

ที่มา : www.aljazeera.com