24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 6 กันยายน 2568

>> อุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนวัวตาย! ก่อนเสียหลักตกลงคลองดับสลด 2 ราย ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก

07.22 น. สภ.แก่งโสภา จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถเก๋งพุ่งชนวัว ก่อนเสียหลักพลิกคว่ำตกแอ่งน้ำข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จุดเกิดเหตุบริเวณถนนหมายเลข 12 ช่วงน้ำตกปอยถึงบ้านโป่งปะ หลักกิโลกเมตรที่ 292 หมู่ 1 บ้านน้ำตกปอย ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ริมถนนพบซากวัวสภาพถูกชนเละ 1 ตัว พบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว แผ่นป้ายทะเบียน พิษณุโลก เสียหลักพลิกคว่ำตกลงแอ่งน้ำข้างทาง กู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากรถเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ทราบชื่อต่อมา คือ นายอุทิศ อายุ 53 ปี ชาวอ.นครไทย จ.พิษณุโลก และ น.ส.ฉัตรชนก อายุ 50 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

>> ยิงกันสนั่น! กลางตลาดสด 18 เมตร เมืองเพชรบุรี มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

09.00 น. สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ภายในตลาดสด 18 เมตรเพชรบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด อยู่ภายในร้านขายไข่ จำนวน 2 คน เป็นสามีภรรยากัน โดยทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ซิกซาวเออร์ p320 ขนาด 9 มม. ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบศพผู้ก่อเหตุดังกล่าว ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตาย เป็น ผบ.หมู่(ป.) สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี และพบอาวุธปืน ซิก ซาวเออร์ p320 อยู่ที่มือขวา 1 กระบอก

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบ ทราบว่าผู้ก่อเหตุ และคู่กรณีเคยมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันเรื่องขายไข่มาก่อนหน้านี้ กว่าหนึ่งปีแล้ว จนกระทั่งวันนี้ได้เกิดเหตุสลดขึ้น กลางตลาดสด 18 เมตร สร้างความตกอกตกใจให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าอยู่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก

>> สกัดการลักลอบตัดไม้สัก! ป่าดอยพระเจ้า ยึดของกลางได้ 103 ท่อน มูลค่าความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท

10.30 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตาก 2 และผู้เกี่ยวข้อง ลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าดอยพระเจ้า" ครอบคลุมเขตป่าแม่ระมาด และเขตป่าท่าสองยาง ตรวจพบไม้สักท่อนถูกลักลอบตัดรวม 103 ท่อน คิดเป็นค่าเสียหายกว่า 2,467,200 บาท โดยแบ่งเป็น ป่าแม่ระมาด บ้านห้วยปลากอง พบไม้สัก จำนวน 50 ท่อน ค่าเสียหาย 1,285,200 บาท, ป่าท่าสองยาง บ้านแม่ออกฮู จุดที่ 1 พบไม้สัก จำนวน 27 ท่อน ค่าเสียหาย 671,400 บาท พร้อมตรวจยึดเครื่องยนต์ HONDA สีแดง พร้อมอุปกรณ์แปรรูปไม้ และ ป่าท่าสองยาง บ้านแม่ออกฮู จุดที่ 2 พบไม้สัก จำนวน 26 ท่อน ค่าเสียหาย 510,600 บาท

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึด บันทึกหลักฐาน และตีตรายืนยันของกลาง ก่อนส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ระมาด และ สภ.ท่าสองยาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> ทะเลชลบุรี พบวาฬบรูด้า 6 ตัว ด้าน สทช.2 ลงพื้นที่ที่สำรวจเพื่อเก็บข้อมูล พร้อมขอ ประชาชน ช่วยกันระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของวาฬบรูด้า

11.25 น. เพจ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โพสต์ข้อความระบุ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 โดยส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ได้รับแจ้งจากเครือข่าย ชมรมกู้ชีพทางทะเลฉลามขาว (พิทักษ์ทะเล) แจ้งว่าพบฝูงวาฬบรูด้า ว่ายน้ำบริเวณหน้าชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ สทช.2 จึงลงพื้นที่ร่วมกับเครือข่ายฯ พบว่า เป็นวาฬบรูด้า มีลักษณะแข็งแรง ว่ายน้ำหากินปลา กระจายตัว ตั้งแต่หน้าชายหาดบางแสน จนถึงชายหาดบางพระ ประมาณ 6 ตัว

จึงประสานทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่ง ตะวันออก ลงพื้นที่สำรวจเพื่อเก็บข้อมูลจำนวนประชากร และการแพร่กระจาย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ ประสาน สำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองแสนสุข สำนักงานเจ้าท่าสาขาชลบุรีออกประกาศ เรื่องการเฝ้าระวัง และ ข้อควรระวังในการวิ่งเรือ โดยเฉพาะเรือท่องเที่ยว สปีดโบ๊ท เจ็ตสกี เรือสินค้า และ เรือทำการประมง ผ่านเส้นทางการหาอาหารของวาฬบรูด้า เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย และความปลอดภัยของวาฬบรูด้า ต่อไป ขณะที่ สำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี ประกาศเพิ่มความระมัดระวัง ขณะนี้ ได้มีการพบวาฬบรูด้าจำนวน 6 ตัว เข้ามาหากินในเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดชลบุรี พิกัด บริเวณ เขาสามมุก ถึงเขตบางพระ ในการนี้สำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี ขอความร่วมมือชาวประมงในพื้นที่ดังกล่าว ระมัดระวังในการเดินเรือและการทำประมง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของวาฬบรูด้า

>> ญาติ-แฟนเพลงอาลัย รับศพ สาธิต ทองจันทร์ หมอลำชื่อดัง ภรรยาเผยสาเหตุเสียชีวิต

13.30 น. บ้านหนองหูลิง ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ญาตินำศพ “สาธิต ทองจันทร์” หรือ นายสานิต ไชยทองศรี ศิลปินลูกทุ่งหมอลำคนดังระดับตำนาน เจ้าของบทเพลงอมตะ มือสังหาร และปากโกรธใจคิดถึง มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด หลังเสียชีวิตอย่างสงบในวัย 68 ปี ด้วยอาการล้มป่วยจากอาการสโตรค เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติ เพื่อนบ้าน และแฟนเพลง

ด้าน นางลัดดา เชียงเดช ภรรยาคู่ชีวิต “สาธิต ทองจันทร์” กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สาธิต ทองจันทร์ มีโรคประจำตัวหลายโรค มีเส้นเลือดตีบ และป่วยสะสมมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ไม่เคยบอกใคร เพราะเป็นคนอดทน ล่าสุดเมื่อ 3 วันที่แล้ว เกิดอาการสโตรก ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม และเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อ เวลา 8.30 น. วันที่ 6 กันยายน 2568 สร้างความเสียใจให้กับครอบครัว และญาติอย่างมาก ทั้งนี้สำหรับศพสาธิต จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดบ้านเลขที่ 145 ม.3 บ้านหนองหูลิง ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมศพ 7 วัน และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 13 ก.ย.2568

>> กองกำลังผาเมือง สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดยึดยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด ในพื้นที่ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

14.30 น. กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด (ชั่วคราว) เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณถนนสาธารณะ บ้านหนองเต่า บ้านบริวารของบ้านม่วงชุม หมู่ที่ 10 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาเมื่อเวลา ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย เพศชาย จำนวน 1 ราย ขับขี่รถจักรยานยนต์บรรทุกกระสอบฟางสีขาว จำนวน 1 กระสอบ มาจากเขตพื้นที่ บ้านป่าคา หมู่ที่ 11 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง ฯ

หน่วยจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่เมื่อบุคคลดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ ได้กลับรถก่อนถึงจุดตรวจ ฯ ประมาณ 50 เมตร และได้ขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง บ้านป่าคา ฯ หน่วยจึงได้ทำการไล่ติดตาม แต่บุคคลดังกล่าวอาศัยความชำนาญในภูมิประเทศ และทัศนะวิสัยจำกัดหลบหนีไปได้ โดยที่ระหว่างการไล่ติดตามได้ตรวจพบกระสอบฟางสีขาว จำนวน 1 กระสอบ ตกอยู่ข้างทาง บริเวณบ้านหนองเต่า ห่างจากจุดตรวจ ฯ ประมาณ 150 เมตร จากการตรวจสอบภายในถุงกระสอบฟางดังกล่าว ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมประมาณ 100,000 เม็ด จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กลุ่มผู้กระทำความผิดได้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน กรณีไทย-กัมพูชา โดยคาดการณ์ว่ากำลังทหารจะถูกระดมไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นช่องทางในการลักลอบขนส่งยาเสพติดในปริมาณที่เพิ่มขึ้น

สรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 415 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 442 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 172,247,256 เม็ด, เฮโรอีน 158.7 กิโลกรัม, ไอซ์ 8,892 กิโลกรัม, ฝิ่น 96.9 กก. และ เคตามีน 696 กิโลกรัม จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 52 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 34 ศพ ซึ่งหากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 35,589 ล้านบาท (35,589,073,300 บาท)

>> ปคบ.-ปศุสัตว์ บุกทลายห้องเย็นกลางเมืองอยุธยา ยึดเนื้อเถื่อน 190 ตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท

15.00 น. ปคบ. พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการ ร่วมกับกรมปศุสัตว์ เข้าตรวจค้นห้องเย็น 3 จุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถยึดซากเนื้อต้องและเครื่องในสงสัยได้กว่า 190,478 กิโลกรัม ประกอบด้วยเนื้อโค 3,550 กิโลกรัม, เนื้อกระบือ 140 กิโลกรัม และเครื่องในโคจำนวนมหาศาลถึง 186,788.07 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าของไม่สามารถแสดงเอกสารแหล่งที่มาได้อย่างถูกต้องคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 15 ล้านบาท

จากการตรวจสอบ พบว่า​ผู้ประกอบการรายนี้เคยมีพฤติกรรมกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2566 และคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งอายัดซากสัตว์ทั้งหมดไว้ชั่วคราว และให้เวลาผู้ประกอบการ 15 วัน เพื่อนำหลักฐานมาชี้แจงแหล่งที่มา หากไม่สามารถทำได้จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้​หากเนื้อสัตว์เหล่านี้ถูกกระจายออกสู่ท้องตลาดโดยไม่มีการตรวจสอบ อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทั้งสุขภาพของประชาชนและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคจากสัตว์สู่คน เช่น โรคลัมปี สกิน หรือโรคปากและเท้าเปื่อย และยังเป็นการทำลายผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างสุจริต

>> เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานภายในต้องสงสัยเอี่ยวคดีฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ ที่ชลบุรี

16.30 น. ความคืบหน้าคดีฆ่าอำพรางศพหญิงสาวนิรนาม ยังไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 30-40 ปี ถูกฆ่ายัดใส่กระเป๋าเดินทาง ใช้แผ่นดัมเบลน้ำหนักรวม 15 กก. ถ่วงน้ำหนัก แล้วนำไปโยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ ม.11 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ท้องที่ สภ.ห้วยใหญ่ โดยคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน

ที่ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี พ.ต.ท.นิติภูมิ บัตรวงศ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ห้วยใหญ่ และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.) ได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์เอสยูวี ยี่ห้อโตโยต้า เวลอส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน จ.ชลบุรี เป็นรถเช่า ของเต็นท์รถแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา และเป็นรถต้องสงสัยที่ใช้ในการก่อเหตุในคดีนี้ เนื่องจากรถคันดังกล่าวได้ขับไปซื้อดัมเบลที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เบื้องต้น ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) มีการตรวจสอบเก็บหลักฐานและลายนิ้วมือแฝงอย่างละเอียด ขณะที่เจ้าของรถเช่า ให้ปากคำกับตำรวจว่า มีลูกค้าเก่า เป็นชาวจีนติดต่อขอเช่ารถคันดังกล่าว โดยทำสัญญาเช่ารถเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. - 10 ก.ย. ซึ่งในวันรับรถ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ลูกค้าเป็นชายชาวจีนรายนี้ ขอรับรถที่บริเวณประตูขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ โดยในวันรับรถมีชายชาวจีน 2 คน เดินทางมารับรถ หลังจากมีการทำสัญญาและส่งมอบรถเสร็จ โดยยืนยันว่า 1 ในชายชาวจีนที่มาเช่ารถเป็นลูกค้าเก่า เคยมาเช่ารถเมื่อหลายเดือนก่อน

ขณะเดียวกันแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ เริ่มได้ข้อมูลของคนร้ายชัดเจนมากขึ้น โดยหลักฐานสำคัญ คือเอกสารในการเช่ารถ รวมถึงภาพถ่าย ซึ่งจากการพิสูจน์ทราบคาดว่า คนร้ายในคดีนี้เป็นกลุ่มชาวจีน ส่วนปมสาเหตุการฆ่าสังหารโหดและอำพรางศพ ยังไม่ชี้ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด

>> พ่อ-แม่พาลูกชาย 4 ขวบซ้อนท้ายจยย.ฝ่าสายฝนเสียหลักคว่ำ ลูกกระเด็นเข้าใต้ท้องรถบรรทุกถูกทับดับสลด

18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม เด็กชาย 4 ขวบถูกล้อรถบรรทุกทับเสียชีวิต บนถนนราชพฤกษ์ขาออก ต.บางกร่าง อ.เมือง จ นนทบุรี

ที่เกิดเหตุพบร่างเด็กชาย วัย 4 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถบรรทุก 10 ล้อ อีซูซุ ทะเบียน จ.ปทุมธานี บริเวณล้อหลังด้านขวาของรถบรรทุกมีรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีเขียว ทะเบียน กทม. ล้มตะแคงอยู่ โดยมีผู้เป็นพ่อและแม่รวมถึงญาติๆนั่งร้องไห้โฮข้างศพ

สอบสวนทราบว่า พ่อและแม่พาลูกชายไปเที่ยวห้างย่านราชพฤกษ์ ก่อนเกิดเหตุกำลังขับขี่รถกลับบ้านย่านบางบัวทองแต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน โดยกล้องหน้ารถพลเมืองดีบันทึกภาพนาทีเกิดเหตุ ขณะรถจักรยานยนต์ 3 พ่อแม่ลูกขี่ตามหลังรถเก๋งมาท่ามกลางสายฝนที่กำลังตก เป็นจังหวะที่รถจักรยานยนต์มีการเบรกทำให้เกิดเสียหลักล้ม ตัวเด็กกระเด็นเข้าไปใต้ท้องรถบรรทุกถูกล้อหลังทับเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำคลิปภาพกล้องหน้ารถไว้เป็นหลักฐาน พร้อมสอบสวนคนขับรถบรรทุกเพิ่มเติม ส่วนร่างเด็กชายมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามต่อไป

>> นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษวัย 74 พลัดตกโรงแรมหรูเมืองพัทยาดับปริศนา

19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุพบศพชาวต่างชาติพลัดตกตึกเสียชีวิต บริเวณโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ริมถนนพัทยาสาย 2 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณด้านข้างอาคาร พบศพชาวต่างชาติ ทราบชื่อว่า นายคีธ์ อายุ 74 ปี สัญชาติอังกฤษ สภาพศพนอนคว่ำหน้า กระดูกตามร่างกายหักหลายจุด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายพักอยู่ที่ห้อง ชั้น 10 ของโรงแรมดังกล่าว ตรวจสอบภายในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์ พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลวงจรปิดในห้วงเวลาตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ไม่พบใครเข้าออกห้องนอกจากตัวผู้ตายเพียงคนเดียว จนกระทั่งมาพบว่าผู้ตายตกตึกลงมาเสียชีวิต โดยตำรวจยังไม่ทราบว่าสาเหตุของการตกตึกเกิดจาก อุบัติเหตุหรือเป็นการฆ่าตัวตายเอง อย่างไรก็ตามจะได้นำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสรุปสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป