24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 กันยายน 2568
>> หนุ่มขับกระบะเสียหลักพุ่งชนพระภิกษุขณะเดินบิณฑบาตมรณภาพ ตร.เรียกเป่าแอลฯ พบสูง 221 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
06.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักชนพระภิกษุมรณภาพ 1 รูป ริมถนนสาย ลำปาง - เกาะคา ฝั่งขาล่อง ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ เขตบ้านศาลาดงลาน อ.เกาะคา จ.ลำปาง
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ป้ายทะเบียน ลำปาง ลักษณะพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า สภาพรถพังยับเสียหายทั้งคัน ข้างๆกั น พบรถยนต์เก๋งรุ่นเก่า สีทอง ทะเบียนลำปาง แถบซ้ายทั้งแถบพังเสียหาย และท้ายรถเก๋งยังกระเด็นไปชนติดกับรถกระบะแวนรุ่นเก่า สีน้ำเงิน ที่จอดอยู่ในบ้าน เสียหายอีก 1 คัน
และตรวสอบ บริเวณด้านท้ายรถกระบะคันสีดำ พบร่างของ พระภิกษุ 1 รูป มรณภาพ ในสภาพศีรษะเปิดมีแผลฉกรรจ์ กระดูกหักตามร่างกาย ทราบชื่อต่อมาคือ พระบุญสม อายุ 69 ปี ชาว อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ฆ้องคำ บ้านศาลาหลวง อ.เกาะคา
ในที่เกิดเหตุ ยังพบว่าบริเวณจุดกลับรถ บ้านศาลาดงลาน มีร่องรอยเศษรถยนต์กระบะกระจัดกระจาย หลังพุ่งชนเสาหลักลายตรงจุดกลับรถเสียหาย 1 ต้น แล้วมีรอยเบรกของยางรถพุ่งมาทางจุดเกิดเหตุ ประมาณเกือบ 50 เมตร
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะสีดำ ขับมาทางตรงจากในเมืองลำปาง มุ่งมาทางอำเภอเกาะคา โดยคนขับอ้างว่า เมื่อมาถึงจุดกลับรถดังกล่าว มีรถบรรทุกกำลังจะกลับรถ ทำให้ตนที่มาในทางตรงเสียหลัก ชนเข้ากับเสาหลักลาย แล้วพุ่งมาชน พระสงฆ์ที่กำลังออกมาเดินบิณฑบาตอยู่ข้างทาง แล้วรถกระบะก็ไปชนกับ รถเก๋ง 1 คันที่จอดอยู่หน้าบ้าน แล้วรถเก๋งก็กระเด็นถอยไปกระแทกรถกระบะที่จอดอยู่ในบ้านเสียหายอีก 1 คัน
โดยคนขับรถยนต์กระบะสีดำ เป็นชาย อายุ 27 ปี ชาว ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีแผลถลอกตามร่างกายและศีรษะ บอกว่าตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน หลังเมื่อคืนไปดื่มกินกับเพื่อนที่ในเมืองลำปางมา
โดยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ. เกาะคา ได้ให้คนขับรถกระบะ เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์เบื้องต้น พบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 221 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม จนท.ตำรวจ สภ.เกาะคา จะได้สอบสวนเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> ไฟไหม้หญ้าและกองฟาง ซอยสุวินทวงศ์ 54 เพลิงลุกลามรถยนต์, รถจักรยานยนต์เสียหาย
09.13 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ ซอยสุวินทวงศ์ 54 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองจอก ตรวจสอบแล้วเป็นเหตุเพลิงไหม้หญ้าและกองฟางภายในโรงจอดรถ ลุกลามรถยนต์เสียหายจำนวน 2 คัน (คันที่ 1) รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร เสียหายไฟท้ายด้านขวาเล็กน้อย (คันที่ 2) รถตู้โดยสาร ไม่ทราบยี่ห้อ สีบรอน หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร เสียหายด้านขวาเล็กน้อย และรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายประมาณ 20 ตารางวา ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
>> กรมควบคุมโรค เผย ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษวานร รายใหม่เพิ่มอีก 5 ราย
09.38 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์โรคฝีดาษวานร (Mpox) พบผู้ป่วยรายใหม่ในไทยเพิ่ม 5 ราย เฉพาะในปี พ.ศ. 2568 มีผู้ป่วยสะสม 61 ราย ยังไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 กันยายน
นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลจากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคฝีดาษวานร (Mpox) โดยกองระบาดวิทยา ในสัปดาห์ที่ 34 (17 – 23 สิงหาคม 2568) พบผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดชลบุรี 3 ราย ขอนแก่นและกรุงเทพมหานคร แห่งละ 1 ราย และเฉพาะในปี พ.ศ. 2568 มีผู้ป่วยสะสม 61 ราย ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต ยังคงพบผู้ป่วยต่อเนื่องทุกสัปดาห์มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา
โดยตั้งแต่เกิดการระบาดในปี พ.ศ. 2565 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 933 ราย เสียชีวิต 13 ราย ส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก่อนป่วย การสัมผัสแนบเนื้อกับผู้ป่วย จากข้อมูลยังพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) บางรายเพิ่งตรวจพบว่าติดเชื้อ ขณะที่บางรายทราบอยู่แล้วแต่ไม่ได้รับยาต้านไวรัส (ARV) เพื่อกดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายต่อสู้กับโรคอื่นได้น้อยลง จึงมีความเสี่ยงอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป
สำหรับข้อมูลผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย อายุระหว่าง 18 – 39 ปี ปัจจัยเสี่ยงหลักมาจากการสัมผัสที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ ในสัปดาห์นี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ clade lb ภายในประเทศ และยังไม่มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรทั่วโลกยังพบต่อเนื่อง โดยเฉพาะภูมิภาคแอฟริกากลางและตะวันออก และบางประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงต่อการพบผู้ติดเชื้อที่นำเข้าจากต่างประเทศ กรมควบคุมโรคยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยง ให้ความรู้สุขศึกษาแก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำชับบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลเฝ้าระวัง หากพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ ให้รายงานเข้าสู่ระบบเฝ้าระวังทันที กรมควบคุมโรคขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังและการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีความพร้อม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ควรเฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
>> ทลายรังกระจายบุหรี่ไฟฟ้า ย่านแม่กลอง ยึดบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาจำนวนหลายหมื่นชิ้น พบบุหรี่ไฟฟ้าคล้ายของเล่นเด็ก
10.15 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ลงพื้นที่ตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา และส่วนควบ จำนวนประมาณ 50,000 ชิ้น
โดยทางตำรวจ ปอศ. ได้สืบทราบว่าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ จังหวัดสมุทรสงคราม มีการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาและส่วนควบของบุหรี่ไฟฟ้าจากประเทศจีน มาเก็บไว้ในบ้านหลังดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาให้กับเครือข่ายในพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะนำออกไปขายให้กับกลุ่มเยาวชนและบุคคลทั่วไป
จากการเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบนางบอ(นามสมมุติ) ได้มาแสดงตนเป็นเจ้าของ/ผู้ให้เช่าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายค้น และพบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิดมืด พบกล่องกระดาษวางเรียงกันอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อทำการตรวจสอบภายในกล่องพบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาและส่วนควบบรรจุอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้ารูปการ์ตูนซึ่งมีลักษณะคล้ายกับของเล่นเด็ก สามารถดึงดูดเยาวชนให้สนใจมาใช้ได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นับจำนวนบุหรี่ไฟฟ้าที่พบทั้งหมดแล้วมีจำนวนหลายหมื่นชิ้น ตีเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท พร้อมแจ้งข้อหา ก่อนที่จะขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามคำให้การนางบอ แจ้งว่าตนเป็นผู้ให้เช่าบ้าน เป็นเจ้าของสถานที่ สินค้าทั้งหมดไม่ใช่ของตนและไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่มีหญิงไทยได้มาเช่าบ้านดังกล่าวตั้งแต่ปี 2566 โดยตนไม่ทราบมาก่อนเลยว่าจะนำมาเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า
>> หนุ่มคลั่งบุกพังร้านขนมจีน ใช้พร้าฟันพนักงาน – เจ้าของร้านขับรถชนสาหัส
10.30 น. เกิดเหตุชายวัย 40 ปีคลุ้มคลั่ง บุกใช้มีดพร้าอาละวาดพังร้านขนมจีนชื่อดังริมถนนสายไชยบุรี ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง ทำให้ร้านเสียหายยับ พนักงานถูกฟันบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล
หลังก่อเหตุ ชายคนดังกล่าว ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปขวางถนนหน้าโรงขนมจีน ขณะเดียวกัน เจ้าของร้าน วัย 36 ปี ขับรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ เข้ามาที่ร้านหลังพนักงานโทรแจ้ง ไม่ทันเห็นรถ จยย จึงชนเข้ากับรถ จยย. ทำให้ชายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลก่อนนำ ส่ง รพ พัทลุง
เบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่คนที่บ้านถูกร้านดังกล่าวให้ออกจากงาน ตำรวจเร่งสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินคดีต่อไป
>> รถกระบะเสียหลักชนกัน แล้วรถเก๋งตามหลังชนซ้ำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จ.ราชบุรี
11.13 น. สภ.ดำเนินสะดวก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนหลายคัน บนถนนเส้นทาง สมุทรสงคราม – บางแพ หน้าโรงงานน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง ในพื้นที่ ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ลักษณะชนกับ รถกระบะแคป อีซูซุ สีเทา และรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า สีดำ สภาพรถทั้งสามคันพังเสียหายหนัก บริเวณหน้ารถกระบะแคปพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 34 ปี
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายขับรถกระบะกลับบ้าน ระหว่างทางรถเกิดเสียหลักพุ่งชนท้ายรถกระบะที่จอดอยู่ข้างทางอย่างแรง จนรถยนต์ที่จอดอยู่กระเด็นออกไปขวางกลางถนน ทำให้รถเก๋งที่ขับมาพุ่งชนจนได้รับความเสียหาย
เบื้องต้นตำรวจจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบสภาพรถและพยานแวดล้อม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
>> ปภ. เตือน 10 จังหวัดภาคกลาง-กทม. ยกของขึ้นที่สูง หลังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น
11.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งว่า กรมชลประทาน ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำ 1-9 วันข้างหน้า โดยวันที่ 5 ก.ย. ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,900 – 2,300 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาอีกประมาณ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที
ทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณระหว่าง 2,000-2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่ง ในอัตรา 350 – 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 1,500 – 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.30 – 1.10 เมตร ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
กอปภ.ก. จึงได้ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำและบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
>> ตำรวจหัวหิน สกัดจับยาไอซ์ล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ขณะลำเลียงส่งลูกค้าภาคใต้
12.56 น. พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับ บก.ปส.4 บช.ปส. และตำรวจทางหลวง จับกุมแก๊งยาเสพติดรวม 4 คน มี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี นาย บี (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี นายซี (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี และ นายดี (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 17 กระสอบ น้ำหนักรวม 600 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน สระแก้ว 1 คัน ได้ภายในปั๊มน้ำมันถนนเลี่ยงเมือง (บายพาส) ขาขึ้นเหนือ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน นำตัวมาสอบสวน
โดยก่อนหน้านั้นตำรวจสืบทราบว่าจะมีแก๊งยาเสพติดขนยาเสพติดไปยังจังหวัดภาคใต้ โดยใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองหัวหิน จึงนำกำลังแบ่งเป็น 2 ชุด เฝ้าสังเกตุการณ์ ก่อนพบรถบรรทุกต้องสงสัยคันดังกล่าวขับเข้ามาจอดในปั๊มน้ำมันจึงเข้าตรวจค้นและพบยาไอซ์ดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างขนยาไอซ์จาก จ.เชียงราย ไปส่งลูกค้าที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสนบาท เคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้พลาดถูกจับได้เสียก่อน จากนั้นตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่ง บช.ปส. เพื่อสอบสวนขยายผลจับกุมพรรคพวกที่เหลือดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> ขบวนรถ ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ระหว่างสถานีหนองน้ำขุ่น - สีคิ้ว พ่อใหญ่วัย 81 ปีเสียชีวิต
14.10 น. รับแจ้งว่าเกิดเหตุ ขบวนรถด่วนที่ 71 (กรุงเทพอภิวัฒน์ - อุบลราชธานี) ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และมีผู้เสียชีวิต บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 223/8 ระหว่างสถานีหนองน้ำขุ่น – สีคิ้ว ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
ที่เกิดเหตุ พบขบวนรถด่วนที่ 71 ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 209 นครราชสีมา ผู้ขับขี่ เป็นชายไทย อายุ 81 ปี สวมเสื้อลาย กางเกงยีนส์สีดำ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว ร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้หน่วยกู้ภัยพรหมธรรม อ.สีคิ้ว นำรางผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสีคิ้ว เพื่อชันสูตรหาสาเหตุต่อไป
>> พบโครงกระดูกมุษย์กลางป่าไผ่ บ้านท่าแหน ญาติแจ้งไว้หายเมื่อเมษากลางปี ตร.ตรวจสอบ นำส่ง รพ.ชันสูตร
15.30 น. รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรแม่ทะ พบโครงกระดูกมนุษย์ บริเวณกลางป่าไผ่ บ้านท่าแหน หมู่7 ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
ที่เกิดเหตุ พบเป็นโครงกระดูกมุษย์ 1 ร่างไม่ทราบชื่อไม่ทราบเพศ สภาพลักษณะคล้ายกับนอนหงายหน้า กระดูกกระจัดกระจายน่าจะเกิดจากหนูหรือสุนัขมากัดแคะเนื้อหนังไปจนหมด
ต่อมามีญาติมายืนยันที่เกิดเหตุว่าเป็นคนในครอบครัวตัวเอง เพราะจำลักษณะเสื้อผ้าและของตกในที่เกิดเหตุได้ แจ้งว่าเป็นเพศชาย อายุประมาณ 40 ถึง 50 ปี มีโรคประจำตัวเป็นจิตเวช ได้หายออกจากบ้านประมาณเดือนเมษายน ปี 68ที่ผ่านมา ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.แม่ทะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ทะ ร่วมตรวจสอบ ก่อนจะมอบให้สมาคมกู้ภัยแม่ทะนำโครงกระดูกไปฝากไว้ที่นิติเวชโรงพยาบาลลำปางเพื่อหาสาเหตุต่อไป
>> ชาวอำเภอแม่แจ่ม ผนึกกำลังจัด Big Cleaning Day ฟื้นฟูพื้นที่ปางอุ๋ง
16.19 น. นายเกรียงศักดิ์ บุญตาปวน นายอำเภอแม่แจ่ม นำกำลังพลจากทุกภาคส่วนกว่า 933 นาย จัดกิจกรรม “Big Cleaning Day ฟื้นฟูคืนบ้านสวยน่าอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนบ้านปางอุ๋ง” หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเร่งทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติ
การระดมพลครั้งใหญ่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐและเอกชน ทั้งจากกองบังคับการอาสารักษาดินแดน 19 จังหวัด มูลนิธิกระจกเงา, มูลนิธิสว่างสำเร็จ, ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33, กรมทหารพรานที่ 36, เจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น, ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, และภาคเอกชนอย่างสยามคูโบต้า
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ เน้นการทำความสะอาดหมู่บ้านทั้งหมด 100% เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนส่งมอบพื้นที่คืนให้แก่ชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นฟูต่อไป
ในช่วงบ่ายยังมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบการวางแผนย้ายที่อยู่ใหม่สำหรับชาวบ้านที่ต้องการย้าย เช่น สำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 1, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองเชียงใหม่, และหน่วยงานธรณีวิทยา โดยจะมีการสำรวจพื้นที่ใหม่ที่ชาวบ้านต้องการย้ายไปอาศัย ณ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านปางอุ๋ง
>> รถพ่วงชนกับรถโดยสารสองแถว ถนนมิตรภาพ และมีผู้บาดเจ็บหลายราย จ.อุดรธานี
16.49 น. หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาฯ รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุ รถกระบะสองแถว ชนกับรถพ่วง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนมิตรภาพ เส้นทางอุดรธานี - ขอนแก่น ก่อนถึงปั๊มน้ำมน ในพื้นที่ บ้านดงเค็ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะโดยสารสองแถว อีซูซู สีแดง ทะเบียน ศรีสะเกษ พลิกตะแคงอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบรถพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ สีแดง ทะเบียน ชลบุรี จอดอยู่ในาสภาพหน้ารถฝั่งซ้าย มีร่องรอยการชนได้รับความเสียหาย ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ นำส่ง โรงพยาบาลอุดรธานี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี
>> เพลิงไหม้รถยนต์ ใกล้เคียงโรงแรมดังย่านปทุมวัน ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ
17.30 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีดำ หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง ที่เกิดเหตุเป็นไฟฟ้าลัดวงจรภายในกล่องควบคุมรถยนต์ซึ่งอยู่บริเวณใต้ท้องรถด้านคนขับ เสียหายเฉพาะกล่องควบคุมรถยนต์ ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในกล่องควบคุมรถยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท
>> แผ่นดินไหว ประเทศเมียนมา
01.03 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.2 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 44 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
>> ไฟไหม้รถนั่งส่วนบุคคล ภายในหมู่บ้านย่านวัชรพล เสียหายวอดทั้งคัน
02.59 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยวัชรพล 7 ถนนวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีเทา หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในตัวรถยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม