วันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 15:41 น.
5 ก.ย. 68 เวลา 11.30 น. ตำรวจไซเบอร์แถลงข่าวตามรวบ 6 บัญชีม้า กดเงินสดส่งนายทุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์
โดยกรณีที่ 1 มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้พบโฆษณาบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ อ้างว่าจะมีการแจกผลิตภัณฑ์ชาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้เสียหายสนใจจึงได้ติดต่อผ่านกล่องข้อความไป โดยคนร้ายได้บอกรายละเอียดของการรับผลิตภัณฑ์ชาฟรี จากนั้นให้ผู้เสียหายแอดไลน์ พบว่าเป็นไลน์แอดมิน โดยแจ้งว่าหากประสงค์รับผลิตภัณฑ์ชาฟรี ต้องเข้ากลุ่มโปรโมตสินค้าก่อน ผู้เสียหายจึงทำตามคำแนะนำและโอนเงินเพื่อทำกิจกรรมรวม 528,220 บาท จากการสอบสวนพบว่าเงินของผู้เสียหายได้ถูกโอนเข้าบัญชีม้าเพียงทอดเดียว จากนั้นได้ถูกถอนออกทันที ผ่านเคาท์เตอร์ของธนาคารหลายแห่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงสืบสวนจนกระทั่งทราบตัวผู้ถอนเงิน รวมถึงผู้ทำหน้าที่เฝ้าควบคุมคนถอนเงิน โดยจับผู้ต้องหาได้2 ราย เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้รับสารภาพ ตำรวจแจ้งข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์"
กรณีที่ 2 มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้รับสายโทรศัพท์อ้างว่ามาจากสำนักงานที่ดิน จ.แม่ฮ่องสอน แจ้งว่าที่ดินของผู้เสียหายยังไม่ได้ออกกรรมสิทธิ์เป็นโฉนด คนร้ายให้ผู้เสียหายแอดไลน์เพื่อคุยรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเดินสำรวจที่ดิน และให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลตามขั้นตอน จากนั้นได้ให้เปิดแอปพลิเคชันไลน์เพื่อโทรแบบวิดีโอคอล ส่งลิงก์ให้กด และทำตามขั้นตอนที่คนร้ายแนะนำ จากนั้นไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบบัญชีธนาคาร พบว่ามีเงินถูกโอนออกไปเสียหายรวม 651,800.00 บาท ต่อมา กก.1 บก.สอท.4 สืบสวนจนทราบว่าเงินของผู้เสียหายได้ถูกโอนเข้าบัญชีม้าเพียงทอดเดียว แล้วถูกถอนออกไปทันทีผ่านเคาท์เตอร์ของธนาคารหลายแห่งในพื้นที่ กทม. กระทั่งทราบตัวผู้ถอนเงินรวมถึงผู้ทำหน้าที่ควบคุม จนจับกุมคนร้ายได้2 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ อาทิ บัญชีธนาคารของบุคคลอื่น, โทรศัพท์มือถือ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพโดยให้ข้อมูลว่าได้พบประกาศของคนร้ายผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการซื้อขายบัญชีม้า จึงได้สอบถามรายละเอียด โดยคนร้ายแจ้งว่าเป็นบัญชีปลายทางสำหรับถอนเงินสดเท่านั้นไม่ใช่เงินผิดกฎหมาย หากเบิกถอนเงินสดผ่านบัญชีของผู้ต้องหาจะได้รับผลตอบแทนจำนวน 2 เปอร์เซ็นต์ ผู้ต้องหาจึงได้ตกลงทำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ"
กรณีที่ 3 ผู้เสียหายรายนี้ได้ถูกหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยพบโฆษณาชักชวนลงทุนเกี่ยวกับการเทรดหุ้น ผู้เสียหายสนใจจึงได้ติดต่อและแอดไลน์ และถูกส่งให้สนทนาต่อไปยังผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ สุดท้ายเสียหายรวม 1,923,366.22 บาท ตำรวจมีการสืบสวนขยายผล กระทั่งรู้ตัวผู้ถอนเงินรวมถึงผู้ทำหน้าที่ควบคุม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคล 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน โดยสามีสัญชาติ บังกลาเทศ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าได้ทำธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตร แต่ภายหลังเกิดการขาดสภาพคล่องทางธุรกิจ และได้พบประกาศโฆษณาในกลุ่มเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ การซื้อขายบัญชี จึงตัดสินใจทำ นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าบริษัทของผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ ได้รับโอนเงินจากผู้เสียหายรายอื่นอีก 4 บัญชี รวมเป็นเงินที่รับโอนจำนวน 1,281,500 บาท โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ว่าจ้าง และเร่งรวบรวมพยานดำเนินคดี ผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป