หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 กันยายน 2568

วันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 05:35 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 กันยายน 2568


>> มทภ.1 ลุยชายแดนสระแก้ว ติดตามความคืบหน้าการออกเอกสารสิทธิ์ให้ชาวบ้านหนองจาน

10.30 น. พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่บ้านหนองจาน หมู่ 3 ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว โดยมี พลตรี เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.กกลฯ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งประชาชนในบ้านหนองจานให้การต้อนรับ ซึ่งก่อนจะมีพิธีมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับเจ้าของที่ดินที่อยู่ติดกับหลักเขตแดนที่ 46-47 คณะของแม่ทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริง บริเวณหลักเขตแดนที่ 46 ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออก ศูนย์อพยพเดิมบ้านหนองจาน ห่างจากถนนศรีเพ็ญ ประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ นายวีระ สมความคิด พร้อมพวกถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาจับกุมเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา

จากนั้น คณะ มทภ. 1 ได้เดินทางมาพบปะชาวบ้านหนองจานที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านหนองจาน เพื่อแสดงความชัดเจนในการออกเอกสารสิทธิ์ พื้นที่ที่เจ้าของที่ดินไม่ได้เข้าไปทำกินเมื่อประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา เนื่องจาก มีปัญหาการรุกล้ำที่ดินของเขมร ซึ่งบัดนี้ทางกองทัพภาคที่ 1 พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้นำพื้นที่ดังกล่าวกลับมาให้เจ้าของที่ดินพร้อมทั้งเจ้าของที่ดิน สามารถนำไปออกโฉนดได้ทันที

ขณะเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้วในครั้งนี้ มีจุดประสงค์ 4 ข้อ คือ การลงตรวจพื้นที่เพื่อความสงบเรียบร้อย, การตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารในสังกัด, การพบปะพูดคุยกับชาวบ้านเจ้าของพื้นที่ที่เป็นประเด็นปัญหาก่อนหน้านี้ และ ติดตามความคืบหน้าการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ชายแดน

ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชา บริเวณบ้านโจกเจยที่อยู่ตรงกันข้ามกับศูนย์อพยพเดิมบ้านหนองจานน มีมวลชนชาวเขมรเกือบ 200 คน มาดูป้ายประกาศแถลงการณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วที่ออกเตือนให้ประชาชนชาวเขมรที่มาปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ในฝั่งไทยให้ดำเนินการรื้อถอนออกไปโดยเร็ว โดยเป็นป้ายประกาศ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเขมร หากฝ่าฝืนจะถูกทางการไทยดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งภาพรวมส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเขมรมาคอยควบคุมตลอดเวลา

>> ไฟไหม้รถจักรยานยนต์ เสียหายวอดทั้งคัน

10.41 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ ใกล้เคียงปั้มน้ำมัน ถนนรัชดา-รามอินทรา ถนน รัชดา-รามอินทรา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม

ที่เกิดเหตุเป็นรถจักรยานยนต์ สีดำแดง ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซิน เป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ในที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน


>> 2 หนุ่มร่วมนั่งก๊กสุรา รอรับสิ่งของบริจาค เกิดมีปากเสียงแทงกันเจ็บ ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.

12.00 น. สภ.บ้านไผ่ รับแจ้งว่ามีเหตุแทงกันและมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณตรงข้ามศูนย์กู้ภัย ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

ที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย นอนหมดสติใต้ต้นไม้ ลักษณะถูกของมีคมเป็นมีดพับแทงเข้าตามร่างกายหลายแผล ทราบชื่อนายสมภาน รถกู้ภัยพุทธญาณปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง รพ.บ้านไผ่ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบต่อมาว่า คือนายสอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี เป็นคน ต.หนองกวัง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร นั่งรอเจ้าหน้าที่ให้จับคุมในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายวอ (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี เล่าว่า ตนและผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุได้มานั่งดื่มสุราด้วยกันบริเวณดังกล่าว แล้วผู้ก่อเหตุได้มีปากเสียงกับผู้บาดเจ็บ ผู้ก่อเหตุเลยใช้อาวุธมีดพับขนาดความยาว 15 เซนติเมตรแทงเข้าที่บริเวณลำคอและตามลำตัวหลายแผลหมดสติในที่เกิดเหตุ

ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า นัดเจอกับผู้ตาย ด้านหน้าหน่วยกู้ภัยแล้วพากันซื้อเหล้ามานั่งดื่มใต้ต้นมะขามรอรับของแจกตั้งแต่เมื่อคืน ระหว่างนั่งดื่มกินกันจนเมาทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันถูกผู้ตายพูดแดกดันด้วยความเมาและโมโหเลยใช้มีดพกแทงเข้าที่หน้าอกและลำคอไปหลายที ในส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่อีกที


>> เพลิงไหม้ภายในวัด ย่านถนนสุขุมวิท 101 พระภิกษุใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ

13.53 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารคอนกรีต 5 ชั้น ประกอบกิจการศาสนสถาน ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 4 ภายในกุฏิพระ เพลิงลุกไหม้ ที่นอนลุกลามชั้นวางของ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร พระภิกษุใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทำการระบายความร้อน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดจงจรที่ปลั๊กไฟฟ้าติดผนัง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพระโขนง


>> รวบ รปภ.แสบ ลักเหล็กโรงงานขาย ความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท

16.08 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม ชาย อายุ 56 ปี ฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” โดยตามไปจับกุมได้ที่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง อ.มะนัง จ.สตูล

เนื่องด้วยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ผู้เสียหายซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่ง ได้สำรวจโกดังสินค้าพบว่า มีโซ่ลำเลียง ที่เป็นเหล็ก ได้หายไปจากโกดังของโรงงาน ได้รับความเสียหายประมาณ 9,000,000 บาท ตรวจสอบย้อนหลัง พบการสูญหายของสินค้าดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.คลองแงะ และทำการสืบสวนสอบสอบพบว่านายเส ซึ่งเป็น รปภ.ของบริษัท ได้ทำการลักเอาเหล็กของผู้เสียหายไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ กระทั่งพบว่าผู้ต้องหาได้มาพักอาศัยอยู่กับคนรู้จัก ในพื้นที่ อ.มะนัง จ.สตูล จึงไเข้าจับกุม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองแงะ จ.สงขลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> 'ต่อจิ๊กซอว์' หลักฐานที่ได้มาอย่างต่อเนื่อง คดีฆ่ายัดกระเป๋าอำพรางศพ กลางอ่างเก็บน้ำบางไผ่ พบเบาะแสสำคัญ ชี้เหยื่ออาจไม่ใช่คนไทย

16.30 น. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดการสืบสวนคดีดังกล่าว ที่ สภ.ห้วยใหญ่

ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกได้ โดยจากผลการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และมีร่องรอยการทำศัลยกรรมเสริมคางและหน้าอก ตรวจพบซิลิโคนฝังอยู่ ซึ่งมี “ซีเรียลนัมเบอร์” เป็นภาษาจีน แตกต่างจากคดีคล้ายกันที่บ้านฉางเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งซิลิโคนเป็นผลิตภัณฑ์จากสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ สรีระของผู้เสียชีวิตสูงประมาณ 162 เซนติเมตร ผิวขาว คาดว่าไม่น่าจะเป็นคนไทย แต่เป็นชาวเอเชีย โดยตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบฐานข้อมูลเพื่อยืนยันอัตลักษณ์บุคคล พร้อมทั้งเชื่อว่าผู้ก่อเหตุอาจเป็นผู้มีความรู้เส้นทางในพื้นที่ หรืออาจมีการเลียนแบบคดีเก่า

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ ย้ำว่า การสืบสวนมีการ “ต่อจิ๊กซอว์” หลักฐานที่ได้มาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้กลุ่มผู้ต้องสงสัยเริ่มแคบลงแล้ว และคาดว่าในไม่ช้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็น “ข่าวดี” สำหรับการคลี่คลายคดีสะเทือนขวัญครั้งนี้


>> สืบเมืองภูเก็ต รวบ “เจ มังกร” ตระเวนลักทรัพย์ตามหอพัก/ห้องเช่า อ้างนำทรัพย์สินไปขายได้เงินมาใช้จ่ายส่วนตัวและซื้อยาไอซ์มาเสพ

17.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกับ ชุดวิเคราะห์ข่าวฯ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุม นายวอ (นามสมมุติ) หรือ เจ มังกร อายุ 39 ปี เป็นคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ตามหอพัก/ห้องเช่า ก่อเหตุต่อเนื่องกว่า 7 ครั้งในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งในพื้นที่ ต.วิชิต และเมืองภูเก็ต ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก 
จากการสอบถาม นายเจ มังกร ยอมรับว่า ตนได้ตระเวนลักทรัพย์โดยจะอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอไม่ล็อกประตูห้องห้องพักและเข้าไปลักทรัพย์ โดยทรัพย์ที่ลักมาได้แก่ โทรศัพท์ เงินสด และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆที่สามารถนำไปขายต่อได้ง่าย จากนั้นจะนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายส่วนตัว ซื้อยาไอซ์มาเสพ จนถูกจับกุมในที่สุด

โดย ทางเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์เวลากลางคืนและเสพยาเสพติดฯ พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินต่างๆ รถจักรยานยนต์เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ ส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> การรถไฟฯ ยืนยันไม่เลื่อนเข้าให้ถ้อยคำต่อดีเอสไอ คดีที่ดินเขากระโดง จะไปตามกำหนดนัดหมายวันที่ 5 ก.ย. นี้

18.14 น. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนรายงานข่าวว่า การรถไฟฯ เลื่อนการเข้าให้ถ้อยคำต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในฐานะผู้ร้องทุกข์/กล่าวโทษ กรณีที่ดินเขากระโดงนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือถึงการรถไฟฯ เลขที่ ยธ 0809/339 ลงวันที่ 1 กันยายน 2568 เพื่อเชิญให้การรถไฟฯ มาให้ถ้อยคำในฐานะผู้ร้องทุกข์/กล่าวโทษ ในประเด็นที่มีการร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคล ซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ในการปกป้องดูแลรักษาที่ดินบริเวณเขากระโดง อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แต่กลับปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนอาจเอื้อประโยชน์ให้บุคคลอื่นเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว

โดยคณะพนักงานสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้กำหนดนัดหมายให้การรถไฟฯ มาให้ถ้อยคำในวันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดังนั้น การรถไฟฯ จะเดินทางไปตามกำหนดนัดหมายที่ระบุไว้ในหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป


>> เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายน้ำ "แบบขั้นบันได" เป็น 1,500-2,000 รองรับน้ำหลากจากฝนตกหนัก

18.36 น. กรมชลประทาน แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ จากการติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าในระยะนี้ยังคงมีฝนตกหนักสะสมอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ปริมาณน้ำที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,900 - 2,300 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาอีกประมาณ 100 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ประมาณ 2,000 - 2,400 ลบ.ม./วินาที

ดังนั้น เพื่อรองรับปริมาณน้ำดังกล่าว กรมชลประทานจึงจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา แบบขั้นบันไดในอัตราประมาณ 1,500 - 2,000 ลบ.ม./วินาที โดยได้รับความเห็นชอบจาก คณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 30 - 110 เซนติเมตร


>> พี่คว้ามีดพับสวนแทงเข้าอกซ้ายน้องชายดับ ต่อหน้าแม่ ในห้องเช่าหลังแฟลตย่านดินแดง ตร.คุมตัวไปสอบสวน

21.10 น. พ.ต.ต. อุดม มูลกิตติ สว.สอบสวน สน.ดินแดง ได้รับแจ้งมีเหตุ ชายทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกัน อาสากู้ภัยพร้อม จนท.สายตรวจ จึงเร่งเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่า หลังแฟลตย่านดินแดง ในพื้นที่ เขตดินแดง กทม.

ในที่เกิดเหตุ พบร่างของ ชายไทย อายุ 48 ปี ประกอบอาชีพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริษัทแห่งหนึ่ง สภาพนอนหงายอยู่กับพื้นทางเดินหน้าห้องพัก สภาพถูกแทงด้วยอาวุธมีด และมีบาดแผลที่หน้าอก

จากการสอบถามข้อมูลในที่เกิดเหตุ พบว่าถูกผู้เป็นพี่ชาย อายุ 49 ปี ได้ใช้อาวุธมีดชนิดพับแทงเข้าไปที่อกหน้าด้านซ้ายบริเวณหัวใจพอดี ซึ่งขณะนั้นแม่ของผู้ก่อเหตุได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

เบื้องต้นยังไม่ทราบชนวนเหตุที่แน่ชัด แต่จากการสอบถามคนที่อยู่ในตึกเดียวกัน ได้บอกว่า พี่น้องคู่นี้มักมีปัญหากันบ่อยครั้งในขณะที่ดื่มสุรา

ขณะที่ จนท.สายตรวจสน.ดินแดงพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างการนำตัวไปสอบสวนที่ สน.เพื่อหาสาเหตุอย่างแน่ชัดอีกครั้ง


>> รถบัสชนกับรถพ่วง แล้วเสียหลักตกข้างทาง ริมถนนหมายเลข 304 มีผู้บาดเจ็บหลายราย

22.09 น. รับแจ้งจากกู้ภัยพนมสารคาม เกิดอุบัติเหตุรถบัส สาย อุบล นครราชสีมา พัทยา ชนกับรถ 18 ล้อพ่วง แล้วเสียหลักตกข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในรถ บนถนนทางหลวงหมายเลข 304 มุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี บริเวณ ฝั่งตรงข้ามทางเข้าแยกบ้านไร่ดอน ม.15 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุ พบรถบัส สาย อุบล นครราชสีมา พัทยา สีขาว-เขียว ลักษณะชนกับ รถพ่วง สีเขียว ป้ายทะเบียน 1478 เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครตรวจสอบเบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย

นำส่ง รพ.พนมสารคาม จำนวน 9 ราย ชาย 6 รายหญิง 3 ราย, นำส่ง รพ.ราชสาส์น จำนวน 7 ราย ชาย 4 ราย หญิง 3 ราย และ นำส่ง รพ.สนามชัยเขต จำนวน 2 ราย หญิง 1 ราย ชาย 1 ราย

สอบถามข้อมูลผู้โดยสารมากับรถบัสทั้งหมดจำนวน 35 ราย ส่วนที่เหลืออีก 17 ราย ไม่ได้รับบาดเจ็บ ข้อมูลเพิ่มเติมยืนยันไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงอาการสาหัสจำนวน 2 ราย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมสารคาม

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม