วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เวลา 14:42 น.
31 ส.ค. 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ
ร่วมกันจับกุม นายสุ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ฐานความผิด มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. อาวุธปืนสั้น กึ่งออโตเมติก (ไทยประดิฐษ์) ขนาด .45 มม. จำนวน 1 กระบอก
2. แม็กกาซีน สำหรับบรรจุเครื่องกระสุข ขนาด .45 มม. จำนวน 1 แม็กกาซีน
3. กล่องบรรจุอาวุธปืน แบบพลาสติกสีดำ จำนวน 1 กล่อง
4. ซองบบรรจุอาวุธปืน แบบผ้า จำนวน 1 ซอง
5. กระเป๋าผ้าใบสีฟ้า จำนวน 1 ใบ
6. กล่องบรรจุเครื่องกระสุน ยี่ห้อ BULLET MASTER .45 FMJ
7. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .45 มม. จำนวน 16 นัด
8. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 นิ้ว จำนวน 2 นัด
9. แซ้ทำความสะอาดลำกล้องปืน 1 เส้น
โดยจับกุม บนเรือดัน-ลากจูง ในพื้นที่ ต.เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนหาข่าวตามคำสั่งและนโยบายของผู้บังคับบัญชา เกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคมและชุมชนบริเวณพื้นที่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยได้รับแจ้งว่า นายสุ ทำหน้าที่เป็นกัปตันเรือ ซึ่งใช้เส้นทางเดินเรือจาก ปากน้ำสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ มุ่งหน้าไปยังเกาะสีชัง
จากการสืบสวนพบว่า นายสุ มีพฤติกรรมวางตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยมักสวมใส่ทองรูปพรรณเต็มตัว สร้างภาพลักษณ์เป็น “ขาใหญ่” และมีพฤติกรรมข่มขู่ประชาชนและผู้ประกอบการเรือ บริเวณทุ่นเทียบเรือหน้าเกาะสีชัง นอกจากนี้ ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย และมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับข้อมูลว่า นายสุ ได้เดินทางด้วยเรือ มาถึงบริเวณทุ่นเทียบเรือหน้าเกาะสีชัง จึงนำเรือตรวจการณ์ เข้าทำการตรวจสอบทันทีและจับกุมได้ โดยแต่งกายของนายสุสะดุดตา สวมสร้อยคอทองคำหลายเส้น แหวนทอง และสร้อยข้อมือทอง สอดคล้องกับข้อมูล ตรวจค้นบริเวณห้องเดินเรือ พบอาวุธปืนอีกด้วย
เมื่อสอบถาม นายสุ ให้การรับสารภาพว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่ตรวจพบเป็นของตนจริง โดยได้ซื้ออาวุธปืนดังกล่าว มาจากบุคคลไม่ทราบชื่อ–นามสกุล ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคาประมาณ 9,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตในการครอบครองอาวุธปืนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


