วันที่ 6 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว JapanToday รายงานว่า ญี่ปุ่นได้บันทึกอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41.8 องศาเซลเซียส ในเมืองอิเซซากิ จังหวัดกุนมะ เมื่อวันอังคาร 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิสูงสุดเดิมที่เคยบันทึกไว้ที่ 41.2 องศาเซลเซียส เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเมืองทัมบะในจังหวัดเฮียวโก รัฐบาลแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และเตือนประชาชนให้ดำเนินการ เพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น การใช้เครื่องปรับอากาศอย่างเหมาะสม และการดื่มน้ำให้เพียงพอ

ตามรายงานของสำนักงานดับเพลิงและจัดการภัยพิบัติระบุ มีผู้ป่วยจากโรคลมแดดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วกว่า 53,000 ราย  ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วญี่ปุ่นยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากทำลายสถิติสูงสุดในเดือนกรกฎาคมเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวทะเลญี่ปุ่นมีปริมาณฝนต่ำอย่างวิกฤต ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวข้าว โดยรัฐบาลจะเร่งบรรเทาความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรที่เสียหายจากสภาพอากาศ

โดยเมื่อปี พ.ศ. 2566 สภาพอากาศที่ร้อนจัด  ส่งผลกระทบต่อคุณภาพข้าว ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนข้าวอย่างรุนแรง ยิ่งซ้ำเติมด้วยการตีความอุปสงค์และอุปทานที่ผิดพลาดของรัฐบาล ส่งผลให้ราคาอาหารหลักที่สำคัญ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ระดับชาติ

ขณะที่สภาพอากาศดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะที่อากาศอุ่นกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ระบบความกดอากาศต่ำ ที่เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกใกล้กับเกาะฮอกไกโด ทางเหนือสุดของประเทศ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ภูมิภาคคันโต ซึ่งครอบคลุมโตเกียวและจังหวัดโดยรอบ น่าจะได้รับผลกระทบจากลมอุ่นที่พัดลงมาจากภูเขา ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ลมโฟห์น" (Foehn winds) เช่นกัน

ที่มา https://japantoday.com