วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 รศ. ดร. เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อย้ำว่าเรื่อง "เจ้าจ๋า" สุนัขที่เห่าช่วยทหารไทยบนภูมะเขือ และ ถูกกัมพูชายิงตาย เป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้น ไม่ใช่เรื่องจริง หลังชาวเน็ตแห่แชร์ และร่วมไว้อาลัยกันจำนวนมาก รายละเอียดระบุว่า เรื่อง "เจ้าจ๋า หมาจร แห่งภูมะเขือ" ที่เห็นแชร์กันเยอะๆ นั่น จริงๆ เป็นเรื่องแต่งขึ้นนะครับ โดยแอดมินเพจ “หลอนจากเรื่องจริง Story Dog” ครับ แต่งขึ้นเพื่อให้คนรักหมามากขึ้น และไม่ได้มีหมาตายจริงๆ นะครับ

(คำชี้แจง) เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ แอดมินดูคลิปยอดภูหนึ่ง ที่ไทยยึดได้สำเร็จ และไม่ทราบว่าใช่ยอดภูมะเขือหรือไม่ ในคลิปข่าว มีทหารไทย 2 คน ถือธงไทยขึ้นไปปักบนยอดภู บนนั้นมีโอ่งใบใหญ่ 1 ใบ เพื่อเป็นที่ผูกยึดสำหรับธงที่อาจจะปักบนดินให้แน่นหนาขึ้น และมีสุนัข 1 ตัวในเหตุการณ์นั้นด้วย

ตามเจตนารมณ์ของทางเพจ หลอนจากเรื่องจริง Storydog จะเป็นเรื่องราวของคนรักหมา และอยากให้คนที่มักจะทำร้ายพวกมัน เปลี่ยนเป็นความเมตตาและทำร้ายมันอีก จึงมีเรื่องนี้ขึ้นมา และสุนัขตัวนั้น ไม่ทราบว่ามันชื่ออะไร แอดมินจึงตั้งชื่อว่าเจ้าจ๋า

ส่วนน้องที่แขวนตะกรุด ไม่ใช่เจ้าจ๋าในเรื่องราวค่ะ มีคนนำเรื่องจากช่องไปเผยแพร่มากมายโดยไม่แชร์ หรือเขียนขึ้นใหม่ จึงทำให้โยงเจ้าจ๋ากับน้องหมาตะกรุดเป็นเรื่องเดียวกันซะได้

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นี้มากๆ แอดมินขอฝากเป็นกระบอกเสียงให้ด้วยนะคะ แต่ไม่ว่าพวกเค้าจะนำไปดัดแปลงยังไง และถ้ามันทำให้ช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้เหล่าทหารกล้า คนไทยสามัคคีกลมเกลียว ช่วยเมตตาหมามากขึ้น แอดยินดีที่สุดค่ะ

ขณะเดียวกัน มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT ก็ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ด้วยว่า ชี้แจงกรณี “เจ้าจ๋าแห่งภูมะเขือ”

เรื่อง เจ้าจ๋าแห่งภูมะเขือ ที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียลขณะนี้ เป็นเรื่องแต่งเพื่อการสร้างสรรค์เนื้อหา จากเพจ หลอนจากเรื่องจริง Story Dog โดยนำแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ เจ้าจ๊อด หมาห้อยตะกรุด ที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นหมาฮีโร่ที่หลายคนคุ้นเคยและชื่นชม

ทั้งนี้ มีการยืนยันว่า ที่ภูมะเขือมีสุนัขอยู่จริงเพียงหนึ่งตัว แต่ไม่ได้เสียชีวิตตามที่มีการแชร์ต่อกันไป เนื้อหาที่เผยแพร่เป็นเพียงเรื่องสมมุติ เพื่อรณรงค์ให้คนรักสัตว์ ตระหนักถึงคุณค่าของพวกเขา และเชิดชูความกล้าหาญของหมาฮีโร่เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นหรือหวังผลใดๆ

ขออภัยในความสับสนที่เกิดขึ้น และขอความร่วมมือจากทุกท่านช่วยกันแชร์ข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไปค่ะ