หน้าแรก > การเมือง

กลุ่ม ’คปท.‘ บุกทวงถาม ผบ.ตร. จี้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 2 แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ปมเอื้อ ‘ทักษิณ’ พักรักษาตัวชั้น 14

วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เวลา 11:36 น.


กลุ่ม ’คปท.‘ บุกทวงถาม ผบ.ตร. จี้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 2 แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ปมเอื้อ ‘ทักษิณ’ พักรักษาตัวชั้น 14 พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย-อาญา

วันนี้( 16 ก.ค.68) ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยกองทัพธรรม และศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ติดตามทวงถาม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ที่ได้ยื่นหนังสือตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและให้มีคำสั่งไล่ออก พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ หลังมติแพทยสภาสอบจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ สั่งพักใบอนุญาต พล.ต.ท.โสภณรัชต์ 3 เดือน เหตุให้สัมภาษณ์เกินจริงอาการป่วย ส่วน พล.ต.ท.ทวีศิลป์ 6 เดือน ไม่ได้เป็นผู้ตรวจแต่ลงนามความเห็นส่งกรมราชทัณฑ์ 2 ครั้ง ให้รักษาตัวต่อเนื่องในโรงพยาบาล ทั้งที่แพทย์ตรวจอาการไม่ได้บอกว่ามีอาการป่วยวิกฤติของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเหตุให้ได้รับอภิสิทธิ์ในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจและมีโอกาสได้เลื่อนชั้นขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร.และ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ตามลำดับในการแต่งตั้งวาระนายพลนี้

นายพิชิต กล่าวว่า ภายหลังมีมติจากแพทยสภาลงโทษบุคลากรทางการแพทย์ โดยมี พล.ต.ท.ทวีศิลป์ คนปัจจุบัน และ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ที่เป็นอดีตนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจนั้น วันนี้ทางกลุ่มคปท. จึงขอเรียกร้องให้ตำรวจ 2 นายนี้ออกจากราชการไว้ก่อน และไม่สมควรที่จะได้รับตำแหน่งสูงขึ้น ควรที่จะไล่ออก พร้อมเรียกร้องให้ทาง ผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ดำเนินคดีเกี่ยวกับอาญาและวินัย โดยเฉพาะมาตรา 157 ที่เป็นความผิดร้ายแรง โดยเร็ว และผบ.ตร.ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งความผิดดังกล่าวเป็นความผิดชัดเจน โดยเฉพาะผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่เป็นหนึ่งใน 12 คน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เตรียมจะชี้มูล และวันนี้ขอทวงถามกรณีที่มายื่นหนังสือไว้แต่หากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดองไว้ ทางกลุ่มจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด

ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) ได้ออกมารับหนังสือกับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่งได้รับหนังสือมติจากแพทยสภาได้มาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมตินั้นได้มาถึงแล้ว ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ 2 หน่วยดำเนินการต่อไป ก็คือกองวินัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการประชุมพิจารณา มีความเห็นให้ ผบ.ตร.ได้รับทราบและปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนที่สองเป็นงานบริหารสำนักงานกำลังพล โดยสำนักงานกำลังพล จะได้มีความเห็น มีการพิจารณา และก็มีความเห็นเสนอ ผบ.ตร.เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะฉะนั้นใน 2 ส่วนนี้ จะดำเนินการไม่ชักช้าและเป็นไปตามหลักการทุกอย่าง และขอให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยึดมั่นในเรื่องของกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ที่จะต้องปฏิบัติ

“ในส่วนที่มีคำถามอีกคำถามหนึ่ง ก็คือในเรื่องของการพิจารณาความดีความชอบ มีการเลื่อนตำแหน่ง ต้องขอนำเรียนว่าในห้วงนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำลังที่จะเริ่มต้นในการทำกระบวนการแต่งตั้งประจำปี ซึ่งเป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรก ขอยืนยันว่าในเรื่องของการพิจารณาของทุกๆขั้นตอนจะต้องปฏิบัติไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติปี 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งปี 2567“

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า รายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องในเรื่องของหนังสือที่มายื่นกับองค์กรต่างๆ ก็จะได้ถูกนำมาพิจารณาใช้ใน 2 ระบบกระบวนการด้วยกัน ขอยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เลือกปฏิบัติ และก็จะเห็นว่าข้าราชการตำรวจทุกคนอยู่ภายใต้กฎ หลักเกณฑ์เดียวกันอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม มีเรื่องนำเรียนพี่น้องเพียงเท่านี้ก่อน ส่วนความคืบหน้าที่จะเกิดขึ้นต่อไปจะเป็นอย่างไร จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ

สำหรับบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการจัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนและตำรวจ สน.ปทุทมวัน ประมาณ 100 นาย รักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ