24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 กรกฎาคม 2568

>> คุณยายวัย 75 ปีขับขี่ซาเล้งย้อนศร ชนกับรถกระบะเสียชีวิต

06.30 น. เจ้าหน้าที่ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนหลายคัน บนถนนสายอภัยบริรักษ์ บริเวณตลาดนัดบ้านหนองบ่อ ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ตอนครึ่ง ทะเบียน พัทลุง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ล้อหน้าหลุดกระเด็นออกจากตัวรถ ห่างออกไปพบรถกระบะอีกคันเป็นโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง 4 ประตู ทะเบียน พัทลุง สภาพเสียหายบริเวณด้านขวา และใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 สีน้ำเงิน ทะเบียน พัทลุง ล้มอยู่กลางถนน โดยมีผู้บาดเจ็บ เป็นชายไทย อายุ 15 ปีทั้งสองราย ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ขณะที่บริเวณริมถนน พบซากรถสามล้อพ่วงข้าง สภาพแยกชิ้นส่วนกระจัดกระจาย โดยมีผู้ขับขี่คือ หญิงไทย อายุ 75 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งทำการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุง แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน

>> จับแก๊งบัญชีม้า หนีกลับไทยเพราะถูกเบี้ยวค่าจ้าง พบ มีเอี่ยวคดีออนไลน์ถึง 17 คดี

10.10 น. กองกำลังบูรพา, หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ, ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 โดยกองร้อยทหารพรานที่ 1202 ตรวจพบและเข้าจับกุมชายไทยต้องสงสัย 1 ราย ขณะกำลังเดินเท้าลัดเลาะตามช่องทางธรรมชาติ มุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศไทย บริเวณ บ.ดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ตรวจสอบเบื้องต้น ทราบชื่อคือ นายชอ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ไม่พบหนังสือเดินทาง ให้การเบื้องต้นว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเปิดบัญชีและทำการสแกนใบหน้าทำธุรกรรมทางการเงิน โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ จึงพยายามหลบหนีกลับเข้าประเทศไทย

หลังจากถูกควบคุมตัว และให้สแกนหน้าหลายครั้ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ และบัญชีธนาคารไม่สามารถทำธุรกรรมได้อีก นายชอ จึงตัดสินใจติดต่อว่าจ้างชายชาวไทย ชื่อ “บอย” ที่ทำงานในปอยเปต ให้พาตนกลับประเทศไทย โดยให้มารดาโอนเงินค่าเดินทาง 10,000 บาท ให้กับนายปัญญาฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำพา ก่อนจะถูกนายบอยฯ ชี้ช่องทางธรรมชาติให้เดินเท้าลัดเลาะ และปีนข้ามลวดหนามกลับเข้าสู่ประเทศไทย กระทั่งมาพบเจ้าหน้าที่ทหารพรานและถูกควบคุมตัว โดยขณะจับกุมไม่พบผู้นำพาแต่อย่างใด

จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบว่าบัญชีธนาคารของนายชอ มีประวัติถูกแจ้งความออนไลด์ เกี่ยวกับคดีการโอนเงินที่ถูกหลอกลวงมากถึง 17 คดี จึงนำตัวส่งมอบให้กับสถานีตำรวจภูธรคลองลึก ดำเนินการสอบสวนขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> จนท. ส่งตัวนักท่องเที่ยวไทยที่ทำร้ายทหารกัมพูชา ดำเนินคดีแล้ว

10.20 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผย จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ ชายไทย อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร 
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

>> หนุ่มวัย 27 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนรั้วประตู เสียชีวิตในเวลาต่อมา

12.20 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิป่อเต็กตี๊ง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ เสียหลักเฉี่ยวชนรั้วประตู และมีผู้เสียชีวิต บริเวณ ทางเข้าเทศบาลเมืองบางแม่นาง ถนนเลียบคลองบางไทร ด.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ สีเทา กทม. ลักษณะชนกับรั้วประตู ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 27 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง

>> เร่งกู้แพจมน้ำหน้าวัดไทรใหญ่ นนทบุรี คาดใช้เวลา 2 สัปดาห์

12.30 น. จากกรณีแพที่ 3 สำหรับให้อาหารปลาจม ที่วัดไทรใหญ่ คลองพิมลราชา ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณแพให้อาหารปลาที่จม วัดไทรใหญ่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการกู้แพขึ้นจากน้ำ โดยนายณัฐพร จันทร์แก้ว นายกเทศบาลตำบลไทรน้อย นำกำลังเจ้าหน้าที่วัดไทรใหญ่ และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลไทรน้อยกว่า 10 นายเร่งกู้แพขึ้นจากน้ำ หลังจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ก.ค.68 พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดไทรใหญ่ได้ทำการเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากแพจนหมดเพื่อทำการกู้แพ โดยเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องสูบน้ำ เร่งสูบน้ำออกจากลูกบวบที่รองรับใต้แพดังกล่าว เพื่อให้ลอยขึ้นเหนือน้ำได้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะให้ช่างเข้ามาตรวจสอบรอยรั่วที่ลูกบวบเพื่อทำการอุดรอยรั่ว จึงยังไม่สามารถเปิดใช้งานแพที่ 3 ที่จมน้ำได้

นายณัฐพร จันทร์แก้ว นายกเทศบาลตำบลไทรน้อย กล่าวว่า วันนี้ ได้กู้แพที่จมน้ำขึ้นมาได้ โดยใช้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลไทรน้อยและเจ้าหน้าที่ของวัดไทรใหญ่ นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากทุ้นลูกบวบ ซึ่งขณะนี้แพได้ลอยขึ้นเหนือน้ำเกือบจะปกติแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดให้ใช้งานแพดังกล่าวได้ ต้องรอตรวจสอบรอยรั่วและทำการซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนถึงจะเปิดให้บริการได้ ส่วนอีก 2 แพที่ไม่จมน้ำนั้นเปิดให้ใช้งานปกติ ซึ่งทางวัดไทรใหญ่และเทศบาลหลังจากนึ้จะต้องตรวจตรวจสอบแพที่เหลือด้วยเช่นกันว่ามีรอยรั่วหรือชำรุดหรือไม่ เพื่อให้แพทั้งหมดอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและพร้อมให้บริการ

เบื้องต้นคาดว่าแพที่ 3 ที่จมน้ำหลังจากกู้ขึ้นมาแล้วและอุดรอยรั่วที่ทุ้นลูกบวบแล้ว พร้อมทั้งตรวจสอบอีก 2 แพที่เหลือให้เรียบร้อย น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะเปิดให้นักทีองเที่ยวใช้บริการได้ตามปกติ

>> อุบัติเหตุหมู่ชนกันหลายคัน กลางถนนมิตรภาพ ช่วงลงเนินกลางดง

13.00 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยจุดกลางดง และหน่วยกู้ภัยสว่างวิชชาฯปากช่อง มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้า กม.37+300 ลงเนินกลางดง ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ชนกัน 10 คัน เป็นรถบรรทุกเทรลเลอร์เบรกแตก มาชนกันรถอีก 9 คัน แบ่งเป็นบรรทุกพ่วง 1 คัน, รถกระบะ 4 คัน, รถเก๋ง 4 คัน ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ใกล้เคียง

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กลางดง จะสอบสวนผู้ขับขี่รถบรรทุกที่ได้รับบาดเจ็บ และตรวจสอบหลักฐานสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> ฝนตกถนนลื่น รถกระบะเสียหลักชนกัน มีผู้บาดเจ็บหลายราย

14.05 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยแม่ทะ เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนกัน และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ถนนสายลำปาง - เด่นชัย บริเวณเลยด่านตรวจปางมะโอ ในพื้นที่อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ มาสด้า สีขาว ป้ายทะเบียน เชียงใหม่ ลักษณะชนกับรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 8 ราย ทางอาสาสมัครได้ดำเนินการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแม่ทะ เพื่อทำการรักษาและประเมินอาการต่อไป ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ทะ

>> หนุ่มใหญ่หลงป่าในคืนฝนตกหนัก พบเป็นศพกลางป่าขุนห้วยมะเฟือง จ.น่าน

16.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาในพื้นที่อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน รายงานว่า พบร่างของนายกำจัด คำแก้ว อายุ 56 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลบ่อแก้ว ซึ่งสูญหายไปในเขตป่าอุทยานแห่งชาติขุนสถาน เมื่อ 2 วันก่อน

ขณะเดินเข้าป่าช่วงฝนตกหนัก โดยพบร่างอยู่บริเวณป่าขุนห้วยมะเฟือง หมู่ 5 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน การค้นหาดังกล่าวดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ภายใต้การบัญชาการของ ว่าที่ ร.ต.พิชัยยุทธ ศิริ นายอำเภอนาหมื่น ในฐานะผู้อำนวยการอำเภอ โดยมีการสนธิกำลังหลายหน่วยงาน ทั้งจากตำรวจ สภ.นาหมื่น อบจ.น่าน สมาคมกู้ภัยสว่างนครน่านรวมใจ หน่วยพัฒนาป่าไม้นาหมื่น อส. ชรบ. สมาชิกสภาเทศบาล ตลอดจนประชาชนจิตอาสามากกว่า 40 คน รวมกว่า 100 นาย แบ่งกำลังเป็น 4 ชุดหลัก พร้อมอุปกรณ์วิทยุสื่อสารประสานงานต่อเนื่องในพื้นที่เขตภูขอม ห้วยปางหัด และเขตรอยต่ออุทยานฯ

ชุดค้นหาที่ 4 เป็นชุดที่สามารถพบร่างผู้สูญหายในจุดลาดเชิงเขา ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตจากภาวะอ่อนเพลีย ขาดอาหาร หรือภาวะอิฐโรย (hypothermia) อันเนื่องมาจากการหลงป่าท่ามกลางฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน 
หลังจากชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงมอบร่างให้ สมาคมสว่างนครน่านรวมใจ นำส่งโรงพยาบาลน่าน เพื่อดำเนินการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

>> ผู้บัญชาการตำรวจ สอท. สั่งล่าตัว แก๊งคอลฯ หลอกอดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น สูญเงิน 5 หมื่น ก่อนจบชีวิตสลด

17.00 น. จากกรณีที่ นายอั้ม อายุ 38 ปี ช่างแต่งหน้าชื่อดังให้กับเวทีประกวดมิสแกรนด์และเวทีประกวดอื่นๆ อีกหลายเวที ต้องจบชีวิตลงอย่างเศร้าสลดจากความเครียด หลังมีคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชีหนึ่ง ติดต่อมาชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับร่วมอุดหนุนสินค้า จึงโอนเงินเข้าร่วมลงทุนหลายครั้งสูญเงินไปราว 50,000 บาท ก่อนรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 68 กระทั่งมาก่อเหตุสลดเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุด พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช. สอท.) กล่าวว่า สำหรับในเรื่องนี้ทางตำรวจไซเบอร์ทราบเรื่องสลดใจในคดีแล้ว โดยได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 ไปตรวจสอบกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เจ้าของคดี ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่าได้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรไปบ้างแล้ว และได้นำเรื่องลงในระบบไทยโปลิศออนไลน์แล้วหรือไม่ เนื่องจากในคดีนี้เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะได้นำข้อมูลมาช่วยกันเพื่อเร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งจากพฤติการณ์ของคนร้ายเชื่อว่าเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เข้ามาหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุน โดยเชื่อว่าน่าจะมีเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกอีกหลายราย ซึ่งจะได้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ในการดำเนินการติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ต่อไป

>> ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ไปทรงเป็นองค์ประธานงาน “ปูทาง...สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)”

18.41 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานงาน “ปูทาง...สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)” ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน ๔๑ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเย็นดี มณฑีรรัตน์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค ๕ พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ ๓ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ

จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ณ ที่นั้น นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสุรเชษฐ์วริศ มหัทธนะกุล รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๕ พลตรี ธีระ ผดุงสุนทร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๓๓ และพลตำรวจตรี พิเชษฐ จีระนันตสิน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าห้องพิธี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบบังคมทูลรายงาน เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน ฯ ในโอกาสนี้ ทอดพระเนตรการขับร้องเพลงพระพุทธเจ้า

จากนั้น ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ (ธรรมนาวา “วัง” และกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้) และผลการปฏิบัติที่ผ่านมา เสร็จแล้ว พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) และคณะพระสงฆ์ผู้บรรยายธรรม กล่าวถึงวัตถุประสงค์และหลักการโครงการ “ปูทาง...สู่การตื่นรู้ ธรรมนาวา “วัง” (ภาคประชาชน)” จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางสาวรสสุคนธ์ กองเกตุ ประธานมูลนิธิธรรมนาวาสิขาลัย นำ ประชาชนที่ปฏิบัติตามหลักธรรมพระราชทาน กราบบังคมทูลพระกรุณาประสบการณ์ในการปฏิบัติ และทอดพระเนตรการขับร้องเพลงดุจดั่งสายฟ้า และเพลงทางที่เดินคนเดียว เสร็จแล้ว พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) พร้อมด้วยคณะสงฆ์และประชาชน ประกาศพระปริตรถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี สมควรแก่เวลา จึงเสด็จออกจากศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน ๔๑ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร

>> ทหารพราน 35 สนธิกำลัง สกัดจับยาเสพติด พบยาบ้า 1,065 เม็ด และฝิ่นดิบกว่า 29 กรัม

19.32 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง อ.แม่ระมาด ลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณบ้านห้วยปูลิง ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ตรวจพบชายต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้น ชายคนดังกล่าวหลบหนีและทิ้งของกลางไว้ข้างทาง ตรวจสอบพบยาบ้า 1,065 เม็ด และฝิ่นดิบ 29.31 กรัม เจ้าหน้าที่ติดตามจนพบบุคคลต้องสงสัยทิ้งรถและวิ่งหลบหนีไปในป่าชุมชน โดยพบเอกสารระบุตัวบุคคล พร้อมรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์ และบัตรประชาชน ตกในที่เกิดเหตุ จึงเข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องสงสัย แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม

หน่วยจึงได้นำของกลางทั้งหมดถูกส่งมอบให้ สภ.แม่ระมาด เพื่อดำเนินคดีและขยายผลติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> รถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์ กลางถนนหมายเลข 304 มีผู้บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

19.35 น. ศูนย์วิทยุมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย อ.กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนหมายเลข 304 เส้นทางจากนครราชสีมา มุ่งหน้ากบินทร์บุรี ช่วงบริเวณหน้าตะวันฉายรีสอร์ท ตำบลหนองกี่ อำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ ชาย 1 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศอินเดีย

20.14 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าเกิดเหตุ แผ่นดินไหวขนาด 4.9 ความลึก 10 กม. บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 508 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

>> แผ่นดินไหว ขนาด 4.7 ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา

00.31 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แผ่นดินไหว ขนาด 4.7 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ ประเทศเมียนมา (21.03°N,96.29°E) ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 261 กม. ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถกระบะ กลางถนนเพชรเกษม ร่างกระเด็นใต้รถตู้ทึบ มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย

01.12 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ และมีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ใต้ท้องรถ บนถนนเพชรเกษม ช่วงปากซอยเพชรเกษม 55

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ลักษณะชนกับ รถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. และห่างออกไป พบรกระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. จอดอยู่กลางถนน โดยพบว่ามีผู้บาดเจ็บติดใต้ท้องรถ ทางอาสาสมัครดำเนินการนำร่างออกมา แล้วช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นผู้หญิง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง  

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

04.04 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.5 ลึก 2 กม. ที่ประเทศเมียนมา(22.29°N,96.41°E) ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 362 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย