หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2568

วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 05:20 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2568

>> รวบคาด่าน! 2 โจ๋ ซุกยาบ้าใต้เบาะจยย. ยึดของกลางอื้อ เตรียมนำส่งลูกค้าตัวเมืองเชียงราย

11.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ชุดปฏิบัติการที่ 4 สถานีตำรวจภูธรแม่จัน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้เรียกตรวจรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ซึ่งขับขี่มาจากอำเภอแม่จัน มุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงราย ผู้ขับขี่คือ ชายอายุ 19 ปี และผู้โดยสารชายอายุ 16 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้น และพบยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) ประมาณ 22,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์

จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะของทั้งสองราย ส่วนการให้ข้อมูลของผู้โดยสารระบุว่า ได้รับการว่าจ้างให้นำรถเข้าไปในตัวเมืองเชียงราย และจะมีการติดต่อกลับจากบุคคลที่รู้จัก เพื่อรับค่าจ้าง โดยยังไม่ทราบจำนวน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อน จากนั้นได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> 4 จังหวัดอีสาน ติดเชื้อ 'ไวรัสซิกา' 7 ราย หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง ลูกอาจพิการ

12.30 น. นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาว่า พบผู้ป่วยสะสม 7 ราย เมื่อแยกเป็นพื้นที่พบว่า นครราชสีมา มีผู้ป่วย 2 ราย บุรีรัมย์ 2 ราย ชัยภูมิ 2 ราย และ สุรินทร์ 1 ราย อายุที่ป่วยสูงสุดคือ อายุ 5-9 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 20-29 ปี และ อายุ 40-49 ปี ตามลำดับ

โรคติดเชื้อไวรัสซิกา มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะมีผื่นแดงตามลำตัว แขน ขา มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ตาแดง และสามารถติดต่อจากแม่สู่ทารกในครรภ์ได้ รวมถึงอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ทำให้ทารกเกิดความพิการทางสมองและระบบประสาท ส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีความผิดปกติ ศีรษะเล็ก การได้ยินผิดปกติ และพัฒนาการช้า จึงแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ ทายากันยุงป้องกันยุงกัด และฝากครรภ์ตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์จนกว่าจะคลอด หากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสซิกา ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วทารกจะมีโอกาสพิการศีรษะเล็กได้

หากมีอาการป่วย มีไข้ มีผื่นแดง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ไม่ควรซื้อยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด ได้แก่ ไอบูโพรเฟน ไดโครฟีแนก แอสไพริน รวมถึงยาชุด มารับประทานเอง แต่ให้รีบไปพบแพทย์หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้

>> ไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ในซอยประดิพัทธ์ 19

12.45 น. เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยพหลโยธิน รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยประดิพัทธ์ 19 ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยพหลโยธิน,ดุสิต ไปที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เพลิงสงบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เบื้องต้นลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารร้าง ไม่มีผู้พักอาศัย ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างตรวจสอบ

>> ฝากขังลูกเจ้าของโรงเรียนดัง คลั่งไล่ยิงชาวบ้าน วัดคูหาสวรรค์ ดับ 2 ศพ พบสารเสพติดในร่างกาย

13.20 น. ร.ต.ท.วิฑูรย์ แสงชมภู สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ นำตัว นายกิตติเดช ไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี เพื่อฝากขังผัดแรก ที่ศาลอาญาธนบุรี โดยทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้อง เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง และเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยมีแฟนสาวและเพื่อนของผู้ต้องหามาเยี่ยมตั้งแต่ในช่วงเช้า

ทั้งนี้จากการสอบสวน ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ และ ให้การว่า ฝันว่าผู้ตายทั้ง 2 คน เล่นมนต์ดำใส่ โดยเอาตะปูมาตอกที่ศีรษะ เจ็บจนนอนไม่หลับ จึงเกิดความแค้น เอาปืนไปไล่ยิงทั้ง 2 คน ดังกล่าว จากการตรวจร่างกายก็พบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน โดยตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาพกพาอาวุธปืนมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพยาเสพติด

สำหรับผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านในชุมชนเล่าว่า เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนที่อยู่ติดกับวัด เกิดและโตที่นี่ เมื่อก่อนนี้ก็เป็นเด็กดี แต่ประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ได้ยินว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติด จนทำให้หลอน มักจะพกปืน แล้วมาเดินไปเดินมาในชุมชน ส่วนอาวุธปืน น่าจะมีติดตัวไว้นานแล้ว เพราะเคยได้ยินว่าทะเลาะกับคนในชุมชน แล้วคู่กรณีตามไปหาเรื่องในโรงเรียน แต่ถูกผู้ก่อเหตุยิง จนตอนนี้กลายเป็นผู้พิการ

"ยูเนสโก" รับรอง "พระปรางค์วัดอรุณฯ" เข้าสู่บัญชีเบื้องต้น

14.00 น. ยูเนสโก ได้มีหนังสือตอบรับอย่างเป็นทางการ ถึงหน่วยงานของไทย เพื่อแจ้งว่า "พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม : ผลงานชิ้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์" ได้รับการบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2568

โดยในจดหมาย ลงนามโดย นายเออร์เนสโต ออตโตเน อาร์. ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรม องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้แสดงความยินดี ต่อการเสนอชื่อของประเทศไทย และระบุว่า เอกสารประกอบการเสนอ มีความสมบูรณ์ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ

ทั้งนี้บัญชี Tentative List คือ รายชื่อแหล่งมรดก ที่ประเทศสมาชิก มีความตั้งใจจะเสนอชื่อเป็นมรดกโลก ในอนาคต โดยแต่ละประเทศ ต้องจัดทำและส่งรายชื่อเหล่านี้ ไปยังศูนย์มรดกโลกของยูเนสโก เพื่อแสดงเจตจำนง ในการอนุรักษ์ และเตรียมความพร้อม ทั้งในด้านเอกสาร การจัดการ และการปกป้องแหล่งมรดกนั้นๆ ก่อนเข้าสู่กระบวนการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ ในอนาคต

การที่ แหล่งมรดกแห่งใดแห่งหนึ่ง ได้เข้าสู่บัญชี Tentative List จึงถือเป็นก้าวสำคัญเบื้องต้น สู่การได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก โดยแหล่งใดที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีเบื้องต้นนี้ จะไม่สามารถยื่นเสนอชื่อเข้าสู่บัญชีมรดกโลกได้ ในอนาคต ปัจจุบัน ประเทศไทย มีแหล่งในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น จำนวน 7 แห่ง ได้แก่

ประเภทวัฒนธรรม

- กลุ่มปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และเขตรักษาพันธุ์ค้างคาวพลาย

- อนุสาวรีย์ สถานที่ และภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของเชียงใหม่

- พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม : ผลงานชิ้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

- พระธาตุพนม อาคารประวัติศาสตร์ และภูมิทัศน์โดยรอบ

- สงขลาและชุมชนริมทะเลสาบที่เกี่ยวข้อง

- วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช

ประเภทธรรมชาติ

- เขตอนุรักษ์ธรรมชาติทะเลอันดามันของประเทศไทย

>> คดีฮั้วสว. ส่งเข้ากกต.ชุดใหญ่ 14 ก.ค.นี้ เสนอฟ้อง 229 ราย

14.05 น. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลางชุดที่ 26 ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของกกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สรุปสำนวนคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เสร็จสิ้นแล้ว

หลังจากได้ออกหมายเพื่อแจ้งข้อหาต่อสว.และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้ทยอยเข้าให้ชี้แจงแก้ข้อหาจนครบถ้วนกระบวนการแล้ว โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้ประชุมสรุปสำนวนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมจะส่งเข้าที่ประชุมกกต.ชุดใหญ่ ในวันที่ 14 กค.นี้

ข่าวแจ้งว่า มติของอนุกรรมการฯ เสนอให้ส่งฟ้องดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหารวม 229 ราย แบ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน 138 ราย และบุคคลเกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่สังกัดพรรคการเมืองชื่อดังอีก 91 ราย ในจำนวนนี้มีผู้บริหารพรรคดังกล่าวจำนวนมาก ระดับผู้นำพรรคคนสำคัญอยู่ในผู้ถูกกล่าวหาด้วย

ท้้งนี้ เมื่ออนุกรรมการฯ ส่งสำนวนพร้อมพยานหลักฐาน ให้กกต.ชุดใหญ่พิจารณาแล้ว เมื่อกกต.เห็นชอบ จากนั้นจะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อศาลรับฟ้อง จะมีผลให้สว.ที่ถูกฟ้อง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

>> เตรียมปูพรม ตรวจสอบวัดใหญ่ 4 แห่ง หลังสงสัยเส้นเงินเชื่อมโยง สีกากอล์ฟ เผยพระวัดดังกรุงเก่า เคยโอนให้กว่า 11 ล้าน

15.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เตรียมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ บก.ปปป. ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบวัดใหญ่ จำนวน 4 แห่ง ที่มีพระลูกวัด หรือพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับสีกากอล์ฟ ประกอบด้วย วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมประสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร และ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

สำหรับเป้าหมายหลักของการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเส้นทางการเงินต่างๆ ของวัดมาตรวจสอบอย่างละเอียด แม้ในทางพฤติกรรมจะยังไม่พบหลักฐานการกระทำความผิดทางวินัยสงฆ์เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวกับสีกากอล์ฟก็ตาม แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระลูกวัด หรือ พระชั้นผู้ใหญ่บางรูป มีเส้นเงินเชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเงินที่โอนไปให้กับสีกากอล์ฟนั้นเป็นเงินของวัดหรือไม่ รวมทั้งมีที่ไปที่มาอย่างไร

โดยเฉพาะในรายของพระวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเคยมีการโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ รวมแล้วเป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท จึงต้องตรวจสอบยอดเงินดังกล่าวนี้อย่างละเอียด เพื่อให้คลายข้อสงสัยด้วย

>> กองทัพส่งกำลังพลเร่งเข้าช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ จ.น่าน พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

16.45 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบก โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 38 (ศบภ.มทบ.38) ได้จัดกำลังพลจากกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพันทหารม้าที่ 15 กรมทหารม้าที่ 2 ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยเฉพาะ ในเขตอำเภอเวียงสา และ อำเภอแม่ริม ซึ่งได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่

ในพื้นที่บ้านน้ำมวบ ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา กำลังพลจากกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้นำชุมชน เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยดำเนินการอพยพผู้ประสบภัย เคลื่อนย้ายทรัพย์สิน และสนับสนุนการจัดระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงอย่างเร่งด่วน หลังพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ประชาชนกว่า 120 หลังคาเรือน หรือประมาณร้อยละ 60 ของหมู่บ้านได้รับผลกระทบ

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่บ้านนาเซีย หมู่ 2 ตำบลหมอเมือง อำเภอแม่จริม ศบภ.มทบ.38 ยังได้ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เป็นชายอายุ 80 ปี ซึ่งบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลัน

ต่อมาในช่วงบ่าย ระดับน้ำเริ่มลดลง หน่วยจึงได้ร่วมกับชุมชนดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ โดยช่วยทำความสะอาดบ้านเรือน เก็บกวาดสิ่งกีดขวาง และฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ ศบภ.มทบ.38 ยังคงติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉินเพิ่มเติม

>> นักท่องเที่ยวไทยคึกคัก ปราสาทตาเมือนธม หนุนสินค้าพื้นบ้านขายดี

16.20 น. ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ วันนี้เป็นวันหยุดยาวเข้าพรรษา พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยต่างพาครอบครัว ลูกหลานและเพื่อนฝูง เดินทางมามอบสิ่งของให้กำลังใจทหารและเข้าชมปราสาทตาเมือนธมตั้งแต่เช้าอย่างคึกคัก โดยเฉพาะรถทัวร์จาก จ.จันทบุรี ที่เข้ามาถึง 5 คัน และต่างพากันถ่ายรูปภาพจำลองขนาดเท่าคนจริงของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารที่หน้าทางเข้าปราสาทตาเมือนธมอย่างคึกคัก

โดยพบว่ามีความคึกคักตั้งแต่เช้าในช่วง 2 วันที่ผ่านมา หลังจากประชาชนเดินสายทำบุญเข้าพรรษาเสร็จในวันหยุดยาว คาดว่าตลอดทั้งวันนี้จะมีประชาชนเข้ามาชมไม่ต่ำกว่า 6 พันคนอย่างแน่นอน หลังจากกระแสรักชาติ ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควายฟีเวอร์ในช่วงนี้เป็นพิเศษ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่นำสินค้ามาขายต่างขายดิบขายดีไปด้วย

>> อุทกภัยในพื้นที่อำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ล่าสุดได้รับผลกระทบ 3 ตำบล เดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือน

18.10 น. สืบเนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอบ้านโคก อำเภอฟากท่า และอำเภอน้ำปาด ตั้งแต่เมือคืนของวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปาดเพิ่มสูงขึ้น ส้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร

สำหรับอำเภอน้ำปาด ได้รับผลกระทบจำนวน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลเด่นเหล็ก 6 หมู่บ้าน 175 ครัวเรือน มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 1120 ไร่ ตำบลบ้านฝาย ได้รับผลกระทบ 2 หมู่บ้าน มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 330 ไร่ และตำบลแสนตอ ได้รับผลกระทบ 2 หมู่บ้าน 18 ครัวเรือนพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 450 ไร่ สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่บ้านสวน ต.แสนตอ พื้นที่บางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำถูกน้ำท่วม ถนนที่เป็นเส้นทางเข้าหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมสูง ประชาชนไม่สามารถออกมาได้ ทางกองร้อย ตชด. ที่ 316 อำเภอน้ำปาด ได้ระดมกำลังทหารจิตอาสา นำเสบียงน้ำดื่มและข้าวกล่องไปแจกจ่ายประชาชนที่อยู่ด้านใน และได้อพยพชาวบ้านบางส่วนออกมาด้านนอก นอกเหนือจากนั้น ทางหลวงหมายเลข 1176 หลัก กม.ที่ 11 ถูกน้ำท่วม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเอากรวยและแผงกั้น พร้อมป้ายแจ้งเตือน ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่อำเภอน้ำปาดเพื่อรับฟังสถานการณ์ภาพรวมความเสียหาย ภาพรวม ณ ขณะนี้ น้ำได้ลดลงบ้างแล้ว พร้อมกับบัญชาการไปยังหน่วยงานในพื้นที่ให้รีบช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลเด่นเหล็ก ซึ่งมีประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายมากที่สุดในบรรดา 3 ตำบล ซึ่งได้มอบหมายให้กิ่งกาชาดอำเภอน้ำปาดนำอาหารและน้ำดื่มนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน หน่วยงานในพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจากทางการต่อไป

>> จับหนุ่มวัย 37 วางเพลิงบ้านพักครู-จนท.อนามัย วอด 3 หลัง อาคารนวดเสียหายเล็กน้อยอีก 1 หลัง

19.20 น. พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักครูโรงเรียนบ้านบางเหรียง และบ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) บ้านบางเหรียง หมู่ที่ 7 ต.สินเจริญ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น.วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมามีบ้านพักครู ได้รับความเสียหาย 2 หลัง และบ้านพักเจ้าหน้าที่อนามัน ได้รับความเสียหาย 1 หลัง รวมทั้งอาคารนวดแผนไทยเสียหายเล็กน้อย 1 หลัง

พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สภ.พระแสง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลจังหวัดเวียงสระ ออกหมายจับ ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 จับกุมนายอภิชาติ อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุกระทำผิดฐาน วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นที่เป็นโรงเรือนที่คนอาศัยโรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

ขณะที่ พ.ต.อ.วีระพันธ์ เกื้อรักษ์ ผกก.สภ. พระแสง พร้อมพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายอภิชาติ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยงัดประตูด้านหลังบ้านพักอนามัยเข้าไปใช้ไฟจุดเผาในบ้าน ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งสอบมูลเหตุจูงใจที่นายอภิชาติ ก่อเหตุวางเพลิงหน่วยงานราชการทั้ง 2 แห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ