วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 23:51 น.
รวบอดีตพนักงานเซลล์ เบี้ยวเงินบริษัทกว่า 6 แสน หลบหนีข้ามจังหวัด พบหมายจับติดตัวอีกหลายคดี
กองบังคับการปราบปราม โดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. , กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายพัน (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 3 หมาย ได้แก่
1.ศาลจังหวัดนครปฐม ลงวันที่ 26 พ.ค.68 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน "เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และยักยอก"
2.ศาลจังหวัดนครปฐม ลงวันที่ 29 พ.ค.68 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน "เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และยักยอก"
3.ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ลงวันที่ 1 ก.ค.68 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน "เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และลักทรัพย์นายจ้าง" จับได้บริเวณสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ ถ.บ้านแหลม-บางตะบูน ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ให้ช่วยติดตามจับกุมอดีตพนักงานเซลล์ผู้ต้องหา ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บเงินจากร้านค้าตัวแทนในพื้นที่ ก่อนจะนำส่งเข้าบริษัทตามระบบ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา นายพัน (นามสมมุติ) เริ่มมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการนำเงินสดส่งบริษัท โดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา ทั้งรถเสีย ติดธุระส่วนตัว หรือการโอนเงินล่าช้า จนผู้บริหารเริ่มจับพิรุธได้ และเมื่อตรวจสอบบัญชีพบว่า เงินค่าสินค้าหลายรายการถูกเบิกออกไป แต่ไม่ได้นำส่งเข้าบัญชีบริษัท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 600,000 บาท เมื่อบริษัทติดตามตัวกลับไม่สามารถติดต่อได้ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี และต่อมาศาลได้ออกหมายจับในความผิดฐานยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์นายจ้าง
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า หลังก่อเหตุ นายพัน (นามสมมุติ)ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จังหวัดนครปฐมไปอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี และใช้วิธีการย้ายที่พักอาศัยบ่อยครั้งเพื่อหลบหนีการติดตามตัว ไม่ปรากฏที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ประกอบกับตรวจสอบเบื้องต้นยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับติดตัวอีก 3 หมาย ในคดีที่มีทั้งลักษณะเดียวกันและคดีอื่นๆในพื้นที่ต่างจังหวัด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบเบาะแสสำคัญจากการติดตามพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของผู้ต้องหา จึงวางแผนติดตามเฝ้าสังเกตการณ์ และสามารถนำกำลังเข้าปิดล้อมควบคุมตัวได้ในที่สุด ขณะจับกุม เจ้าหน้าที่แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งสิทธิและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบสวนเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ