หน้าแรก > อาชญากรรม

พล.ต.อ.ธัชชัย เผย ’ก๊ก อาน‘ ไม่ได้อยู่เมืองไทย ส่งหมายแดง ประสานอินเตอร์โพล

วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 15:31 น.


พล.ต.อ.ธัชชัย เผย ’ก๊ก อาน‘ ไม่ได้อยู่เมืองไทย ส่งหมายแดง ประสานอินเตอร์โพล หวัง แรงกดดันทางสังคมบีบกัมพูชาส่งตัวมารับโทษที่ไทย

วันนี้ (10 ก.ค. 68) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดีนายก๊ก อาน นายทุนชาวกัมพูชาเจ้าของกาสิโนและอาคารที่ตั้งแก๊งคอลเซนเตอร์หลายแห่งในประเทศกัมพูชา โดยระบุว่า จากข้อมูลไม่พบว่านายก๊ก อาน อยู่ในประเทศไทย และเดินทางออกไปตั้งแต่ก่อนที่จะมีการออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ได้ประสานกับองค์การตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) เพื่อติดตามถิ่นที่อยู่ของนายก๊ก อานแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินการออกหมายแดง (Red Notice) และส่งให้ประเทศสมาชิกทั้ง 196 แห่งทั่วโลกได้รับทราบ เพื่อสร้างแรงกดดันทางสังคมให้ประเทศกัมพูชาส่งตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีที่ประเทศไทย แม้ว่าตามขั้นตอนจะไม่มีบทลงโทษกับประเทศสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติตามก็ตาม

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์เป็นปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ ซึ่งส่วนใหญ่มีต้นตอมาจากประเทศกัมพูชา และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่กัมพูชาก็ต้องการกวาดล้างเช่นกัน ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางคดี สำหรับการสืบสวนสอบสวนจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวกัมพูชา พร้อมทั้งยึดทรัพย์ โดยขณะนี้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กำลังขยายผลและเตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้

พล.ต.อ.ธัชชัย ยืนยันว่า นายก๊ก อาน ใช้หนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชา และปฏิเสธข่าวที่สื่อกัมพูชารายงานว่านายก๊ก อาน ทำธุรกิจในฐานะพลเรือนไทยว่าเป็นข่าวปลอม ส่วนกรณีที่หลานสาวของนายก๊ก อาน อาจใช้บัตรประชาชนไทยปลอมนั้น จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งผู้ใช้และผู้ออกบัตร

หลักฐานที่ใช้ในการขอศาลออกหมายจับมีความชัดเจน โดยนอกจากพยานหลักฐานของไทยแล้ว ยังมีหลักฐานจากสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งชี้ชัดว่านายก๊ก อาน เป็นเจ้าของอาคารหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์และสแกมเมอร์ และอาจมีการพิจารณาออกหมายจับในคดีอื่นเพิ่มเติม ทั้งในรูปแบบองค์กรอาชญากรรม การฉ้อโกงประชาชน และการฟอกเงิน ซึ่งจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดต่อไป

ส่วนความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างนายก๊ก อาน กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา จะมีผลต่อการติดตามตัวหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายไม่สามารถตอบในประเด็นความสัมพันธ์ของผู้บริหารระดับสูงได้ แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือนายก๊ก อาน เป็นนักธุรกิจและสมาชิกวุฒิสภากัมพูชา ที่มีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับสถานที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายแห่ง

นอกจากนี้ ในทางการสืบสวนยังไม่พบความเชื่อมโยงกับนักการเมืองไทย หรือ "เฮีย ต." ที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เคยเปิดเผยข้อมูลไว้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้รับพยานบุคคลและพยานเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการวิเคราะห์บัญชีธนาคารและบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยได้กำชับให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อป้องกันการหลบหนีและโยกย้ายทรัพย์สิน

พล.ต.อ.ธัชชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำบริษัทฮุ่ยวัน ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้ในการฟอกเงินและมีชื่อหลานชายของสมเด็จฮุน เซน ถือหุ้นอยู่ ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยกล่าวถึง ว่าข้อมูลดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของไทย และเชื่อว่ายังมีบริษัทลักษณะนี้อีกหลายแห่งในกัมพูชา

พล.ต.อ.ธัชชัย ยังได้ชื่นชมการทำงานของ บช.สอท. ที่กล้าหาญในการดำเนินคดีกับเจ้าของอาคาร ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามทำมาตลอด 2-3 ปี แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งครั้งนี้มีข้อมูลจากต่างประเทศเข้ามาเสริม ทำให้พยานหลักฐานมีความชัดเจนจนศาลอนุมัติหมายจับได้

ข่าวยอดนิยม