หน้าแรก > อาชญากรรม

จับกุมกลุ่มผู้ให้บริการ e-Money เถื่อน พบเม็ดเงินหมุนเวียนไหลออกนอกประเทศรวมเกือบ 400 ล้านบาท

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 11:54 น.


CIB เปิดปฏิบัติการ “Bye Bye Dark Wallets” รวบหัวแถว e-Money เถื่อน พบเม็ดเงินหมุนเวียนไหลออกนอกประเทศรวมเกือบ 400 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ลงพื้นที่ตรวจค้นสถานที่ 10 จุด จับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 12 ราย

ปัจจุบัน มีผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ซึ่งมีลักษณะเป็นตัวกลาง ให้ผู้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศจีน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พบมีกลุ่มมิจฉาชีพฉกฉวยโอกาสจากความต้องการในการสั่งซื้อสินค้า จัดทำระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-money) โดยผูกกับบัญชีธนาคาร หรือ แอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเป็นช่องทางในการนำเงินจากประเทศไทยออกนอกประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีมาตรการในการกำกับดูแลผู้ใช้งาน เสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน หลบเลี่ยงภาษี

ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจดังกล่าว จึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและอนุญาตให้ดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดมาตรการในการตรวจสอบ และควบคุม ภายใต้ พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 เพื่อป้องกันความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจและประชาชน ปอศ. จึงได้ดำเนินการเชิงรุก พบบริษัทที่มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 ในรูปแบบการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 5 บริษัท

จากผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าทั้ง 5 บริษัท มีการประกอบธุรกิจในลักษณะเป็นการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าอื่นใด แทนการชำระด้วยเงินสดจริง มียอดเงินหมุนเวียนรวมกันเกือบ 400 ล้านบาท ซึ่งมิได้มีการขออนุญาตในการประกอบธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด

ดังนั้น กรณีนี้จึงเป็นการประกอบธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลเพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย จำนวน 10 จุด ผลการตรวจค้น พบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์ จำนวน 6 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง และพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ รวมถึงตรวจพบแพลตฟอร์มซึ่งไม่ได้รับอนุญาตตรงตามผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิดต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ