หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2568

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 05:36 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2568


>> นายกฯ จับมือ ยูเนสโก หนุนใช้ AI อย่างมีจริยธรรม

09.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนางโอเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุม The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI (GFEAI 2025) 
ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการส่งเสริมการศึกษาด้านเทคโนโลยีและ AI โดยนายกฯ กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งพัฒนาทักษะในสถาบันการศึกษาของไทย รวมถึงให้ทุนเยาวชนไทยไปศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งต่างเห็นพ้องว่า การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในการเตรียมคนสำหรับโลกดิจิทัลและ AI ในอนาคต

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการส่งเสริมบทบาทสตรีในสาขาวิทยาการข้อมูล (Data Science) และ AI เพื่อเปิดโอกาสผู้หญิงเข้าสู่สายอาชีพด้าน AI และ STEM มากขึ้น 
โอกาสนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโกชื่นชมการผลักดันนโยบาย Soft Power ของไทย ผ่านวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พร้อมแสดงความยินดีร่วมมือกับรัฐบาลไทย ผ่านสำนักงานของยูเนสโกในกรุงเทพฯ และได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนสำนักงานใหญ่ยูเนสโก ณ กรุงปารีส ในโอกาสต่อไป


>> ชายวัย 48 ปีนอนนิ่ง น้ำลายฟูมปาก หัวหน้างานคิดว่าเสียชีวิต แจ้ง จนท. หลังตรวจสอบพบยังมีลมหายใจ กู้ภัยเร่งช่วยเหลือและนำส่ง รพ.

11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ได้รับแจ้ง มีชายนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องเช่าไม่มีชื่อ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

หลังเกิดเหตุทางทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงที่เกิดเหตุและพบว่าห้องนั้นถูกล็อคจากด้านใน จึงให้ผู้ดูแลห้องเช่าทำการงัดประตูห้องออก แต่ปรากฏว่าหลังเปิดประตูออกได้พบว่าชายที่แจ้งว่าเสียชีวิตนั้น นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ยังไม่เสียชีวิต ยังหายใจอยู่ แต่มีน้ำลายฟูมปากหมดสติ จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกู้ภัยและทีมกู้ชีพเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล

จากการสอบถามหัวหน้างาน กล่าวว่า นายเอ (นามสมมุติ) เป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำอยู่ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างแต่วันนี้ผิดปกติไม่ออกไปเข้าเวรทำงาน โดยพยายามติดต่อทางโทรศัพท์มือถือหลายครั้ง ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจเดินทางมาที่ห้องพักพยายามเคาะห้องเรียกหลายครั้ง ไม่มีเสียงตอบรับ จึงแง้มประตูออกได้เพียงเล็กน้อยและเห็นว่านายเอ นอนหมดสติอยู่หลังประตูมีน้ำลายฟูมปาก ตอนแรกเข้าใจว่าเสียชีวิต จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ แต่ปรากฎว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรมาถึงกับพบว่านายเอ ยังไม่เสียชีวิต

ด้าน นายศุภกฤต อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งจากตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ว่า มีผู้เสียชีวิตในห้องเช่าจึงเดินทางเข้ามาตรวจสอบ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาถึงก่อนหน้าแล้ว โดยคุณหมอแจ้งกลับมาว่าชายคนดังกล่าวยังไม่เสียชีวิต ให้เร่งช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วนด้วย ซึ่งตนมาถึงก็เห็นว่าชายคนดังกล่าวนั้นนอนน้ำลายฟูมปากไม่ได้สติ แต่ยังหายใจอยู่ โดยเหตุการณ์นี้เป็นการเข้าใจผิด ซึ่งหัวหน้างานแจ้งว่าแง้มประตูได้เพียงเล็กน้อยเห็นแค่นายเอ มีน้ำลายฟูมปากไม่เห็นหน้าท้องขยับจึงคิดว่าเสียชีวิต


>> อุบัติเหตุชนกัน แล้วเกิดมีก๊าซรั่วไหล อาสากู้เร่งช่วยเหลือทั้งผู้บาดเจ็บและระบายแก๊ส

12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถชนกันหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีก๊าซรั่วไหล เหตุเกิดหน้าหมวดทางหลวงบางบัวทอง ใต้ต่างระดับถนน 345 ตัดถนนกาญจนาภิเษก ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถโดยสารสาธารณะสองแถว สีฟ้า-ขาว ทะเบียน นนทบุรี สภาพด้านหน้าและหลังรถพังเสียหาและยมีก๊าซรั่วไหล ใกล้กันยังพบรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพด้านท้ายยุบพังเสียหายเช่นกัน และยังมีรถบรรทุก 4 ล้อเล็กยี่ห้อ ซูซูกิ แครี่ ทะเบียน พิษณุโลก ด้านหน้ายุบพังเสียหายด้านท้ายบรรทุกโครงอะลูมิเนียม

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ ผู้ขับขี่รถสองแถว เป็นชาย อายุ 64 ปี และผู้ขับขี่รถกระบะ ยี่ห้อซูซุกิ เป็นชาย อายุ 42 ปี นำตัวส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งใช้น้ำฉีดเลี้ยงก๊าซ NGV ที่มีการรั่วไหลออกมาจากรถสองแถว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถปล่อยก๊าซจนหมดและทำการเคลื่อนย้ายรถออกและเปิดการจราจรเป็นปกติ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไว้ โดยหลังจากนี้จะทำการสอบปากคำคนขับรถกระบะทั้ง 2 คันอีกครั้งถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นแต่จะต้องให้คนเจ็บหายดีก่อน


>> รถเทรลเลอร์ชนกับรถอเนกประสงค์ เชิงสะพานข้ามถนนรถไฟ ถนนเลี่ยงเมืองพระนครศรีอยุธยา มีผู้เสียชีวิตติดค้างในซากรถ

14.25 น. รับแจ้งจาก ศูนย์รวมใจบางปะอิน 5 ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถบรรทุกชนกับรถนั่งส่วนบุคคลและมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนทางหลวงหมายเลข 356 (ถนนเลี่ยงเมือง) ช่วงเชิงสะพานข้ามทางรถไฟ ในพื้นที่ ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ พบรถเทรลเลอร์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถอเนกประสงค์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายสภาพร่างติดค้างภายในยานพาหนะ ทางอาสาสมัครใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ เพื่อนำร่างออกมา และตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 35 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา


>> กรมอุทยานฯ สนธิกำลัง รวบผู้ค้าสัตว์ป่า​ พบของกลาง เตรียมจำหน่ายหลายรายการ

15.08 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สนธิกำลังกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทลายเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าบริเวณจุดผ่อนปรนแจมป๋อง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับ สปป.ลาว พบของกลางซากสัตว์ป่าหายากจำนวนมาก พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวลาว 2 ราย เพื่อสอบสวนขยายผล

จากการเข้าตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่าจำนวนมากที่เตรียมจำหน่าย ประกอบด้วย เม่นใหญ่ 2 ตัว ซากตะกวดหรือแลน 1 ตัว (น้ำหนัก 1 กก.) ซากหมีขอหรือบินตุรง 1 ตัว (น้ำหนัก 9 กก.) ซากเม่นใหญ่ 5 ซาก (น้ำหนัก 23 กก.) และซากเก้ง 22 ชิ้น (น้ำหนัก 68 กก.) รวมน้ำหนักของกลางทั้งหมด 101 กิโลกรัม

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ซึ่งเป็นชาวลาว เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมถึงขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ขณะที่ซากสัตว์ป่าของกลางทั้งหมดได้ถูกส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่น และประสานด่านกักกันสัตว์เชียงราย กรมปศุสัตว์ เพื่อนำไปทำลายด้วยเตาเผาซากสัตว์ตามระเบียบต่อไป


>> เลขาฯ ป.ป.ส. เผยผลวิจัยผู้เสพ หลังปลดล็อก ยอดผู้ใช้กัญชา 700,000 คน กระท่อม 1,300,000 คน

15.37 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยกรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 ว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ติดตามสถานการณ์และศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ตั้งแต่ปี 2544 และจะประเมินการศึกษาวิจัยทุก 3-4 ปี จากผลการศึกษาข้อมูล เมื่อในปี 2562 ซึ่งขณะนั้นกัญชาและพืชกระท่อมยังถูกจัดเป็นยาเสพติด พบว่ามีผู้เสพติดกัญชาประมาณ 350,000 คน และผู้เสพติดพืชกระท่อมอยู่ที่ประมาณ 400,000 - 500,000 คน ต่อมาในช่วงปี 2564 - 2565 เมื่อรัฐบาลมีนโยบายปลดล็อกพืชกระท่อมและกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด พบว่าจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยจากผลการสำรวจในปี 2567 พบว่ามีผู้ใช้กัญชากว่า 700,000 คน และมีผู้ใช้พืชกระท่อมมากถึง 1,300,000 คน

ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับกัญชาและพืชกระท่อมถือเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนสำนักงาน ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานของรัฐพร้อมปฏิบัติตามนโยบาย และมีหน้าที่จัดทำข้อมูลเชิงวิชาการ เสนอข้อเท็จจริงว่ากัญชาและพืชกระท่อม หลังปลดล็อกจากยาเสพติดมีผู้มาใช้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


>> สตช. พร้อมดูแลการชุมนุม 28 มิ.ย. ย้ำ ใช้เสรีภาพภายใต้กรอบกฎหมาย จัดกำลังดูแลความเรียบร้อย

15.44 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เตรียมความพร้อมในการดูแลและบริหารจัดการการชุมนุมสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยขอความร่วมมือจากผู้ชุมนุมให้ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อประชาชนและการใช้พื้นที่สาธารณะ

สำหรับการดำเนินการในภาพรวมได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการบริหารจัดการการชุมนุม และบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 โดยเน้นย้ำการใช้แนวทางเจรจา พูดคุย และทำความเข้าใจกับผู้จัดการชุมนุม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการใช้สิทธิเสรีภาพกับการรักษาความสงบเรียบร้อย

พล.ต.ท.อาชยน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ บช.น. ได้รับหนังสือแจ้งการชุมนุมเรียบร้อยแล้ว และได้ประสานงานกับผู้จัดการชุมนุม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1,200 นาย ประกอบด้วยกำลังรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และฝ่ายสืบสวน เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งก่อน ขณะ และหลังการชุมนุม ในส่วนของการข่าว ได้สั่งการให้หน่วยสืบสวนในทุกกองบัญชีกำกับดูแลความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พร้อมจัดตั้งจุดตรวจ/คัดกรองบุคคลและยานพาหนะในเส้นทางจราจรหลัก รวมถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้า เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่อาจไม่หวังดี หรือมีเจตนาก่อความไม่สงบ ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือจากประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านพื้นที่การชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันดังกล่าว


>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงข้างทาง ริมถนนสายวัฒนานคร - คลองหาด มีผู้เสียชีวิต จ.สระแก้ว

16.32 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต ริมถนนสาย วัฒนานคร - คลองหาด ในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ สีแดง ป้ายทะเบียน สระแก้ว ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 38 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร


>> “บิ๊กป้อม” ร่วมวงลงชื่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ "นายกฯ" ปมคลิปเสียงคุย "ฮุนเซน"

16.44 น. นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้สั่งการให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ร่วมลงชื่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เนื่องจากไม่สามารถที่จะไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอีกต่อไปได้ เพราะมีพฤติการณ์ที่จะนำพาให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง ส่งผลให้ประเทศไทยอาจเสียเปรียบในการรักษาอธิปไตยในประเด็นคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน เพราะสะท้อนให้เห็นว่า เป็นผู้นำที่มีความอ่อนแอ และขาดประสบการณ์การเจรจาระหว่างประเทศ

“พล.อ.ประวิตร เห็นว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ สส. ทุกคนของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมร่วมลงชื่อยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล แม้ว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังไม่เรียบร้อย”


>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีนักเรียนเจ็บหลายราย จ.อุดรธานี

17.20 น. อาสาสมัครจุดบริการสว่างเมธาบ้านดุง ร่วมกับสมาคมกู้ภัยศรีสุทโธบ้านดุง ออกตรวจสอบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ที่ดัดแปลงใช้เป็นรถรับส่งนักเรียน ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนบ้านหนองแวง-ดงหวาย ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน อุดรธานี ชนกับ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ฮอนด้า เวฟ สีดำ ป้ายทะเบียน สกลนคร ใกล้กันพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 6 ราย โดยเป็นหญิงไทย 2 ราย อายุ 53 และ 59 ปี, มีนักเรียนหญิง อายุ 13 - 14 ปี จำนวน 3 ราย และเด็กชาย 2 ขวบ อาสาสมัครนำส่ง รพ.บ้านดุง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของ สภ.บ้านดุง


>> ชายนิรนาม ปีนเสาไฟสูง 5 เมตร พลัดตกดับสลด ใกล้ปากซอยราษฎร์บูรณะ 23 ตร.เร่งตามหาญาติ

17.36 น. สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตสาเหตุจากการพลัดตกจากที่สูง เป็นชาย 1 ราย จุดเกิดเหตุ บริเวณโคนเสาไฟฟ้าใกล้เคียงปากซอยราษฎร์บูรณะ 23 ถนน ราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 40 – 45 ปี ไม่พบเอกสารติดตัว อยู่ในลักษณะนอนหงายหน้าอยู่บนพื้น สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า พบมีแผลแตกบริเวณศีรษะ หน้าผากยุบ กระดูกซี่โครงหัก ซึ่งจากการสอบถามคนที่เดินผ่านไปมาแล้วไม่มีใครทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครและมาจากไหน 
ชาวบ้าน เล่าว่า ผู้เสียชีวิตอยู่ดีๆ ก็ปีนรั้วแล้วก็ไต่ขึ้นไปบนเสาไฟ ก่อนทิ้งตัวลงมาในลักษณะเอาหัวลงกระแทกพื้น ซึ่งความสูงของเสาไฟดังกล่าวสูงจากพื้นล่างถึง 5.5 เมตร พอตกลงมาแล้วก็แน่นิ่งไป แล้วพออาสาสมัครมาถึงก็ช่วยปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่เป็นผล และยืนยันว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะเร่งติดตามหาญาติมาสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง แล้วจะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


>> คนร้ายอุกอาจ รัวยิงชายวัย 51 ปี กระสุนเข้าหน้า-ลำตัว เสียชีวิตกลางร้านจอดรถห้างค้าวัสดุก่อสร้างเมืองกาญจน์

19.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุว่า มีเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต บริเวณภายในลานจอดรถของศูนย์ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ถนนเลี่ยงเมือง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ฟอร์ด สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในลักษณะประตูด้านคนขับเปิด พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อ นายสิทธิกร อายุ 51 ปี สภาพศพนอนหงายหน้า สวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินจมกองเลือด ตามร่างกายพบรอยกระสุนปืน ประมาณ 9 นัด กระสุนโดนบริเวณลำตัว ใบหน้า 
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ และจะดำเนินการสอบสวนเพื่อติดตามผู้ก่อเหตุต่อไป


>> ท่าอากาศยานภูเก็ต ประกาศยกเลิกแผนเผชิญเหตุ แต่ยังไม่ยกเลิกปิดพื้นที่ ยันปลอดภัย ไม่กระทบเที่ยวบิน

19.55 น. ท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยว่า จากกรณีวันนี้ เวลา 16.10 น. พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ภายในรถจักรยานยนต์ จอดทิ้งไว้บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ฝั่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) จนท.จึงได้ทำการยิงทำลายเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและประชาชนในพื้นที่เรียบร้อยแล้วตามแผนเผชิญเหตุของสนามบิน

อย่างไรก็ตาม หน่วยพิสูจน์หลักฐาน จะเข้าดำเนินการตรวจสอบรถคันดังกล่าวอย่างละเอียดต่อไป เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป โดย ทภก. ได้ประกาศยกเลิกใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan : ACP บทที่ 4 การตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยหรือวัตถุต้องห้าม กรณีตรวจพบในพื้นที่ของสนามบิน เมื่อเวลา 19.08 น.

ทั้งนี้ ทภก.ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินและการดำเนินงานของสนามบิน และขอความร่วมมือประชาชนงดเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุจนกว่าจะมีประกาศยกเลิกการปิดพื้นที่

ทภก.ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการตรวจตรายานพาหนะและบุคคลเข้า–ออกพื้นที่อย่างเข้มงวดมากขึ้น และเพิ่มวงรอบชุดตรวจผสมในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบความเรียบร้อยในเขตพื้นที่ท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

22.15 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.7 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไป ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 60 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย


>> ไฟไหม้บ้านทาวเฮ้าส์ ซอยโชคชัย 4 รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบก่อนจะลุกลาม

23.13 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยโชคชัย 4 ซอย 84 แยก 2 -7 ถนนโชคชัย 4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 4 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 2 ภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้เสียหายที่นอน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 3 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดพร้าว  


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

03.04 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.7 ความลึก 5 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 337 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ