ฉางซา, 22 มิ.ย. ซินหัว รายงานว่า — เมื่อวันเสาร์ (21 มิ.ย.) กลุ่มสำนักทรัพยากรน้ำ อุตุนิยมวิทยา และการจัดการเหตุฉุกเฉินในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน รายงานว่าพื้นที่ตอนเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนานเผชิญฝนตกหนักตั้งแต่วันพุธ (18 มิ.ย.) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในเจ็ดพื้นที่ระดับเมืองและแคว้น เช่น แคว้นปกครองตนเองเซียงซี กลุ่มชาติพันธุ์ถู่เจียและเหมียว เมืองจางเจียเจี้ย และเมืองฉางเต๋อ จำนวนมากกว่า 4 แสนคน

รายงานระบุว่าปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยทั่วมณฑลหูหนานตั้งแต่วันพุธ (18 มิ.ย.) สูงแตะ 68.5 มิลลิเมตร เมื่อนับถึง 17.00 น. ของวันเสาร์ (21 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยปริมาณน้ำฝนในจางเจียเจี้ย ฉางเต๋อ เซียงซี และหวยฮว่า สูงเกิน 100 มิลลิเมตร ซึ่งตำบลในอำเภอซางจื๋อของเมืองจางเจียเจี้ยมีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุด 664.5 มิลลิเมตร

สำนักอุตุนิยมวิทยาได้ยกระดับมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉินจากภัยพิบัติทางอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเป็นผลพวงของพายุฝน จากระดับ 3 เป็นระดับ 2 ตอน 18.00 น. ของวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ขณะเดียวกันคณะกรรมการการจัดการเหตุฉุกเฉินประกาศยกระดับการรับมือเหตุฉุกเฉินเพื่อควบคุมอุทกภัยจากระดับ 4 เป็นระดับ 3 ตอน 21.00 น. ของวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.)

อนึ่ง ระบบเตือนสภาพอากาศของจีนแบ่งเป็น 4 ระดับ ซึ่งสีแดงหมายถึงการเตือนความรุนแรงสูงสุด ตามด้วยสีส้ม สีเหลือง และสีน้ำเงิน ส่วนระบบรับมือเหตุฉุกเฉินระดับชาติแบ่งเป็น 4 ระดับ ซึ่งระดับ 1 หมายถึงความรุนแรงสูงสุด

ทางการท้องถิ่นมณฑลหูหนานได้เสริมสร้างการเตือนภัยล่วงหน้าและการประกาศเหตุฉุกเฉินในพื้นที่หลัก ซึ่งมีการออกคำเตือนแบบมุ่งเป้า 1.39 ล้านครั้ง และข้อความเตือน 16,000 ฉบับ โดยมาตรการเหล่านี้ได้อำนวยความสะดวกแก่การอพยพประชาชนผู้อยู่อาศัยออกจากพื้นที่เสี่ยงอย่างทันท่วงทีมากกว่า 95,000 คน

การพยากรณ์ทางอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาระบุว่าพื้นที่ตอนกลางและตอนเหนือของมณฑลหูหนานจะเผชิญฝนตกหนักระหว่างวันที่ 21-23 มิ.ย. โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของแคว้นปกครองตนเองเซียงซี กลุ่มชาติพันธุ์ถู่เจียและเหมียว พื้นที่ทางตะวันตกของเมืองฉางเต๋อ พื้นที่ตอนกลางและตอนเหนือของเมืองหวยหัว และพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองอี้หยาง

นอกจากนั้นมณฑลหูหนานมีแนวโน้มฝนตกเฉลี่ยราว 100 มิลลิเมตรตลอดสัปดาห์หน้า โดยพื้นที่ลุ่มแม่น้ำลี่สุ่ยและแม่น้ำหยวนสุ่ยอาจมีปริมาณน้ำฝนราว 180 มิลลิเมตร ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงน้ำท่วมใหญ่อย่างมาก ทางการท้องถิ่นจึงกระตุ้นการเฝ้าระวังน้ำหลากท่วมจากแม่น้ำ น้ำป่าไหลหลาก ภัยพิบัติทางธรณีวิทยา ความปลอดภัยของอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก-ขนาดกลาง และน้ำท่วมขังในพื้นที่เมือง