หน้าแรก > อาชญากรรม

CIB รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกขายปุ๋ย เดือนเดียว พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 5 ล้านบาท

วันที่ 19 มิถุนายน 2568 เวลา 11:54 น.


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงน้ำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่”

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้ซื้อปุ๋ยยี่ห้อดัง ผ่านบัญชี Facebook แต่หลังจากโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสินค้าตามคำสั่งซื้อแต่อย่างใด พอทวงถามก็จะถูกแอดมินเพจดังกล่าวบล็อคแชตทันที ​ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.2 บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนจนพบว่า กลุ่มคนร้ายได้ร่วมกันใช้เพจ Facebook เลียนแบบปุ๋ยชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง มาหลอกขายปุ๋ย โดยจะนำรูปภาพสินค้าปุ๋ย มาโพสต์ขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด และในบางครั้งก็มีการสร้างแรงจูงใจด้วยการจัดโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม จากการสืบสวนพบว่าคนร้าย มีการใช้บริการประกาศโฆษณา เพื่อให้ประชาชนทั่วไปพบเห็นได้ง่าย และหลงเชื่อ ติดต่อซื้อปุ๋ย พร้อมทั้งโอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ซึ่งสุดท้ายไม่มีการจัดส่งสินค้าจริง เบื้องต้นภายใน 1 เดือน พบยอดเงินหมุนเวียนรวมกันมากกว่า 5 ล้านบาท และจากการตรวจสอบ ยังพบอีกว่ามีการแจ้งความในระบบแจ้งความออนไลน์ 17 คดี ที่มีพฤติการณ์สร้างเพจปลอมหลอกลวงขายสินค้าและบริการอื่นๆ เช่น ขายรองเท้า, ที่พักรีสอร์ท, ซิมโทรศัพท์, โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

​จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า กลุ่มคนร้าย มีการยักย้ายถ่ายเทเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ก่อนที่จะส่งต่อให้ผู้ต้องหา 2 รายนี้ ทำหน้าที่ตระเวนถอนเงินสดจากตู้ฝาก-ถอนเงิน อัตโนมัติ ภายในพื้นที่ จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. จึงขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลที่ทำหน้าที่ถอนเงินสดทั้ง 2 คนนี้ไว้

​ต่อมา เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้บูรณาการกำลังร่วมกัน โดยมี กก.2 บก.ปอท. และตม.จ.เชียงราย ร่วมกันตรวจค้น 1 จุด ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายข้างต้น พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้ โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ จำนวน 18 รายการ, สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 8 เล่ม, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ธนาคารต่างๆ จำนวน 12 ใบ, เครื่องแต่งกายที่ใช้ในการถอนเงินสด, สลิปการถอนเงินสด และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ เช่น เงินสด, ทองคำรูปพรรณ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับว่า เมื่อประมาณ ต้นปี 2568 ได้รู้จักกับ หญิงชาวเมียนมา ซึ่งทำงานให้กับนายทุนชาวจีนที่ควบคุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าจ้างให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ถอนเงินสดจากบัญชีธนาคาร โดย ให้ค่าตอบแทน 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่ถอนได้ โดยหญิงชาวเมียนมา จะส่งบัตรเอทีเอ็มที่ใช้ในการถอนเงินสด มาให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย และทุกครั้งที่มีเงินเข้าบัญชีธนาคาร หญิงชาวเมียนมาจะแจ้งให้ผู้ต้องหา ดำเนินการถอนเงิน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ตระเวนถอนเงินจากตู้ATM หลายแห่งในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อกดเงินเสร็จจะนำเงินสดไปให้ หญิงชาวเมียนมา ที่บริเวณชายแดนด่านแม่สาย โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รับว่าในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ได้ตระเวนถอนเงินสดไปแล้ว ประมาณ 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากผู้เสียหายท่านใด ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงทางออนไลน์ทุกรูปแบบแล้ว สามารถโทรไปได้ที่สายด่วน ศูนย์ AOC 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ