วันที่ 18 มิถุนายน 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมด้วย สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ,สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ร่วมกันสืบสวนจับกุมและแจ้งข้อหา นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ผู้อำนวยการกองคลังองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่ง ผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 จับกุมได้ที่ห้องทำงาน ในพื้นที่ อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร

สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือน มีนาคม 2568 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ให้ข้อสังเกตต่อองค์การบริหารส่วนตำบลดังกล่าว จังหวัดยโสธร ว่าอาจมีการเบิกจ่ายงบประมาณผิดปกติ

ซึ่งต่อมานายก อบต.ดังกล่าว ได้ตรวจสอบและพบความผิดปกติจริง จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ นางเอ (นามสมมุติ) ผู้อำนวยการกองคลัง จากผลสอบเบื้องต้นของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พบว่า ในปีงบประมาณ 2567–2568 มีการโอนเงินจากบัญชี อบต. จำนวน 27 รายการ รวมกว่า 9 ล้านบาท โดยไม่มีหลักฐานการเบิกจ่าย
  
นางเอ ถูกกล่าวหาว่าใช้สิทธิ์ในฐานะผู้ดูแลระบบทางการเงิน ดำเนินการโอนเงินไปยังบัญชีส่วนตัว รวมทั้งยังนำ USER ID และรหัสผ่านของผู้อื่นที่เกษียณอายุราชการไปแล้วมาใช้ในการเข้าระบบ เพื่อปกปิดการกระทำดังกล่าว โดยมีการยื่นหนังสือขอเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลระบบแต่ไม่ดำเนินการส่งธนาคาร ทำให้ยังสามารถเข้าระบบและถอนเงินได้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเข้าถึง USER ID และ PASSWORD ของคนอื่น ทำรายการถอนเงินจากบัญชีขององค์การบริหารสวนตำบลคำไผ่ รวมเป็นเงินกว่า 9,000,000 บาท โอนเงินไปยังบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหา 2 บัญชี

จากการสสอบสวน นางเอ (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่าได้ทุจริตเงินกองคลัง อบต. จริง เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน เหตุเพราะเคยไปกู้เงินนอกระบบทางแอปพลิเคชัน ต้องหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ย รวมถึงเคยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องกระทำการทุจริตดังกล่าว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปปป.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป