เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 23.30 น. สืบเนื่องจากฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายก่อเหตุลักสายไฟสัญญาณโทรศัพท์ ที่ตั้งชุมสาย ในซอยสุวินทวงศ์ 18/1 พบว่าประตูเหล็กตู้ชุมสายถูกตัดและอุปกรณ์ชุมสายดังกล่าวก็มีร่อยรอยถูกตัดเช่นเดียวกัน ยังมีอุปกรณ์ชุมสายอื่นๆหลายอย่างได้หายไปส่งผลทำให้ระบบสัญญาณโทรศัพท์ล่มจำนวน 2 ชุมสาย ชาวบ้านเดือดร้อนและมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.มีนบุรี จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุพบคนร้ายชาย 1 คน และหญิง 1 คน ใช้รถจยย.คนละคัน ก่อนขี่รถหลบหนีไปปลายทางที่แฟลตเอื้ออาทรมีนบุรี ซอยรามอินทรา 127 นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งคู่ได้ที่ห้องพักพร้อมกลางดังกล่าว และรถ จยย.จอดไว้อยู่ข้างแฟลต

หลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข้อมูล ทราบว่า ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ได้เข้ามาลักทรัพย์ในที่ตั้งชุมสายไป ทำให้ระบบสัญญาณโทรศัพท์ล่มจำนวน 2 ชุมสาย และได้ทำการสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้อย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนได้ทราบเบาะแสว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายพน (นามสมมติ) กับนางสาวหมวย (นามสมมติ)

หลังจากก่อเหตุได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งในแขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุจอดอยู่บริเวณบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ติดตาม และพบว่ารถคันดังกล่าวได้ก่อเหตุลักทรัพย์ชุมสายสัญญาณมาจากเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมชายและหญิงผู้ก่อเหตุ เมื่อซักถามทั้งสองยอมรับว่าร่วมกันเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์อุปกรณ์ชุมสายสัญญาณในคดีนี้จริง

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบ พบของกลางที่ผู้ก่อเหตุได้ซุกซ่อนไว้ในห้อง เป็นกระสอบถุงปุ๋ยสีขาวที่นำมาใส่อุปกรณ์ชุมสายที่ลักมา จำนวน 1 ใบ , การ์ดคอนโทรล 1 กิกะไบต์ จำนวน 12 ใบ ราคา 400,000 บาท , การ์ดคอนโทรล 10 กิกะไบต์ จำนวน 2 ใบ ราคา 200,000 บาท , การ์ด PON จำนวน 12 ใบ ราคา 1,800,000 บาท , หัว SFP GPON จำนวน 101 หัว ราคา 505,000 บาท , หัว SFP 10 กิกะไบต์ (UP-LINE) จำนวน 1 หัว ราคา 10,000 บาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ขี่รถจยย.ตระเวนลักทรัพย์สายไฟ น.ส.เสาวลักษณ์ ใช้รถจยย.คันที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำตัวส่ง พ.ต.ท.รัตนชาติ บุญสินพร้อม สว.สอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลเพิ่มเติมเชื่อว่าผผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป