หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 มิถุนายน 2568

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลา 05:34 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 มิถุนายน 2568


>> หนุ่มคุมเรือโป๊ะหายตัวปริศนา 2 วัน พบอีกที เป็นศพลอยอยู่ในแม่น้ำบางปะกง

07.00 น. ร.ต.ท.นพดล ทวีชาติ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งพบศพลอยน้ำอยู่ในแม่น้ำบางปะกง บริเวณภายในท่าเรือจอดเทียบท่าบริษัทแห่งหนึ่ง หมู่ 11 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

จุดเกิดเหตุพบร่างของ นายสงกรานต์ อายุ 53 ปี นอนคว่ำหน้าสภาพขึ้นอืดนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ ลอยอยู่ในแม่น้ำบางปะกงข้างเรือโป๊ะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำร่างขึ้นเรือก่อนกลับขึ้นฝั่ง บริเวณทางขึ้นเรือข้างตลาดลาวบางปะกง

จากการสอบถามนาย กฤษณะ อายุ 40 ปี (ลูกเรือ) เล่าว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เรือมาเทียบท่าปกติช่วงนั้นฝนตก งานเลยหยุดกะทันหันต่างคนต่างกลับเข้าไปพักผ่อนภายในบ้าน เจอผู้ตุยล่าสุดช่วงเวลา 4 -5 ทุ่ม คืนวันศุกร์ก่อนจะเข้าเช้าวันเสาร์มาพบว่าผู้ตายหายตัวปริศนาเลยช่วยกันออกตามหาแต่ไม่พบ ตนและลูกของผู้ตุยได้เข้าไปแจ้งความที่โรงพักเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา จนมาช่วงเช้าของวันอาทิตย์มาพบศพลอยคอคว่ำหน้าขึ้นอืดอยู่ข้างเรือโป๊ะของผู้ตาย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานก่อนมอบร่างให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลบางปะกง


>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต เป็นคุณป้าวัย 57 ปี

07.15 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา มีอุบัติเหตุรถกระบะตู้ทึบชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บ บนถนนเส้นทาง ห้วยเฝ้า - หนองปรือ บริเวณใกล้เคียงสนามฟุตบอล ในพื้นที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน ฉะเชิงเทรา ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีเทา ไม่พบป้ายทะเบียน สภาพรถพังเสียหายทั้ง 2 คัน ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 57 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม


>> นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวจีน พลัดตกชั้น 21 โรงแรม ใจกลางเมืองพัทยาเสียชีวิต

08.06 น. สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุ มีบุคคลพลัดตกจากที่สูงและเสียชีวิต เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งริมถนนพัทยาสายสอง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบร่าง นักท่องท่องเที่ยวชาวจีน เป็นชาย อายุ 22 ปี พลัดตกจากชั้นที่ 21 อยู่บนพื้นถนน ในสภาพเสียชีวิตจมกองเลือด เจ้าหน้าที่ใช้ผ้าขาวคลุมไว้ พร้อมห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายในห้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด และพักอยู่ในห้องเพียงคนเดียว

สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยทราบว่า ขณะที่ตนเองนั่งเฝ้าอยู่ที่ป้อมด้านหน้า ก็ได้ยินเสียงหล่นลงกระแทกพื้นดังสนั่น เมื่อมาตรวจสอบก็พบว่าเป็นร่างของนักท่องเที่ยวชาวจีนคนดังกล่าว เมื่อตั้งสติได้จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ

เบื้องต้น ร.ต.ท.ศักยภาพ ชัยเดช รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ลงวันที่ตรวจสอบบันทึกภาพ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้เสียชีวิตนั้น ลงมาสอบถามหาร้านสะดวกซื้อ แล้วเดินขึ้นไปที่ชั้น 21 เพียงคนเดียว ก่อนจะพบว่า ตกลงมาจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ส่งไปตรวจชันสูตรศพยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการตาย ที่แท้จริง แล้วให้ญาตินำเอกสารมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป


>> “อนุทิน” พร้อมผู้บริหาร ก.มหาดไทย ติดตามสถานการณ์พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ร้านพลาสติกอุดรธานี

09.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ร้านจำหน่ายพลาสติกบริเวณถนนรอบเมือง (อุดรธานี-หนองบัวลำภู) อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 68 เกิดเหตุไฟไหม้ร้านจำหน่ายพลาสติก ทำให้อาคารโกดังและสินค้าพลาสติกได้รับความเสียหาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจังหวัดอุดรธานี ได้บูรณาการรถน้ำ/รถดับเพลิงจากหน่วยงานในพื้นที่ ร่วมเข้าระงับเหตุ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว และอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายอนุทิน กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอาคารที่เกิดเหตุเป็นโกดังเก็บสินค้า ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น จาน ชาม และเก้าอี้พลาสติก โดยคาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสภาพอาคารค่อนข้างเก่าและไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งหลังได้พบกับเจ้าของกิจการ ทราบว่าได้ทำประกันอัคคีภัยไว้ โดยมีวงเงินความคุ้มครองครอบคลุมสินค้าที่ได้รับความเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของบริษัทประกันภัย โดยได้รับความร่วมมือและการประสานงานจากกสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัด


>> ตำรวจ สน.เพชรเกษม รวบแก๊งบัญชีม้า หลอกเหยื่อกดลิงก์สินค้า เพื่อได้ค่าคอม กดเยอะได้เยอะ

10.00 น. พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว ชาย อายุ 19 ปี ผู้ต้องหา "ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าร้านค้าภายในซอยพุทธกาศ ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

สืบเนื่องจาก เมื่อเดือนมีนาคม ปี 66 ผู้เสียหาย อยากหารายได้เสริม จึงไปเจอไลน์ในกลุ่มโอเพ่นแชท มีการโพสต์ทำงานเสริมให้ทำ หากใครสนใจ ให้ติดต่อไลน์ ส่วนตัวได้เลย เดี๋ยวสอนให้ เป็นไลน์ส่วนตัวของผู้หญิง ชื่อพราว จะมาแนะนำและสอนงาน จะเป็นงาน กดรับออเดอร์ในแพลตฟอร์ม แห่งหนึ่ง สอนให้เราสมัครเสร็จแล้วก็ทำในบัญชี ครั้งแรก จะเติมเงินเข้าไปเอง สอนเราทำจนเสร็จครบออเดอร์ ก็มาทำในบัญชีของผู้แจ้งเอง แล้วก็เริ่มมียอดเงินเข้ามาในระบบ เยอะมากขึ้นมันล่อใจโดยการบอกว่าให้เติมไปอีก เยอะๆแล้วค่อยกดออกทีเดียว จะได้ถอนเงินออกมาพอกดเข้าไป ราคาสินค้าสูงขึ้นไป ยอดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายโดนบล็อก ติดต่อไม่ได้ มารู้ว่าโดนหลอก รวมยอดทั้งหมด 3 ล้านกว่าบาท จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.เพชรเกษม เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายให้ถึงที่สุด 
จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหา พบมีประวัติคดีพรากผู้เยาว์ เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อปี 2566 และ พรบ.คอมฯ ปี 2566


>> ผู้ว่าฯ หนองคาย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพลิงไหม้บ้านเรือนวอด 5 หลัง

10.30 น. นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอท่าบ่อ เหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย กิ่งกาชาดอำเภอท่าบ่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หมู่ 7 บ้านถ่อน ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือเบื้องต้นประชาชนที่บ้านถูกเพลิงไหม้เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. (14 มิ.ย. 68) ที่ผ่านมา มีบ้านที่ถูกไฟไหม้เสียหายรวม 5 หลัง จากการประเมินความเสียหายประมาณ 3,500,000 บาท

เบื้องต้นสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร โดยไฟได้ลุกไหม้ที่หม้อแปลงไฟฟ้าและสายสื่อสารต่าง ๆ ก่อนจะลุกลามเข้าไหม้บ้านเรือนประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดหนองคาย ลงเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงแล้ว


>> ไฟไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง ที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ คาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

14.33 น. ศูนย์ประสานงาน หน่วยกู้ภัยนครชุมแพ ได้รับแจ้งเหตุจากสถานีตำรวจภูธรชุมแพ ว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยในพื้นที่บ้านมีชัย ตำบลหนองไผ่ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ หน่วยกู้ภัยนครชุมแพจึงได้ระดมเจ้าหน้าที่เร่งรุดไปยังที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน โดยประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชุมแพ เพื่อเตรียมพร้อมในการควบคุมสถานการณ์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ลักษณะโครงสร้างชั้นล่างก่อสร้างด้วยคอนกรีต ส่วนชั้นบนเป็นโครงสร้างไม้ เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรงจากบริเวณชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย ไฟลุกโหมอย่างรวดเร็วและมีควันหนาแน่นกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งใช้น้ำแรงดันสูงฉีดควบคุมเพลิงทั้งจากด้านนอกและภายในตัวอาคาร ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการควบคุมสถานการณ์จนเพลิงสงบลงได้โดยไม่ลุกลามไปยังบ้านเรือนใกล้เคียง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเข้าดับไฟ เนื่องจากโครงสร้างไม้บางส่วนเริ่มเสียหายและอาจเกิดการพังถล่ม

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัยในขณะเกิดเหตุ จึงไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ความเสียหายต่อทรัพย์สินยังอยู่ระหว่างการประเมิน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่เพื่อความถูกต้องและเป็นทางการ จะต้องรอผลการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง


>> ก.ต่างประเทศ แถลงฯ แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต สถานการณ์ความตึงเครียด "อิสราเอล-อิหร่าน" เรียกร้องทุกฝ่ายปกป้องพลเรือน

15.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ประเทศไทยมีความห่วงกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุดเพื่อมิให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงและความขัดแย้งขยายตัวในวงกว้าง อันจะส่งผลกระทบต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ประเทศไทยขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปกป้องพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือน และมุ่งจัดการสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ตามกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และข้อมติสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ไว้แล้ว หากเกิดกรณีจำเป็น โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้เริ่มการดำเนินการของศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) แล้ว เพื่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือคนไทยในกรณีจำเป็น

ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัวและติดตามการประกาศการแจ้งเตือนต่าง ๆ และแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าวหากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ในกรณีฉุกเฉินสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ทุกแห่ง หรือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน Thai Consular เพื่อรับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วและทันการ


>> รองผู้ว่าฯ จันทบุรี ตรวจความเรียบร้อย "ด่านถาวรบ้านแหลม" อ.โป่งน้ำร้อน เหตุการณ์เป็นไปตามปกติ

16.52 น. นายสมพร กาญจน์นิรันดร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโป่งน้ำร้อน และนายณภัทร กิจกาญจน์ ป้องกันจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีนายสินทวีวรัต พงสินพุฒิสุภชา หัวหน้าชุดประสานตลาดบ้านแหลม พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากรจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับและรายงานข้อมูลในพื้นที่

ทั้งนี้ จากการตรวจติดตามพบว่าสถานการณ์บริเวณด่านถาวรบ้านแหลมยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติหรือสถานการณ์ที่น่ากังวล ขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ใช้เส้นทางผ่านแดนดังกล่าวอย่างเต็มที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรียังเน้นย้ำถึงความพร้อมของภาครัฐในการประสานงานและเฝ้าระวังสถานการณ์ เพื่อให้พื้นที่ชายแดนคงความปลอดภัยและส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน


>> ทบ. ยืนยันฝ่ายไทยดำเนินการปรับปรุงเส้นทางในเขตราชอาณาจักรไทยอย่างถูกต้อง

17.20 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกัน หน่วยทหารในพื้นที่กองกำลังสุรนารี ได้ดำเนินการปรับปรุงเส้นทางบริเวณ เนิน 469 และเนิน 745 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อใช้ในภารกิจลาดตระเวนและส่งกำลังบำรุง โดยยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายในเขตราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการปฏิบัติงาน ได้มีทหารกัมพูชาเข้ามาสอบถาม และขอให้ชะลอการดำเนินการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบในรายละเอียดเกี่ยวกับเขตพื้นที่ ส่งผลให้ผู้บังคับบัญชาของทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือกัน

ผลจากการหารือดังกล่าว ทำให้ฝ่ายกัมพูชายอมรับว่า ถนนที่กำลังก่อสร้างอยู่ภายในเขตแดนของประเทศไทยอย่างถูกต้อง จึงสามารถตกลงกันได้ และหน่วยทหารไทยสามารถดำเนินภารกิจต่อไปได้ตามแผนที่วางไว้

โฆษกกองทัพบกยืนยันว่า การดำเนินการของหน่วยทหารไทยทั้งหมดเป็นไปตามกรอบ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา (MOU 2543) ซึ่งฝ่ายไทยยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และไม่เคยมีการละเมิดข้อตกลงดังกล่าวแต่อย่างใด โดยภารกิจในพื้นที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงเส้นทางที่ดำเนินการมาแล้วในหลายจุด เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนของกองทัพบก ทั้งนี้ การหารือกับฝ่ายกัมพูชาได้เสร็จสิ้นลงด้วยความเข้าใจที่ตรงกัน และฝ่ายกัมพูชาได้แสดงท่าทีเห็นพ้องและยอมรับในข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน


>> ไฟไหม้กุฎิพระเสียหายวอดทั้งหลัง และลุกลามศาลาข้างเคียง ภายในวัดดัง อ.เกาะคา จ.ลำปาง

18.25 น. รับแจ้งว่ามี เหตุเพลิงไหม้ภายในวัดหาดปู่ด้าย บ้านหาดปู่ด้าย ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง สมาคมกู้ภัยลำปางส่งทีมดับเพลิงและกู้ภัย พร้อมรถดับเพลิง อุปกรณ์ส่องแสงสว่างร่วมสนับสนุน

ที่เกิดเหตุ พบเป็นเพลิงไหม้อาคารกุฏิพระ 2 ชั้น และเพลิงได้ลุกลามไปยังศาลาหลังข้างเคียง โดยเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ ดำเนินการใช้รถดับเพลิงระดมฉีดน้ำ จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และเพลิงสงบลงในเวลาต่อมา ตรวจสอบพบว่า เสียหายที่กุฏิพระ 1 หลัง และศาลาข้างเคียงเสียหายเล็กน้อย ขณะเกิดเตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา


>> เพลิงไหม้รถยนต์ ซอยสุขุมวิท 66/1 อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบได้ก่อนจะวอดทั้งคัน

19.47 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถ ซอยสุขุมวิท 66/1 ถนนสุขุมวิท แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม.

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณห้องเครื่องยนต์และฝากระโปรง อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ห้องเครื่องยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพระโขนง


>> ไฟไหม้ร้านอาหารกลางเมือง จนท.พร้อมรถดับเพลิงระดมฉีดน้ำ พบลูกจ้างโดดลงจากอาคารบาดเจ็บ จ.อุดรธานี

19.50 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน, เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และมีผู้ติดค้างในอาคาร บริเวณถนนหมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงบริเวณชั้น1 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครอุดรธานีร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมด้วยรถดับเพลิงระดมใช้หัวฉีดน้ำสกัด จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นผู้ช่วยเชฟและพนักงานในร้านกระโดดหนีไฟลงมาจากอาคาร เจ้าหน้าที่กู้ชีพช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลอุดรธานี ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำวจ สภ.เมืองอุดรธานี


>> หนุ่มวัย 43 ปีขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถกระบะ แล้วเสียหลักชนเสาไฟ เสียชีวิตริมถนนพหลโยธิน

21.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตี๊ง มีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนพหลโยธิน ขาเข้า ก่อนถึงตลาดไท ช่วง กม. 44+700 ในช่องทางคู่ขนาน ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 7051 พระนครศรีอยุธยา ห่างออกไป พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ไม่พบป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่ติดกับโคนเสาไฟข้างทาง ใกล้กันพบว่ามีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทางอาสาสมัครพยายามให้การช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นายจิรศักดิ์ อายุ 43 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรว สภ.คลองหลวง  


>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ หนุ่มเมียนมาเสียชีวิต

00.22 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ เสียหลักพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย บนถนนสายไร่ขิง - ลาดหวาย ใกล้เคียงซอยไร่ขิง 42 รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน -324 กทม.พลิกคว่ำ ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้ชาย อายุ 26 ปี ชาวสัญชาติเมียนมา พื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว  


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา    

00.46 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.5 ลึก 10 กม. ประเทศเมียนมาศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 439 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม