หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2568

วันที่ 14 มิถุนายน 2568 เวลา 05:44 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2568


>> ชายแดนจันทบุรีวุ่น กัมพูชาปิดด่านกะทันหันไม่แจ้งล่วงหน้า ประชาชน-รถขนส่งตกค้างเพียบ

10.50 น. สถานการณ์บริเวณด่านชายแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างกะทันหัน หลังทางการกัมพูชาประกาศปิดด่านชายแดนทุกจุด โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ประชาชนและรถยนต์ขนส่งสินค้าจำนวนมากที่กำลังจะข้ามแดน ต้องตกค้างอยู่บริเวณหน้าด่าน

รายงานระบุว่า รถขนส่งสินค้าจากประเทศไทยที่เดินทางไปส่งของในฝั่งกัมพูชาช่วงเช้า ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยได้ ขณะที่ประชาชนที่ตั้งใจจะเดินเท้าข้ามแดนก็ต้องยืนรอด้วยความสับสน เบื้องต้นพบรถยนต์ตกค้างเป็นจำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านอย่างหนัก โดยไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการปิดด่านในครั้งนี้ 
อย่างไรก็ตาม มีรายงานล่าสุดว่าทางการกัมพูชาได้เปิด "ประตูเล็ก" สำหรับให้คนเดินเท้าสามารถข้ามแดนได้บางส่วน แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเปิดด่านเต็มระบบเมื่อใด การปิดด่านแบบกะทันหันนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการและประชาชนที่ต้องเดินทางข้ามแดนเพื่อประกอบอาชีพและกิจธุระเป็นอย่างมาก เนื่องจากสินค้าที่ขนส่งเกิดความล่าช้า และทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ โดยขณะนี้ยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากทางการกัมพูชาเกี่ยวกับสาเหตุของการปิดด่านในครั้งนี้

ขอแนะนำผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางไปจันทบุรี โดยเฉพาะบริเวณด่านบ้านแหลม ให้ตรวจสอบสถานการณ์การเปิด-ปิดด่านอย่างใกล้ชิดก่อนออกเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น


>> รวบอดีตพนักงานบัญชีแสบ ปลอมเอกสารฉ้อโกงบริษัทกว่า 4 ล้านบาท ตรวจพบประวัติคดีฉ้อโกงอีกเพียบ

11.22 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นางสาวลอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” โดยจับกุมได้บริเวณศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณปี พ.ศ.2556 นางสาวลอได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีการชำระเงินที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทผู้เสียหาย โดยนางสาวลอทำหน้าที่จ่ายผลงานและเงินมัดจำผู้รับเหมารวมถึงงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย จนกระทั่งเดือนกันยายน 2563 ได้ลาออก ซึ่งต่อมาบริษัทผู้เสียหายได้ตรวจสอบรายการทางการเงินของบริษัทเพื่อทำบัญชีงบการเงินประจำปี ก่อนตรวจสอบพบความผิดปกติของรายการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหาชายอีกราย โดยจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาชายรายนี้ไม่ได้เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างของบริษัทผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบสัญญาจ้างเหมาพบว่า ได้ปลอมเอกสารรับวางบิลผู้รับเหมาและเอกสารใบสรุปผลงวดงานขึ้นมา ลักษณะเป็นการฉ้อโกงกัน รวมเป็นเงินจำนวนประมาณ 4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้

จนกระทั่งต่อมาผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ จึงได้ขอศาลอาญาพระโขนง อนุมัติออกหมายจับ น.ส.ลอ ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” ก่อนจะจับกุมได้ และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญายังพบว่า น.ส.ลอ มีประวัติคดีฉ้อโกงอีกหลายคดีสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


>> สาววัย 17 ปีขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ชนกับรถพ่วงแล้วถูกทับซ้ำ ริมถนนสุวรรณศร เสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่

12.00 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย อ.กบินทร์บุรีว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถพ่วง และมีผู้เสียชีวิต บนถนนสุวรรณศร ใกล้เคียงปั๊มน้ำมัน ปตท. ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี ลักษณะชนกับรถพ่วง เบนซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน สมุทรสาคร ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นผู้หญิงไทย อายุประมาณ 17 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี


>> กรมปศุสัตว์ ร่วมกับ ปคบ. ตรวจยึดอาหารสัตว์เลี้ยงนำเข้าไม่ได้รับอนุญาต 59 รายการ หลังประชาชนแจ้งเบาะแส พบจำหน่ายผ่านออนไลน์

12.35 น. นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ กองสารวัตรและกักกัน กองควบคุมอาหารและยาสัตว์ และปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบโกดังสีเขียว บริเวณถนนกาญจนาภิเษก แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร หลังได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน ว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ผ่านร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มออนไลน์

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้​ล่อซื้อและสืบสวนจนทราบที่ตั้ง ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบ พบโกดังขนาดใหญ่ มีพนักงานประมาณ 10 คน ตรวจพบอาหารสัตว์เลี้ยงหลากหลายประเภท ทั้งชนิดเม็ด ชนิดเปียก และขนมแมวเลีย โดยไม่พบเอกสารอนุญาตนำเข้าเพื่อจำหน่าย และไม่มีการขึ้นทะเบียนอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ ตามที่กฎหมายกำหนดการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารสัตว์เลี้ยงที่แบ่งขายจำนวน 10 รายการ ส่งตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการกรมปศุสัตว์ พร้อมอายัดอาหารสัตว์เลี้ยงควบคุมเฉพาะทั้งหมด 59 รายการ รวมมูลค่า 5,937,734 บาท และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่จาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ กองสารวัตรและกักกัน (กสก.) กองควบคุมอาหารและยาสัตว์ (อยส.) และ บก.ปคบ. ควบคุมของกลาง ก่อนดำเนินการขนย้ายและแจ้งความดำเนินคดีต่อไป


>> กรมธุรกิจพลังงาน เผยไทยมีปริมาณน้ำมันสำรองเพียงพอ 60 วัน รับมือเหตุสงครามตะวันออกกลาง

12.36 น. นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า หลังเกิดการสู้รบระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะสถานการณ์การโจมตีเป้าหมายทางทหารและโครงการเกี่ยวกับนิวเคลียร์ในอิหร่าน โดยสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออกน้ำมันจากพื้นที่ตะวันออกกลางมายังประเทศไทย กรมธุรกิจพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและเตรียมความพร้อม หากสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีน้ำมันดิบคงเหลือประมาณ 3,104 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 23 วัน น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่ง 2,597 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 20 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 1,886 ล้านลิตร เพียงพอต่อความต้องการใช้ 17 วัน รวมปริมาณน้ำมันคงเหลือที่สามารถใช้ได้ 60 วัน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล และขอให้ติดตามข่าวสารที่เป็นทางการจากทางราชการ กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน จะบริหารจัดการอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สงครามที่เกิดขึ้นน้อยที่สุด


>> จ่อตั้งกรรมการสอบวินัย "สิบตำรวจโท" กระชากไรเดอร์-ผู้โดยสารตกจากรถจักรยานยนต์

13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน พันตำรวจเอก ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ได้เรียกตำรวจฝ่ายจราจร ร่วมประชุมกับ ศปก.ตร. ผ่านทางคอนเฟอร์เรนซ์ หลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง

ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องผู้บังคับบัญชาได้เรียกประชุมเพื่อให้ทบทวนยุทธวิธีในการเข้าระงับเหตุ ซึ่งถ้าหากมีความชัดเจนแล้วก็จะมีการสั่งการให้ปฏิบัติการในทิศทางเดียวกันทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่านายตำรวจยศ สิบตำรวจโท ใช้ยุทธวิธีผิดจริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีเจตนาดีที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ตอนนี้อยู่ระหว่างที่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ระหว่างนี้ตนได้ให้ นายตำรวจพักรักษาตัวไปก่อน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ และยังไม่อนุญาตให้ออกไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับงานจราจร จนกว่าจะมีการตรวจสอบเสร็จสิ้น ส่วนคนเจ็บหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียด

สำหรับนายตำรวจคนดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่ในงานจราจรมานานกว่า 1 ปีแล้ว ความจริงก็ควรมีประสบการณ์ในการประเมินยุทธวิธีในการเข้าระงับเหตุ แต่ตนก็ไม่ทราบสถานการณ์หน้างานในขณะนั้น ว่าทำไมนายตำรวจถึงกระทำแบบนี้ แต่จุดเริ่มต้นของคดีนี้ ตำรวจต้องการตัดไฟแต่ต้นลม เพราะตรงจุดดังกล่าว เคยมีรถจักรยานยนต์ฝ่าสัญญาณไฟจราจร จนประสบอุบัติเหตุถูกรถชนจนขาหัก จึงต้องการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงไปมากกว่านี้

ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตามยุทธวิธีแล้วถ้าหากได้รับการแจ้งข้อมูล ว่ามีรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร ก็จะต้องมีการสกัดจับหรือมีการออกหมายเรียกเพื่อมาชำระค่าปรับ หากเป็นการรับแจ้งเหตุอุกฉกรรจ์ ก็จะต้องใช้วิธี Stop And Stick ในการเข้าระงับเหตุ


>> 2 หนุ่มขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เสียหลักหลุดโค้งคว่ำลงข้างทาง เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 รายและที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย

13.43 น. รับแจ้ง กู้ภัยคุระบุรีร่วมใจพังงา ว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 2 ราย บนถนนภายในซอยทุ่งรัก เยื้องโรงเรียนอนุบาลบ้านเด็ก ในพื้นที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ป้ายทะเบียน ระนอง ลักษณะพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กับพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุ 17 ปี เป็นผู้โดยสารนั่งซ้อนท้ายรถ

ส่วนผู้ขับขี่ เป็นผู้ชาย อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่อนขาด้านขวาผิดรูป มีแผลฉีกขาดตามร่างกาย ทางอาสาสมัครดำเนินการปั๊มหัวใจ ก่อนดำเนินการนำส่งโรงพยาบาลคุระบุรีชัยพัฒนา และรับแจ้งว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คุระบุรี


>> ศาลสั่ง "ปู มัณฑนา" ชดใช้ "ลูกหมี" 2 ล้านรวมดอกเบี้ย ทนายจ่อยื่นยึดทรัพย์

15.05 น. ผู้สื่อข่าวรานงาน ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ถนนรามอินทรา กทม. น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือ ลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และ น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง แถลงข่าวกรณี นางมัณฑนา หิมะทองคำ หรือ ปู อดีตดารานักแสดงชื่อดังทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง กว่า 2 ล้านบาท โดยไม่ยินยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้

โดย ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้ได้ทำการฟ้องลูกหนี้ในกรณีผิดสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งศาลชั้นต้นได้ตัดสินให้ลูกหนี้ชดใช้เงินต้นจำนวน 1,739,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 15% รวมเป็นเงิน 2,065,062 บาท พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมจำนวน 3,000 บาท ซึ่งในคดีนี้ศาลเห็นว่ามีการชักชวนการลงทุนจริง ไม่จ่ายปันผลจริง และเจ้าหนี้ไม่ได้ทำการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย และคิดดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้จะต้องรอระยะเวลา 30 วัน หากลูกหนี้ไม่ชำระเงินก็จะดำเนินการต่อ โดยออกหมายบังคับคดี ถ้าไม่จ่ายก็จะยึดทรัพย์ ถ้าไม่มีทรัพย์จะถูกฟ้องล้มละลายต่อไป

ด้าน น.ส.รัศมี กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจ ซึ่งอยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างหากมีใครมาชวนลงทุนก็อยากให้ระมัดระวัง ยอมรับว่ากลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เพราะลูกหนี้แพ้คดี และต้องจ่ายเจ้าหนี้ 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งลูกหนี้คนดังกล่าวก็จ่ายเพียงแค่เดือนเดียวและไม่จ่ายอีกเลย หลังจากนี้ตนจะดำเนินการลูกหนี้แจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ ที่มีการกล่าวอ้างว่า ตนได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด เพราะคำตัดสินของศาลระบุเอาไว้ชัดเจนว่า เป็นการทำสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ด้าน ทนายกุ้ง เปิดเผยว่า หลังจากนี้ลูกหนี้คนดังกล่าวยังต้องขึ้นศาลอีก 4 คดี ได้แก่ คดีฉ้อโกงและ พรบ.เช็ค ที่จะต้องขึ้นฟังคำคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ และยังมีคดีหมิ่นประมาทอีก 3 คดี ที่จะต้องไต่สวนมูลฟ้องและนัดสอบคำให้การจำเลยอีกด้วย


>> กสทช. พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล กรณีกัมพูชาตัดเน็ตไทย คาดเป็นผลดีส่งผลอาชญากรรมทางเทคโนโลยีลดลง

16.21 น. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ในฐานะหน่วยงานกำกับพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อาจเกี่ยวข้องบริเวณชายแดน ซึ่งกรณีรัฐบาลกัมพูชาจะจัดหาอินเทอร์เน็ตเอง ต่อไปหากผู้ประกอบการโทรคมนาคมจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณไปยังกัมพูชาจะต้องมีการให้รายละเอียดธุรกิจและบริการ เพื่อให้สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบเข้มข้นขึ้น เป็นเรื่องดีในการตรวจสอบการใช้โครงข่ายในต่างประเทศ และน่าส่งผลดีต่อปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้มีปริมาณลดลง

นายไตรรัตน์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานในบางพื้นที่มีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนจากฝั่งกัมพูชาแล้ว ซึ่งปัจจุบันผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองที่มีจุดเชื่อมต่อออกต่างประเทศบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา มีทั้งสิ้น 14 บริษัท

อย่างไรก็ดีขณะนี้อยู่ระหว่างรอนโยบายจากรัฐบาลไทยว่าจะให้ดำเนินการในเรื่องใด โดยในส่วนของผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีการขออนุญาตใช้โครงข่ายระหว่างประเทศ คือ การเช่าวงจรสื่อสารระหว่างประเทศความเร็วสูง เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสาขาในไทยและต่างประเทศ หรือ International Private Leased Circuit (IPLC) เช่น ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจสินค้าและบริการของไทยที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ซึ่งก็สามารถขอใช้บริการกับผู้ให้บริการในกัมพูชาได้


>> นายกฯ ย้ำ ถก JBC พรุ่งนี้ ไทยเตรียมการอย่างรัดกุม ขอรักษาบรรยกาศเพื่อนำไปสู่การเจรจา

16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดีย ระบุ "เมื่อสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เดินมาถึงจุดที่จะมีการเจรจากันผ่านกลไก JBC ในวันพรุ่งนี้ รัฐบาลไทยขอใช้พื้นที่ในเวทีดังกล่าว คลี่คลายสถานการณ์โดยสันติวิธี และยังคงมาตรการเดิมที่มีข้อสรุปร่วมกันเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568

เรื่องการเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะเพื่อนบ้านควรคุยกันอย่างมิตร การแสดงท่าทีหรือกำหนดแนวทางต่างๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย แทนที่จะส่งผลเชิงบวก อาจกลายเป็นเพิ่มความขัดแย้ง ซึ่งหากสถานการณ์ลุกลาม เราก็พร้อมทุกประการโดยไม่หวั่นไหว

มาตรการเพื่อรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ได้มีการเตรียมการอย่างรัดกุม รอบด้าน พร้อมดำเนินการทันที แต่เรายังคงเจตจำนงที่จะเริ่มต้นในกรอบ JBC และขอรักษาบรรยากาศเพื่อนำไปสู่การเจรจา หลังจากนั้นจะประเมินผลจากการเจรจารอบแรก เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการต่อไปค่ะ"


>> ชาวบ้านพบถุงต้องสงสัย หยิบมาตรวจสอบ เป็นประทัดยักษ์แล้วเกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ตร.เผย โจ๋ขี่ จยย.นำมาวางไว้เร่งติดตามตัว

17.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านพบวัตถุต้องสงสัยเป็นก้อนสีดำ ถูกนำมาวางทิ้งใกล้แปลงผัก จึงนำมาแกะดู จากนั้นได้เกิดระเบิดใส่ขา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ริมถนนรัษฎานุสรณ์ ในพื้นที่ ม.3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต

ที่เกิดเหตุ หน้าบ้านหลังดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำล้อยางรถยนต์มาวางไว้ด้านในมีถุงประทัดยักษ์ (ประกอบเอง) จำนวน 4 ถุง วางอยู่และแช่น้ำไว้ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฯได้ไปตรวจสอบข้างลาน ซึ่งเป็นจุดที่วัยรุ่นได้นำไปวางไว้ พบผ้าเทปกาวสีดำ และประทัดยักษ์ (ลูกไข่) ตกอยู่ 2 ลูก จึงได้เก็บไว้ตรวจสอบ

จากการสอบถาม เจ้าของบ้านข้างเคียง บอกว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าดูแปลงผักข้างบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านญาติ พบวัตถุเป็นสีดำจำนวน 5 ก้อน วางไว้ในล้อยางรถยนต์เก่า ที่อยู่ใต้ต้นไม้ บริเวณสวนข้างบ้าน และ มีถุงเล็กอยู่ข้างใน 5 ถุงจึงได้หยิบมาไว้ที่หน้าบ้านระหว่างนั้นพี่เขยและพี่สาวเดินมาพอดี จึงได้แกะถุงดูอีกรอบจึงเกิดการปะทุขึ้น ทำให้สะเก็ดถูกทั้ง พี่เขยและพี่สาวบาดเจ็บเล็กน้อย จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย.68 ได้มีวัยรุ่นจำนวน 4 คนขับรถจักรยานยนต์มาจอดใกล้บ้านดังกล่าว 1 ใน 4 คนได้ นำถุงใส่สิ่งของ มาวางไว้ใต้ต้นไม้ข้างบ้านก่อนจะเดินออกมาแล้วขับรถหลบหนีไป ขณะนี้ชุดสืบสวนฯ กำลังเร่งติดตามตัวกลุ่มดังกล่าวมาสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> รถจักยานยนต์เฉี่ยวชนกันล้มคว่ำ รถบรรทุกตามหลังทับซ้ำ มีผู้เสียชีวิต

20.20 น. รับแจ้งจาก สมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันแล้วพลิกคว่ำ ถูกรถบรรทุกตามหลังมาเหยียบซ้ำ มีผู้เสียชีวิต บนถนนภายในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ บริเวณใกล้เคียงปั๊มแก๊ม LPG ในพื้นที่ ม.9 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ป้ายทะเบียน ฉะเชิงเทรา ล้มคว่ำ ใกล้กับพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ ชาย 1 ราย ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพแปลงยาว และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพถูกรถบรรทุก ไม่ทราบรายละเอียดทับศีรษะ ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุประมาณ 50 - 55 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แปลงยาว


>> รวบโจรวิ่งราวทองที่ จ.ลำพูน หนีมากบดานที่พัทยา ค้นเจอเงินสดกว่า 4 แสนบาท สารภาพใช้เที่ยวเปย์ - ปั่นสล็อต

00.07 น.  พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.กก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เข้าควบคุมตัว นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ชาว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดลำพูน เลขที่ 265/2568 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

โดยการจับกุมเกิดขึ้นบริเวณทางออกห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่พัทยากลาง หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานในพื้นที่เมืองพัทยา

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ร้านทอง ในพื้นที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่อไม่กี่วันก่อน หลบหนีไปพร้อมทองรูปพรรณน้ำหนักรวมกว่า 10 บาท (5 บาท จำนวน 2 เส้น) ก่อนจะนำไปขายและนำเงินมาใช้จ่าย ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเล่นพนันสล็อตเป็นบางครั้ง

จากการตรวจค้น พบของกลางเป็นเงินสดจำนวน 415,076 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปยังห้องพักของผู้ต้องหาเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าได้มีการจำหน่ายทองคำไปแล้วจริง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งควบคุมไว้ที่ห้องขัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อรอการประสานงานส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ป่าซาง จ.ลำพูน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

00.54 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 172 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 

 
>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

01.45 น. วันที่ 14 มิถุนายน 2568 รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนเจ้าคุณทหาร ใกล้เคียงแยกตัดถนนคุ้มเกล้า

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีแดง - ดำ ป้ายทะเบียน 1966 กทม.ล้มคว่ำ ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ มีเลือดออกบริเวณศีรษะ ทางทีมกู้ชีพร่วมตรวจสอบพบว่า ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 20 - 25 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุง


>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุกพ่วง เสียชีวิตกลางถนน

05.10 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุกพ่วง และมีผู้บาดเจ็บ บนถนนแบริ่งตัดใหม่ เข้ามาจากฝั่งถนนลาซาล ก่อนออกถนนแบริ่ง ประมาณ 1 กม. ในพื้นที่ เขตบางนา กทม.

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า จีออโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถบรรทุกพ่วง ป้ายทะเบียน เพชรบูรณ์ ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 1 ราย อายประมาณ 20 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา  

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ