หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบสาวใหญ่ขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านเฟซบุ๊ก หลังผู้หวังดีแจ้งเบาะแสผ่านแอป “ทางรัฐ”

วันที่ 12 มิถุนายน 2568 เวลา 11:12 น.


สืบเนื่องจาก ได้มีประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าประเภทร้านค้าออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนพบบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บุหรี่ไฟฟ้า มาบตาพุด ห้วยโป่งระยอง (อุปกรณ์ครบคัน)” ได้โพสต์โฆษณาจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการตั้งค่าบัญชีเป็นสาธารณะ ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท. 2 ได้ทดลองติดต่อขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากเฟซบุ๊กดังกล่าว ปรากฎว่าได้รับสินค้าตามที่ทดลองสั่งซื้อจริง จึงได้สืบสวนย้อนไปยังแหล่งที่มาและเส้นทางการขนส่งของพัสดุดังกล่าว จนพบหลักฐานว่า ได้มี นางสาวเอ (นามสมมุติ) ได้ใช้บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนวัดมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เป็นสถานที่เก็บซุกซ่อนเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาล

ต่อมา พ.ต.ท.ศุภณัฎฐ์ เกตุแก้ว สว.กก.2 บก.สอท.2 ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุด ได้นำหมายค้น ศาลจังหวัดระยอง เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง บริเวณถนนวัดมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง พบนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี เป็นผู้พักอาศัย ผลการตรวจค้นพบ เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง จำนวน 164 ชิ้น, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัว จำนวน 3 เครื่อง, หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 30 ชิ้น และน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 72 ขวด และอุปกรณ์แพ็กกล่องพัสดุและเครื่องมือสื่อสารที่ใช้ในการกระทำความผิดวางอยู่ภายในห้องโถงภายในบ้านหลังดังกล่าว

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแท็บเล็ต พบว่ามีการลงชื่อเข้าใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “บุหรี่ไฟฟ้ามาบตาพุด ห้วยโป่งระยอง (อุปกรณ์ครบคัน)” นางสาวเอ (นามสมมุติ) ยอมรับว่าของกลางที่ตรวจพบนั้นเป็นของตนจริง โดยจำหน่ายให้ลูกค้าทั่วไปผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีหน้าร้าน แต่เนื่องจากเมื่อประมาณช่วงเดือน ก.พ.68 ทางรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกวดขันจับกุมผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทั่วประเทศ ตนจึงปรับเปลี่ยนวิธีการจำหน่ายสินค้ามาเป็นการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์แทน โดยเป็นผู้แพ็กพัสดุและเป็นผู้จัดส่งพัสดุให้ลูกค้าด้วยตนเองทุกครั้ง ซึ่งเพิ่งขายออนไลน์มาประมาณ 3 เดือน มีรายได้เฉลี่ยประมาณเดือนละ 50,000 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” และ “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร” นำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมสืบสวนขยายผลไปยังแหล่งที่มาของบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวต่อไป

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ