วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 23:29 น.
13มิ.ย นี้ ทนายเผย “ทักษิณ” ไม่ต้องไปศาล มอบอำนาจแจงคดีชั้น 14 เหตุไม่มีหมายเรียก
กรณี ในวันที่ 13 มิ.ย 2568 นี้ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมหรือนัดไต่สวน กรณีความปรากฎการบังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม4/2551, คดีหมายเลขแดงที่ อม.10 /2552 ,คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และจำเลยในคดีทั้ง 3 คดี แจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริง ตามที่อ้างในคำร้องหรือไม่ พร้อมสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ให้ชี้แจงข้อประกอบการพิจารณาของศาลว่า การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ พร้อมแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความเเละผู้รับมอบอำนาจนายทักษิณ เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ตนเเละทีมทนายความจะเดินทางไปศาลฎีกาฯ โดยประเด็นชี้เเจงเราได้ทำเตรียมไปชี้แจง เนื่องจากการพิจารณาคดีนี้เป็นรูปเเบบลักษณะคดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็เตรียมชี้เเจงในส่วนที่เกี่ยวข้องในฐานะผู้ต้องปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายในขณะต้องรับโทษตามความเป็นจริง ก็ต้องดูว่าภายหลังจากศาลได้รับข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ เเล้ว ศาลจะมีการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไร หรือมีประเด็นอะไรเพิ่มหรือไม่ ซึ่งตนเป็นทั้งทนายความเเละในฐานะผู้รับมอบอำนาจสามารถกระทำการเเทนตัวการได้ในที่กฎหมายให้กระทำการแทนได้ ในส่วนมวลชนคาดว่าจะไม่มีเดินทางไป ตนทำคดีมาก็ไม่เคยมีลักษณะที่จะนำมวลชนไปศาล ทนายทำหน้าที่ทนายไม่ใช่ผู้นำมวลชน ที่ผ่านมาก็ทำคดีโดยยึดตามหลักกฎหมายเป็นไปตามขั้นตอน ในส่วนนายทักษิณลูกความของตนก็จะไม่ได้เดินทางไปศาลด้วย เนื่องจากศาลฎีกาฯ นักการเมืองก็ไม่ได้มีหมายเรียกมา ท่านต้องใช้สิทธิชี้แจงต่อศาลตามกระบวนการ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นขอศาลฎีกาฯ ขอขยายเวลาส่งเอกสารไต่สวนไป 30 วัน โดยศาลฎีกาฯ อนุญาตถึงวันที่ 23 มิ.ย.
ทั้งนี้ ศาลฎีกาฯ อยู่ระหว่างประเมินจำนวนสื่อมวลชนที่จะเดินทางมาทำข่าว หากมีจำนวนมาก อาจมีการกันโซนหน้าอาคารศาลฎีกาฝั่งคลองหลอด เพื่ออำนวยความสะดวก หรือหากกรณีมีรถถ่ายทอดสดของสื่อมวลชน ก็สามารถทำการถ่ายทอดสด หรือไลฟ์สดได้ภายนอกเขตอาคารศาล โดยเตรียมที่จอดรถไว้รองรับกว่า 200 คัน สำหรับสื่อมวลชนที่ประสงค์เข้าไปทำข่าวในศาลฎีกาฯ จะต้องทำการขออนุญาตทำข่าว และปฏิบัติตามระเบียบของศาล ห้ามถ่ายภาพคลิปวีดีโอในบริเวณอาคารศาล โดยศาลฎีกาอาจพิจารณาเปิดห้องถ่ายทอดสัญญาณคอนเฟอร์เรนซ์อีกห้องหนึ่ง หากมีนักข่าวจำนวนมาก
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าพนักงานตำรวจศาลดูแลเป็นหลัก รวมถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. เเละตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม ส่วนจะมากน้อยเพียงใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ประเมินเหตุการณ์เอง ซึ่งคาดว่าในวันดังกล่าวจะยังไม่มีมวลชนมาเยอะ เนื่องจากเป็นการนัดพร้อมไต่สวนคำชี้เเจงที่ได้หมายเรียกมาจากคู่ความเเละหน่วยงานต่างๆ
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ