หน้าแรก > สังคม

มีผลแล้ว! อัยการสูงสุด สั่งแนวทางใหม่ ฟ้องคดี ‘เมาแล้วขับ’ ชงศาลริบรถด้วย

วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 16:07 น.


วันที่ 11 มิถุนายน 2568 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (สคช.) เปิดเผยว่า

จากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากการขับรถในขณะเมาสุราก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายทรัพย์สินของผู้อื่น สำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้ออกหนังสือเวียน การดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยทางถนนที่มีความรุนแรงและความเสียหายอย่างมากต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

สำนักงานอัยการสูงสุดจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่ออัยการได้รับสำนวนคดีที่มีการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วให้พิจารณาว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมาแล้วขับ มีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร มาตรา 43 (8) ด้วยหรือไม่

หากพิจารณาแล้วเห็นว่าผิดและยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาดังกล่าวกับผู้เมาแล้วขับให้พนักงานอัยการสั่งให้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา และในการฟ้องคดีให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลางด้วย

ทั้งนี้ ในหนังสือของสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ลงนามโดย (นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์) รองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด เมื่อ 9 มิ.ย. 2568 เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่น

โดยอ้างถึง หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส (สฝปผ.) 0018/ว 380 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549 เรื่อง ความผิดฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (8), 160 วรรคสาม

เนื่องจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากการใช้ยวดยานทางถนนของประชาชนในประเทศไทยมีความรุนแรง ซึ่งเกิดความเสียหายและต้องสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเหตุส่วนหนึ่งมาจากผู้ขับรถในขณะเมาสุราแล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น

ฉะนั้น เพื่อให้การดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยทางถนนที่มีความรุนแรงและเกิดความเสียหายอย่างมากต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

สำนักงานอัยการสูงสุดจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติกรณีพนักงานอัยการได้รับสำนวนคดีที่มีการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่นไว้พิจารณา

โดยให้พนักงานอัยการพิจารณาว่าพฤติการณ์ในการขับรถขณะเมาสุราของผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีมีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2525 มาตรา 43 (8) ด้วยหรือไม่

หากพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาได้ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดดังกล่าวด้วย และยังมิได้มิการแจ้งข้อหาดังกล่าวแก่ผู้ต้องหา ให้พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดังกล่าวเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา และในการฟ้องคดีให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลางตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส (สฝปผ.) 0018/ว 380 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549 ตามที่อ้างถึงด้วย 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม