องค์กรที่รู้จุดแข็งจุดอ่อนของธุรกิจ ล้วนเป็นองค์กรที่สามารถพัฒนาและเติบโตได้ การทราบจุดแข็งของธุรกิจ จะทำให้รู้ว่าต้องต่อยอดจุดแข็งของธุรกิจไปในทิศทางไหน เพื่อให้ได้ผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในขณะเดียวกัน การทราบจุดอ่อนของธุรกิจ ก็จะช่วยให้ทราบว่าแบรนด์ขาดอะไรไปบ้าง หรือมีสิ่งใดที่ควรเพิ่มเติมเข้ามาบ้าง เพื่อปรับปรุงให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าคู่แข่งได้ 

จุดแข็งของธุรกิจ คืออะไร? 

จุดแข็งของธุรกิจ คือ จุดเด่นของแบรนด์ที่เป็นข้อได้เปรียบให้คนมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการของเรา ซึ่งมาจากปัจจัยภายในของบริษัท เช่น คุณภาพสินค้า หรือการบริการที่ดี

จุดอ่อนของธุรกิจ คืออะไร? 

จุดอ่อนของธุรกิจ คือ จุดด้อยของแบรนด์ที่เป็นข้อเสียเปรียบ ทำให้คนเลิกใช้บริการ หรือตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าของเรา โดยมาจากปัจจัยภายใน เช่น การบริการที่ไม่ดี เป็นต้น

วิธีหาจุดอ่อน-จุดแข็งของธุรกิจ คืออะไร? 

ใช้ SWOT Analysis 

องค์กรหรือธุรกิจส่วนมากมักจะใช้วิธีการทำ SWOT Analysis หรือก็คือการวิเคราะห์สภาพทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อหา 1. จุดแข็งของธุรกิจ 2. จุดอ่อนของธุรกิจ 3. อุปสรรคในการทำธุรกิจ และ 4. โอกาสที่จะทำธุจกิจให้เติบโต โดยสามารถใช้ได้กับธุรกิจหลากหลายประเภท ครอบคลุมทั้งการขายสินค้า และบริการ 

ฟังเสียงจากลูกค้า 

พิจารณาว่าจุดแข็งของธุรกิจเราคืออะไร นอกเหนือจากมุมของผู้บริหารแล้ว สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทราบได้อย่างแท้จริงว่า “จุดแข็งธุรกิจ” ของเราคืออะไร ก็คือ “เสียงของลูกค้า” การฟังฟีดแบ็กจากลูกค้า จะทำให้รู้ว่าลูกค้าพึงพอใจอะไรในแบรนด์ของเราบ้าง ทำให้ทราบความต้องการของลูกค้า และปรับกลยุทธ์การขายตามความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น เมื่อลูกค้าเห็นว่าความคิดเห็นของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี และมีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำได้มากขึ้น

ในขณะเดียวกัน เสียงจากลูกค้าก็จะทำให้ทราบจุดอ่อนของธุรกิจด้วยเช่นกัน ว่าควรปรับปรุงส่วนไหน หรือเพิ่มอะไรเข้ามาให้ตรงกับความคาดหวังของลูกค้าได้บ้าง ทำให้ทราบจุดด้อยที่ยังทำได้ไม่ดีเท่าคู่แข่ง ซึ่งเป็นสาเหตุให้แบรนด์ของเรายังไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

แบรนด์สามารถพัฒนาจุดแข็งของธุรกิจได้อย่างไรบ้าง? 

ทำจุดแข็งของธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก 

พิจารณาจากจุดแข็งของแบรนด์ เช่น หากธุรกิจเด่นเรื่องการให้บริการ ก็ควรมีการอบรมพนักงานเพิ่มเติม เพื่อทำให้พนักงานเห็นภาพเดียวกัน จนสามารถสื่อสารจุดเด่นของแบรนด์ไปยังลูกค้าได้ตรงกับกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ หรือถ้าแบรนด์เด่นเรื่องคุณภาพของสินค้า ก็ควรมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษามาตรฐานให้คงที่ต่อไป 

ใช้จุดแข็งสร้างแบรนด์ 

จุดแข็งของธุรกิจสามารถนำมาสร้างภาพจำที่ดีให้แบรนด์ได้ โดยสื่อสารผ่านการโฆษณา เว็บไซต์ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อจากลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ หรือการตัดสินใจซื้อซ้ำจากลูกค้าเก่า ๆ ที่ห่างหายไป ซึ่งแบรนด์ของเราจะอยู่ในจุดไหนของตลาด ล้วนขึ้นอยู่กับสารที่สื่อออกไป 

หาจุดแข็งของธุรกิจเพิ่มเติม 

วางจุดแข็งใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ หรือพยายามปรับให้จุดอ่อนของธุรกิจกลายเป็นจุดแข็งใหม่ให้ได้ โดยส่วนมากเจ้าของธุรกิจมักจะลงทุนให้กับการพัฒนาทักษะใหม่ของทีม เช่น จัดการอบรม ส่งเสริมความรู้ หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาลบจุดอ่อนและเพิ่มศักยภาพให้กับทีม ซึ่งการหาจุดแข็งใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ นอกจากจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นแล้ว ยังลบจุดอ่อนให้กับแบรนด์ ทำให้เหนือกว่าคู่แข่งได้อีกด้วย

การสร้างจุดแข็งของธุรกิจเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ แต่ต้อง “ฟังเสียงลูกค้า” เป็นหลัก เพราะผู้ใช้จริงอย่างลูกค้าจะสามารถส่งฟีดแบ็กให้แบรนด์ได้ว่าตรงไหนที่ควรพัฒนาต่อ และจุดไหนที่ควรปรับปรุง หากพัฒนาจุดแข็งและลบจุดอ่อนของธุรกิจได้แล้ว ก็จะสร้างโอกาสให้แบรนด์ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้มากขึ้น