11 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้รายงานผล จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมากลุ่มโบราณคดี พร้อมด้วยฝ่ายปกครองในพื้นที่อำเภอครบุรี ร่วมกันตรวจสอบพบหลักฐานทางโบราณคดี ประเภทโครงกระดูกมนุษย์และภาชนะดินเผา จากการกัดเซาะหน้าดินของฝนที่ตกหนัก ในพื้นที่หมู่ที่ 12 บ้านไร่แหลมทองพัฒนา ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พบว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งฝังศพของมนุษย์ในวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ จากการกัดเซาะของหน้าดิน ทำให้พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกฝังในลักษณะนอนหงายเหยียดยาว หันศีรษะไปทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ  เมื่อพิจารณาจากสรีระและกระดูกเชิงกรานที่มีขนาดเล็กและแคบ เบื้องต้นจึงสันนิษฐานว่า เป็นเพศชาย ที่มีส่วนสูงประมาณ 168 เซนติเมตร บริเวณปลายเท้า ฝังภาชนะดินเผาเนื้อดินธรรมดาไว้ เป็นของอุทิศให้กับศพ จำนวน 5 ใบ

เมื่อเดินเท้าสำรวจผิวดินบริเวณใกล้เคียง พบหลักฐานทางโบราณคดี ประเภท กระสุนดินเผา ขวานหินขัด ตะกรันโลหะ ภาชนะดินเผาและชิ้นส่วนภาชนะดินเผา กระจายอยู่ทั่วบริเวณ

โดยเมื่อพิจารณาร่วมกับลักษณะประภูมิเทศในแถบนี้ ที่เป็นที่ราบติดกับเทือกเขา จึงสันนิษฐานว่า มนุษย์โบราณในแถบนี้ นอกจากจะดำรงชีวิตด้วยเกษตรกรรมแล้ว ยังหาของป่า-ล่าสัตว์ในป่าหลังบ้านของพวกเขา มีกระสุนดินเผาสำหรับยิงสัตว์และขวานหินขัดสำหรับแล่เนื้ออีกด้วย สำหรับตะกรันโลหะที่พบ ทำให้นักโบราณคดีตั้งข้อสันนิษฐานว่า มนุษย์โบราณในพื้นที่บ้านไร่แหลมทองพัฒนาแห่งนี้ รู้จักการถลุงโลหะอีกด้วย  จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ จึงกำหนดอายุร่องรอยของมนุษย์โบราณที่พบในครั้งนี้ ในอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย หรือ 2,500-1,500 ปีมาแล้ว ด้วยข้อจำกัดของการพบหลักฐานด้วยความบังเอิญ จึงไม่สามารถชี้ชัดอายุสมัยที่ชัดเจนได้

ซึ่งการค้นพบหลักฐานในครั้งนี้ ช่วยเติมเต็มข้อมูลร่องรอยของมนุษย์โบราณวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยพื้นที่ตอนล่างของจ.นครราชสีมา คงมี "ของป่า" เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกับชุมชนพื้นที่ตอนบนของ จ.นครราชสีมา ที่มี "เกลือสินเธาว์" เป็นผลิตภัณฑ์หลัก

สะท้อนให้เห็นความสมบูรณ์ของพื้นที่ จ.นครราชสีมาของเรา อันเป็นปัจจัยทางธรรมชาติที่สำคัญที่ดึงดูดให้มนุษย์โบราณเลือกเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ดังที่ปรากฏร่องรอยของมนุษย์โบราณในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามาไม่น้อยกว่า 3,700 ปี

กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ขอขอบพระคุณภาคราชการและภาคประชาชนที่แจ้งการพบหลักฐานทางโบราณคดี มายังสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ส่งผลให้สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เข้าไปสำรวจตรวจสอบอย่างทันท่วงที เป็นประโยชน์กับการวิชาการโบราณคดีนครราชสีมา และโบราณคดีประเทศไทยต่อไป