วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 16:31 น.
กระทรวงการต่างประเทศไทย แถลงตอบโต้กลับกัมพูชา จ่อชง สมช. ตัดไฟ-อินเทอร์เน็ต ในพื้นที่ที่มีบ่อนผิดกฎหมายหรือแก๊งมิจฉาชีพ พร้อม ปรับลดจำนวนวันของชาวกัมพูชาเข้าไทย เหลือ 7 วัน
วันที่ 9 มิถุนายน 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าระหว่างการแถลงข่าวพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 9 มิ.ย. 68 ว่า "ขณะนี้สถานการณ์มีสัญญาณที่ดี โดยเย็นวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า กองกำลังไทยและกัมพูชาได้ร่วมกันสำรวจแนวพื้นที่ชายแดน และ กลบคูเลต ร่วมกัน รวมถึงมีการปรับกำลังไปอยู่ในแนวพื้นที่ที่ได้ตกลงกันไว้เหมือนเมื่อปี 2567 เป็นพัฒนาการทางบวก ส่งสัญญาณดี สะท้อนความจริงใจว่ากัมพูชาต้องการลดความตึงเครียดชายแดน
ความคืบหน้าล่าสุดเป็นผลมาจากการเจรจาในทุกระดับของทั้งสองฝ่าย ไทยหวังว่าจะนำไปสู่ทางออกแบบสันติในระยะยาว เคารพซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน โดยเฉพาะกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ การกระชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.
JBC ที่ตั้งขึ้นในปี 2543 เป็นกลไกความร่วมมือในการสำรวจและจัดทำเขตแดนทางบกระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ผ่านมามีการประชุม 10 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2555 ที่กรุงเทพฯ ซึ่ง 25 ปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าในหลายพื้นที่ เช่น สะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน–สตึงบท) รวมถึงการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ ณ จุดผ่านแดนบ้านผักกาด จ.จันทบุรี
ไทยหวังว่า การประชุม JBC ครั้งต่อไปที่พนมเปญ จะลดความตึงเครียดได้ ภายใต้สถานการณ์ภาพรวมปัจจุบันที่ยังเปราะบาง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชนสองฝั่งชายแดน และหาทางออกที่ยั่งยืนในท้ายที่สุด
กระทรวงการต่างประเทศยืนยันความพร้อมของฝ่ายไทยในการเข้าประชุม JBC พร้อมร่วมมือและตั้งใจอย่างใจจริงในการทำให้ความสัมพันธ์ดียิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าเป็นหนทางที่มีประสิทธาพ ที่จะทำให้ทั้งสองประเทศครอบครัวอาเซียนอยู่กันอย่างสงบ
"ส่วนมาตรการควบคุมจุดผ่านแดน ยังดำเนินมาตรการต่อไป ตามการประเมินของฝ่ายความมั่นคง เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย รวมถึงจะมีการเสนอตัดไฟและอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่มีบ่อนผิดกฎหมายหรือแก๊งมิจฉาชีพ ต่อสภาความมั่นคงต่อไป ในส่วนของมาตรการวีซ่า ทราบว่า ทางกัมพูชาลดจำนวนวันการเข้ากัมพูชาของคนไทยเหลือ 7 วัน ซึ่งไทยได้ปรับลดจำนวนวันของชาวกัมพูชาแล้วเช่นกัน เหลือ 7 วัน โดยยังไม่มีกำหนดว่าจะบังคับใช้ถึงเมื่อไร ต้องรอให้สถานการณ์ดีขึ้น"