หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 8 มิถุนายน 2568

วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 05:36 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 8 มิถุนายน 2568


>> ตำรวจน้ำชุมพร ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล บาดเจ็บ ว่ายน้ำเกาะลังน้ำแข็ง

06.00 น. ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์สายด่วน 1196 จากศูนย์นเรนทรชุมพร ว่า ศูนย์นเรนทรชุมพรได้รับแจ้งจากนายสุชาติ ชุมแสง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า นายนพพร อายุ 53 ปี เจ้าของเรือ ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน พบผู้ได้รับบาดเจ็บว่ายน้ำเกาะลังน้ำแข็งอยู่ที่บริเวณเกาะสาก ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าเกิดเหตุเรือชนกัน จึงได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ เพื่อขอความช่วยเหลือ

ตำรวจน้ำชุมพร พร้อมตำรวจประจำเรือรวม 5 นาย นำเรือ 532 สันติราษฎร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กู้ชีพเทศบาลตำบลท่ายาง ออกให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เกาะสาก ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อไปถึงพบ นายประทีปฯ อายุ 69 ปี อาการที่พบเบื้องต้นขาหัก มีแผลถลอก มีสติปลุกตื่น สื่อสารได้ แพทย์ฉุกเฉินได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และเรือตรวจการณ์ 532 นำตัวผู้ป่วยกลับเข้าฝั่งเพื่อนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทำการรักษาต่อไป


>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงข้างทาง พบทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปี จ.นราธิวาส

06.13 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง พบว่ามีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนบ้านทุ่งงาย ช่วงทางกลับรถในพื้นที่ ม.9 ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ สีแดง ลักษณะพลิกคว่ำอยู่ในพงหญ้าข้างทาง ตรวจสอบใกล้กัน พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นเด็กหญิง อายุ 14 ปี ได้ประสานกู้ภัย อบต.ลำภูเข้าช่วยเหลือเบื้องต้นและนำส่ง รพ.นราธิวาส และใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นเด็กหญิง อายุ 14 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส


>> กวาดล้าง "ตลาดเขมร" ย่านสำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รวบแรงงานกัมพูชาเถื่อน 8 ราย

07.00 น. ที่ ตลาดสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการทีมงาน“ไทยไม่ทน”พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ , กอ.รมน.จังหวัดสมุทรปราการ , ตม.สมุทรปราการ และกรมแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบภายในตลาดสำโรง หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า"ตลาดเขมร"

ซึ่งก่อนหน้านี้มีเจ้าของกิจการคนไทยร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ อย่างเช่น น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เจ้าของแผงขายเนื้อหมู ที่เปิดใจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือบอกว่า ตนประกอบอาชีพขายเนื้อหมูต่อจากแม่มาเป็นระยะเวลา 6 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็จะสังเกตเห็นว่ามีร้านคู่แข่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันร้านคู่แข่งมากจนล้นตลาด ซึ่งบางส่วนทำผิดกฎหมาย โดยให้ลูกจ้างแรงงานยืนคุมหน้าร้านเอง

"นอกจากนี้ยังขายของตัดราคา ซึ่งปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบให้ปัจจุบันตนต้องผันมาขายกากหมูเจียว จึงอยากวอนขอไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาล ให้ช่วยมาดูแลปัญหานี้อย่างจริงจัง" น.ส.เอ ระบุ

ต่อมาที่ สภ.สำโรงเหนือ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 8 ราย แบ่งเป็น (ชาย 7 ราย หญิง 1 ราย) มาที่โรงพัก โดยทั้งหมดชาวกัมพูชา เบื้องต้นทำผิดกฎหมายแรงงาน มาตรา 8 คือ ทำงานนอกเหนือสิทธิ ซึ่งอยู่ในมาตราเดียวกับทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกส่งตัวกลับประเทศ และห้ามเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง


>> เพลิงไหม้บ่อขยะ ในพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ สามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จภายใน 3 ชั่วโมง และไม่มีผู้บาดเจ็บ

08.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับรายงานเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะบริเวณหมู่บ้านสีเสียดไทรงาม หมู่ที่ 16 ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี

เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวอยู่ภายใต้การอำนวยการของนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้อำนวยการจังหวัด โดยมีการประสานความร่วมมือระหว่างอำเภอศรีมหาโพธิ องค์การบริหารส่วนตำบลหัวหว้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าดับเพลิงโดยใช้รถดับเพลิง 3 คัน รถแบคโฮ 2 คัน พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์

หลังจากความพยายามกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ในเวลาประมาณ 10.30 น. โดยไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

ทางจังหวัดยังคงติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำอีก


>> หญิงวัย 55 พลัดตกคอนโดฯ ชั้น 20 ย่านปิ่นเกล้า คาดป่วยซึมเศร้า

09.58 น. พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งเหตุหญิงตกจากอาคารเสียชีวิต ภายในคอนโดย่านปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบร่าง หญิง อายุ 55 ปี เสียชีวิตบริเวณชั้น 7 ของอาคาร สภาพนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลที่ศีรษะ เลือดไหลจำนวนมาก ทราบว่าผู้ตายพักอยู่ชั้น 20 และมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยพยายามกระโดดตึกมาแล้วก่อนหน้านี้

สามีผู้ตายให้การว่า หลังรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน ต่างคนต่างแยกย้ายเข้านอน ก่อนพบว่าภรรยาหายไป และสุดท้ายพบร่างอยู่ที่ชั้น 7 เบื้องต้นตำรวจคาดว่าเป็นการพลัดตกจากอาการป่วยซึมเศร้า เจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งชันสูตรเพิ่มเติม ก่อนให้ญาติดำเนินการรับศพประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


>> CIB บุกจับคลังรองเท้าปลอมกลางห้างดังปทุมวัน ยึดของกลาง มูลค่ากว่า 10 ล้าน

10.59 น. ตำรวจสอบสวนกลาง นำโดย กองบังคับการ ปอศ. บุกทลายคลังเก็บรองเท้าปลอมซุกซ่อนในลานจอดรถชั้น 4 ของห้างดังย่านปทุมวัน กทม.

มีการพยายามอำพรางด้วยป้าย “ฝ่ายวิศวกรรม” พบของกลางกว่า 2,600 คู่ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

รองเท้าปลอมมีหลากหลายแบรนด์ดัง และจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ดำเนินคดีข้อหา “มีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน” โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าสินค้าดังกล่าวเตรียมจำหน่ายภายในห้างฯ


>> "อนุทิน" นำทีมลงพื้นที่ จ.อุบลฯ ติดตามสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา

11.47 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้น​เฮลิคอปเตอร์​ พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง​ ลงพื้นที่​ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา​

โดยจุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี​ เพื่อมอบสิ่งของให้ทหารแนวหน้า และ​ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน​ หรือ​ ชรบ. กองอาสารักษาดินแดน หรือ​ อส. และหน่วยงานฝ่ายปกครอง​ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่​ จากนั้น​จะไปยังหลุมหลบภัย​โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม​ และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่

โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้​ เป็นการลงมาติดตามสถานการณ์ก่อน​ ที่จะมีการเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน 7 จังหวัด​ ประกอบด้วย​จังหวัด​ ​ตราด จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ในวันที่ 11 มิ.ย. นี้​ ที่ จ.อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ สำหรับแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนและเป็นแนวหลังสนับสนุนการทำงานของทหาร


>> นายกฯ ลงพื้นที่ กาญจนบุรี 9 มิ.ย. นี้ ติดตาม-เร่งแก้ปัญหา ภัยแล้ง ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

12.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2568 เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำ และการจัดหาน้ำบาดาลในพื้นที่ เตรียมความพร้อมรับมือปัญหาการขาดแคลนน้ำจากสถานการณ์ภัยแล้ง พร้อมผลักดันการพัฒนาแหล่งน้ำให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรน้ำได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

โดย นายกฯ จะเดินทางไปยังโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “บ้านปากชัดหนองบัว” และ “บ้านหนองบัวหิ่ง” ซึ่งเป็นโครงการด้านการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค ต้นแบบในการผลิตน้ำประปาบาดาลระยะไกล ส่งน้ำจากพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงไปยังพื้นที่ขาดแคลน

ทั้งนี้ นายกฯ จะพบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะวิกฤตภัยแล้งอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน


>> กระทรวงศึกษาฯ ให้อำนาจ ผอ.​โรงเรียน​ 7 จังหวัด ชายแดนไทย-กัมพูชา​ สั่งหยุดเรียนได้ทันที​ หากรู้สึกไม่ปลอดภัย​ เตรียมพร้อมบังเกอร์-ซ้อมแผนเผชิญเหตุ

12.15 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ​ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม สำหรับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตั้งแต่มีเหตุการณ์ปัญหาตามแนวชายแดน พลตำรวจเอกเพิ่มพูน​ ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใย และได้มีคำสั่งไปยังพื้นที่เขตการศึกษาต่างๆ​ ให้ติดตามสถานการณ์และซักซ้อม พร้อมกำชับถึงผู้บริหารสถานศึกษา หากรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร ให้โรงเรียนสามารถสั่งหยุดเรียนได้ แต่ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสพฐ. ได้ทำความเข้าใจและซักซ้อม ให้เขตพื้นที่การศึกษาประสานหน่วยงานความมั่นคง รวมถึงฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทย ให้เข้ามาดูแลพื้นที่

นายสิริพงศ์​ ยังกล่าวว่า​ พื้นที่โรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดนมีบังเกอร์อยู่แล้ว​ ซึ่งให้มีการตรวจตราความพร้อมในการใช้งาน และซ้อมแผนเผชิญเหตุ​ ซึ่งขณะนี้มีเอกชน กรมการปกครอง​ กระทรวงมหาดไทยเข้าไปช่วยดูแลในส่วนที่ใช้งานไม่ได้​ ขณะที่เรื่องการเรียนการสอน หากไม่สามารถสอนที่โรงเรียนได้ จะให้เด็กนำการบ้านกลับไปทำที่บ้าน​ และหากโรงเรียนใดมีเทคโนโลยีก็จะให้ทำการเรียนออนไลน์

ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจนายสิริพงศ์กล่าวว่า ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้กำลังใจบุคลากร ที่อยู่ตามแนวชายแดนมาโดยตลอด​ ขวัญและกำลังใจน่าจะยังดีอยู่ และสถานการณ์ก็ยังไม่ลุกลามบานปลาย


>> หนุ่มวัย 15 ปี ขับขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.เสียหลักพุ่งชนทะลุร้านกาแฟริมถนน เสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่

16.30 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนร้านกาแฟริมทาง มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ริมถนนพิษณุโลก - แควน้อย ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียน พิษณุโลก เสียหลักพุ่งชนร้านกาแฟน้องสิ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายพิษณุโลก – แควน้อย พื้นที่หมู่ 5 ตำบลปากโทก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยตัวรถสภาพพังเสียหายคาอยู่กับผนังร้าน ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นผู้ชาย 1 ราย เจ้าหน้าที่เร่งปั๊มหัวใจ (CPR) และนำส่งโรงพยาบาล และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจสอบ ภายในร้านกาแฟที่ถูกรถพุ่งชน พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 15 ปี มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง

เบื้องต้นคาดว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พร้อมผู้ได้รับบาดเจ็บ รถเกิดเสียหลักสูญเสียการควบคุมก่อนพุ่งเข้าชนร้านกาแฟจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นได้นำร่างของผู้เสียชีวิตนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนติดต่อให้ญาตินำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป


>> เหตุเพลิงไหม้โรงงาน ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี คาดเสียหายกว่า 10 ล้าน

17.00 น. สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวอาคารโรงงานอย่างรุนแรง มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก โดยจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณที่เก็บทินเนอร์และแอลกอฮอล์ รวมกว่า 3,000 กิโลกรัม ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงภายในอาคารได้ เนื่องจากทางเข้าคับแคบ จึงประสานนำรถแบ๊กโฮทุบทำลายปูนผนังตัวอาคารโรงงานบริเวณทิศเหนือฝั่งขวา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บทินเนอร์และแอลกอฮอล์จำนวนมาก เพื่อเพิ่มความง่ายและความสะดวกในการเข้าควบคุมเพลิง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ใช้รถดับเพลิงที่ผสมโฟมฉีดสกัดเข้าไปที่บริเวณต้นเพลิง ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด แต่ยังคงต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือมีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ประเมินมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากเครื่องปั๊มลมที่อยู่ภายในโรงงาน ซึ่งในวันนี้ได้มีการเปลี่ยนปั๊มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะมีการประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


>> "ภูมิธรรม" ขอบคุณรัฐบาลกัมพูชา ลดความตึงเครียดสถานการณ์ หวังใช้การเจรจา JBC คลี่คลายปัญหาอย่างสันติ

18.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เราได้รับรายงานข่าวจากการเจรจากันทั้งสองฝ่ายในทุกระดับ สรุปตรงกันว่า ขณะนี้กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย (ไทย -กัมพูชา)ได้ออกตรวจแนวพื้นที่ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายพยายามหาวิธีการในการลดความขัดแย้ง และการเผชิญหน้า ซึ่งทำให้สถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปในทางที่ดีมากขึ้น

ในนามของกระทรวงกลาโหมและกองทัพไทย ขอขอบคุณ รัฐบาลกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองกำลังส่วนหน้าของกองทัพกัมพูชา ที่ได้ร่วมกันเจรจาและช่วยคลี่คลายสถานการณ์ ไปในทางที่ดี เป็นไปตามหลักการที่ยึดสันติเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่าย

ความคืบหน้าขณะนี้ กองกำลังสองฝ่ายได้มีการออกสำรวจพื้นที่และแนวคูเลตร่วมกัน และได้มีการกลบฝังพื้นที่ตามข้อตกลงร่วมกัน พร้อมกับมีการปรับกำลังของทั้งสองฝ่ายไปอยู่ในแนวพื้นที่ที่ได้ตกลงกันไว้ในช่วงสถานการณ์ปกติเมื่อปี 2567 เรียบร้อยแล้ว 
เราทั้ง 2 ฝ่ายคาดหวังจะให้วิถีทางการแก้ปัญหาผ่านกลไก JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 เป็นการคลี่คลายปัญหาของทั้งสองประเทศอย่างสันติ

กระทรวงกลาโหม ขอขอบคุณกองกำลังฝ่ายไทย แม่ทัพภาค 2 และกองทัพบกที่อดทนอดกลั้น ต่อสถานการณ์และยึดสันติวิธีเป็นที่ตั้ง จากนี้ไป ขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกฝ่ายระมัดระวังการให้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อไม่นำไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งใหม่มากยิ่งขึ้น


>> เหตุระเบิด 2 ครั้ง ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี พบทรัพย์สินเสียหาย โชคดีไร้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

20.00 น. รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 แห่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี

วางระเบิดในถังขยะ บริเวณหน้าตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต รถ จยย. ได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน และจุดที่ 2. วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรมสันติสุข หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต  


>> นักท่องเที่ยวรัสเชียน ถูกโจรตีสลบ - ชิงทรัพย์ ตำรวจเมืองพัทยา ตั้งทีมไล่ล่าจับกุม จ.ชลบุรี

00.19 น.สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล ได้รับแจ้งจาก นักท่องเที่ยวชาย อายุ 54 ปี สัญชาติชาวรัสเชียน พร้อมแฟนสาวชาวไทย เข้าร้องทุกข์ หลังถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยมและชิงทรัพย์สินไป ขณะเข้าไปปัสสาวะในพื้นที่รกร้าง

ผู้เสียหายอยู่ในสภาพใบหน้าและลำคอมีรอยฟกช้ำชัดเจน มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนตามเสื้อผ้า โดยมีแฟนสาวชาวไทยเป็นล่ามในการให้ปากคำเบื้องต้น ทราบว่าเหตุเกิดบริเวณพื้นที่รกร้างข้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยวัดบุญกาญจนาราม ย่านหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

ผู้บาดเจ็บให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้แวะเข้าไปในป่ากระถินข้างทางเพื่อปัสสาวะและสูบบุหรี่ ขณะนั้นมีชายไทยขี่รถ จยย.พ่วงข้างมาพร้อมเด็กหญิงหนึ่งคน มาจอดใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนที่ชายดังกล่าวจะลงจากรถ ใช้ไม้ตีเข้าที่ใบหน้าและต้นคออย่างแรงจนล้มหมดสติ เมื่อฟื้นขึ้นมาพบว่าทรัพย์สินถูกคนร้ายขโมยไปแล้ว

จากนั้นผู้บาดเจ็บรวบรวมสติเดินออกจากพื้นที่รกร้างเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ ใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนติดต่อเพื่อนให้มาช่วยเหลือ และนำตัวส่งแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ของกลางที่ถูกคนร้ายชิงไป ได้แก่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ใบขับขี่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยผู้เสียหายระบุว่าไม่มีเงินสดติดตัวขณะเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเหตุรุนแรงที่กระทบต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในพื้นที่พัทยา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนจำนวนมากตำรวจย้ำว่าจะไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวล และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคน  


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา    

02.32 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.2 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 137 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ