หน้าแรก > ข่าวจราจร

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 มิถุนายน 2568

วันที่ 8 มิถุนายน 2568 เวลา 05:16 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 มิถุนายน 2568

>> กองทัพบก ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ในการควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช.

11.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่

การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด

การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน

>> ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รวบหนุ่มซิ่งกระบะตู้ทึบ! ซุกต่างด้าวเถื่อน 48 คนลักลอบเข้ามาทำงานในไทย

12.40 น. ทหารกองกำลังสุรสีห์ ร่วมบูรณาการกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามายังพื้นที่ตอนใน จึงได้สนธิกำลังกันกับ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า , กองกำลังสุรสีห์ , กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 , สภ.ทองผาภูมิ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ โดยใช้เส้นทางหมายเลข 323 อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ

ต่อมาเจ้าหน้าที่สังเกตพบรถยนต์ลักษณะตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว จึงได้ทำการติดตามไปจนกระทั้งถึงบริเวณหน้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.2 บ.องธิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและให้สัญญาณหยุดรถ เพื่อทำการตรวจสอบ พบชายอายุ 23 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ หมายเลขทะเบียน สกลนคร เจ้าหน้าที่สังเกตพบพิรุธชัดเจน จึงได้ขอทำการตรวจสอบตู้ทึบด้านท้ายรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พบกลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายต่างด้าวสัญชาติเมียนมา อัดแน่นเต็มคันรถ จำนวนทั้งสิ้น 48 คน (ชาย 31 คน, หญิง 17 คน) จึงขอทำการตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ แต่กลุ่มบุคคลต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถแสดงเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงได้ทำการส่งตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 49 คน พร้อมของกลาง ส่งให้ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> จันทบุรี เริ่มแล้ว! ระงับนักท่องเที่ยวชาวไทยและกัมพูชา เดินทางเข้าจุดผ่านแดนโป่งน้ำร้อน-คลองใหญ่ เริ่ม (7 มิ.ย.)

13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร

เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์ อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความ ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ยังคงปฏิบัติหน้าที่ ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการตามที่เคยปฏิบัติมา และขอให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ระงับนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางผ่านออกไปยังประเทศกัมพูชา และระงับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา เดินผ่านเข้ามายังประเทศไทย ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดจันทบุรี เป็นการชั่วคราว (ยกเว้นแรงงานชาวกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยให้การค้าขายระหว่างประเทศเป็นไปตามปกติ) ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป จนกว่า จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

>> รวบโจรแสบ! ลักทรัพย์บ้านผู้พิพากษา อดีต รอง ผบ.ตร.

14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท นำกำลังตำรวจ สน.พญาไท ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. จับกุมตัว นายทัด (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ

สืบเนื่องจากช่วงปลายเดือน พ.ค. จนถึงวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านคนสำคัญหลายคน เช่น บ้านผู้พิพากษา, บ้านรองแม่ทัพภาคที่ 1, บ้านอดีต รอง ผบ.ตร. ภายในซอยอารีสัมพันธ์ แขวง-เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 10 หลัง ได้ของไปบ้างไม่ได้ของบ้าง แต่วันที่ 1 มิ.ย. ได้เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้ทรัพย์สินเป็นกระเป๋าแอร์เมสไป 1 ใบ กับเงินสดอีก 50 ยูโร ต่อมาฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายทัศนรัชต์ จึงได้ออกติดตามจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลาง

จากการสอบสวน นายทัด ให้การว่า เพิ่งออกจากเรือนจำที่ จ.เชียงใหม่ ในคดีลักทรัพย์ มาเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ หางานทำไม่ได้ จึงต้องกลับมาลักทรัพย์ โดยช่วงดึกจะเหมารถแท็กซี่ตระเวนดูบ้านหลังใหญ่โต และไม่มี รปภ. หลังจากนั้นจะสวมหมวกไอ้โม่ง ใส่ถุงมือผ้าเพื่อกันรอยนิ้วมือติด ปีนกำแพงเข้าไปในบ้าน บ้านหลังใหญ่ส่วนมากจะไม่ค่อยล็อกประตู เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้ว จะเอาไปขายในตลาดมืด เอาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> ผู้การนนท์ เรียกถกด่วนคดีเงิน 12 ล้าน สั่งวางแผนสอบสวนหาเส้นทางเงิน

17.20 น. ห้องประชุม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เรียกประชุมด่วนคดีเงิน 12 ล้านบาท ที่พบในจุดทิ้งขยะชั้น 4 ที่คอนโด ย่านเมืองทองธานี

โดยวันนี้มีการวางแผนการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งจะการขยายผลสอบสวน แหล่งที่มาของเงิน 12 ล้านบาท แม้มีนายเอ (นามสมมุติ) แสดงตัวว่า เป็นเจ้าของเงิน แต่ก็ยังมีประเด็นให้ขยายผลตรวจสอบกันต่อ และ รอเจ้าตัวหาหลักฐานมาแสดงว่า เงิน 12 ล้านบาท เป็นของเขาจริง โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชม. จึงออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนถึงผลการประชุม

พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยหลังการประชุมว่า ได้เรียกประชุมกับคณะทำงานเพื่อกำหนดกรอบของการตรวจสอบที่มาของเงิน โดยมีการแบ่งมอบการทำงาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการทำงานของโรงพักที่ต้องประสานงานกับทางธนาคาร และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนที่ 2 เป็นเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยจะมีการประสานกับทาง ปปง. ให้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาร่วมในการตรวจสอบ โดยในวันจันทร์จะทำหนังสือแจ้งไปทาง ปปง. ซึ่งมีการประสานในเบื้องต้นไว้แล้วและส่วนที่ 3 คือความสงสัยในเรื่องของเงินที่ได้มาอย่างไร ซึ่งตนได้รับการประสานกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าในสัปดาห์หน้าทาง บก.ปปป. สอบสวนกลาง และทาง ปปท. จะเข้าร่วมในการตรวจสอบ เรื่องเงินจำนวนนี้ โดยให้ทางรองผู้การจังหวัดนนท์เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้

>> ปคบ.บุกตรวจห้องเย็นสมุทรสาคร ผงะ! พบซากขาไก่เน่าจากต่างประเทศ

18.20 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคบ. ร่วมกับกรมปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบห้องเย็นของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

โดยชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท ด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เข้าตรวจสอบห้องเย็นของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร หลังได้รับข้อร้องเรียนว่า​ มีการลักลอบนำเข้าซากสัตว์ปีกชนิดขาไก่จากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสืบสวนในทางลับ พบว่าขาไก่ส่วนหนึ่​งมีต้นทางจาก​ประเทศ​บราซิล​ซึ่ง​ยังพบการระบาดของโรคไข้หวัดนก และเมื่อเข้าตรวจสอบภายในห้องเย็น พบซากขาไก่จำนวนมากบรรจุในถุงและกล่อง ระบุแหล่งผลิตจากบราซิล ชิลี ตุรกี และเยอรมนี

เมื่อตรวจสอบข้อมูลบัญชีรับฝากของห้องเย็น พบว่ามีซากขาไก่รับฝากรวมทั้งสิ้น 346,390 กิโลกรัม หรือประมาณ 346.39 ตัน ซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 และมาตรา 31 กรมปศุสัตว์จึงดำเนินการอายัดซากขาไก่ทั้งหมด พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และเตรียมประสานกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติศุลกากรในความผิดที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจะร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางสืบสวนขยายผลหาผู้บงการและเครือข่ายการลักลอบนำเข้า

>> ตม.สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้าออกด่านบก

ตามที่ทางรัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และ จ.สระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทาง สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ซึ่งคาดว่า จะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น

19.50 น. พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับ นโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์และ การพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฏหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก

ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตุสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้น ต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท หรือ Visa Run รวมถึงคนต่างชาติที่เข้าข่ายทุนสีเทาที่เคยผ่านแดนทางประเทศเพื่อนบ้านผิดปกติ รวมถึงการใช้หนังสือเดินทางสัญชาติที่มีการซื้อขายกันในตลาดมืด เพื่อหลบเลี่ยงตัวตนเป็นพิเศษ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการคัดกรองคนเข้าประเทศ โดยกำหนดเป้าหมายชัดเจนไม่กระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยว โดยจะเน้นต้อนรับและอำนวยความนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มั่นใจว่าเข้ามาสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างแท้จริง ส่วนคนต่างชาติที่แฝงตัวมาและเสี่ยงต่อความมั่นคง ก็จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นตามดำริ ผบช.สตม. ด้วยแนวคิด Good Guys in , Bad Guys out พล.ต.ต.เชิงรณฯ กล่าว

>> รพ.กาฬสินธุ์ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 อาการอาพาธ ‘หลวงปู่ศิลา’ โดยรวมดีขึ้น แต่แพทย์ยังต้องดูแลใกล้ชิด ให้พักการเดินทาง

20.30 น. จากกรณีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ออกแถลงการณ์เรื่องอาการอาพาธ พระราชวัชรธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน หรือหลวงปู่ศิลา ฉบับแรก ระบุว่า วันที่ 4 มิ.ย.68 หลวงปู่มหาศิลา ได้เข้ารักษาอาการอาพาธ ที่ รพ.กาฬสินธุ์ ด้วยอาการผื่นลมพิษชนิดรุนแรง

ล่าสุด วันที่ 7 มิถุนายน โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เกี่ยวกับอาการอาพาธของหลวงปู่ศิลา ความว่า ตามที่พระเดชพระคุณ พระราชวัชธรรมโสภณ(หลวงปู่มหาศิลา) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุ หมื่นหิน ได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ณ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ด้วยอาการ ผื่นลมพิษชนิดรุนแรง เนื่องจากมีผื่นคันขึ้นทั่วตัว แขนขาทรวงอกและใบหน้า พร้อมทั้งมีอาการหน้าบวมปากบวมตาบวม จึงได้ถวายการรักษาด้วยการให้ยาทางเส้นเลือด อาการดีขึ้นตามลำดับ อาการทั่วไปดีขึ้นมาก ผื่นยุบลดลง อาการบวมบริเวณใบหน้าและปากลดลง แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป

เพื่อเป็นการรักษาธาตุขันธ์ของพระเดชพระคุณ พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่มหาศิลา) ให้แข็งแรง ทีมแพทย์มีความเห็นสมควรให้องค์หลวงปู่พักการเดินทางในช่วงนี้ และหากมีอาการคืบหน้าประการใด จะแถลงการณ์แจ้งทุกท่านทราบโดยทั่วกัน

>> รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟ ทีมกู้ชีพทำ CPR ไม่เป็นผล ผู้ขับขี่เสียชีวิตที่เกิดเหตุ

23.55 น. มูลนิธิร่วมกตัญญูรายงานอุบัติเหตุ รับแจ้งจากศูนย์สั่งการกู้ชีพลพบุรี มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ไม่ติดทะเบียน ชนเสาไฟส่องสว่าง ถนนนิคม-โคกตูม เลยแยกปาปี ประมาณ 400 เมตร บริเวณ ม.8 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงจัดกำลังอาสาฯออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ไม่ติดทะเบียน ชนเสาไฟ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย หมดสติ ไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการ CPR พร้อมประสานทีมกู้ชีพโรงพยาบาลพระนารายณ์ ร่วมให้การช่วยเหลือที่เกิดเหตุ โดยทีมกู้ชีพยืนยันผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นาย พงษ์จิตร์ อายุ 33 ปี ที่อยู่ ม.4 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี และแพทย์เวรเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรเพิ่มเติมที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป 
 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ