คนคอนโดย่านเมืองทอง เผยชายเจ้าของเงิน 12 ล้าน ย่องมาเก็บของแต่เช้าตรู่ ก่อนออกไปพร้อมเป้ 2 ใบ

ความคืบหน้าคดีการพบเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ซุกอยู่ในลังพลาสติก ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟต์ ชั้น 4 คอนโดแห่งหนึ่ง ภายในเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งต่อมาได้มี นายเอ (นามสมมุติ) เดินทางมาพบเต้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด พร้อมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ที่ถูกซุกอยู่ในลังพลาสติกแต่ด้วยความหลงลืมจึงทำให้ขนลังดังกล่าวซึ่งมีเงินสดจำนวน 12 ล้านบาทไปทิ้ง ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้มงวดเรื่องการเข้าออกภายในคอนโดดังกล่าว

ชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในคอนโดดังกล่าว เปิดเผยว่า เมิ่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ตนเห็นนายเอ (นามสมมุติ) เจ้าของเงินเดินทางออกจากคอนโดแห่งนี้ไปพร้อมกระเป๋าเป้สะพาย 2 ใบ โดยใบหนึ่งสะพายอยู่ที่กลางหลัง ส่วนอีกไปถือไว้ในมือ ซึ่งกระเป๋าทั้งสองใบมีลักษณะตุงๆ คล้ายกับมาเก็บของออกไปเพียงคนเดียว ไม่มีผู้ติดตามมา และตนก็ไม่ทราบว่าเขาเดินทางมาที่เก็บของที่ห้องพักในคอนโดตอนไหน เห็นแค่ตอนเขาสะพายกับถือเป้ออกไป 2 ใบในตอนเช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเน็ตรายหนึ่งอาศัยอยู่ชั้น 5 ตรงข้ามห้องของบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าของเงิน โพสต์แสดงความคิดเห็นว่า “ผมคนนึงไม่เชื่อเชื่อว่าเงิน 12 ล้านเป็นของพี่ทนายที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน โดยอ้างว่าห้องน้ำรั่ว เลยเก็บของที่เป็นขยะในห้องไปทิ้งโดยลืมว่ามีเงินในลัง 12 ล้าน ... เพราะผมรู้จักพี่เขา เราเจอกันคุยกันทักทายกันตลอด พี่เขาอยู่ชั้น5 ห้องตรงกันข้ามกับผม เปิดประตูก็ชนกันเลย และพี่เขายังเป็นคนพัทลุงคนควนขนุนบ้านเดียวกับผมอีก ... เหตุผลที่ว่าพี่เขาว่าลืม และเก็บไปทิ้งมันฟังไม่ขึ้น พี่อยู่ชั้น 5 ต้องอุ้มลัง12 กิโลเดินลงบันได 1 ชั้น กว่าจะถึงจุดทิ้งขยะ ชั้น 4 หน้าลิฟต์ ... เพราะลิฟต์ตัวนี้ไม่แวะชั้น 5 หรือชั้นที่เป็นเลขคี่ ต้องเดินลงอย่างเดียว“  

ผู้การนนท์ ถกด่วนคดีเงิน 12 ล้าน สั่งวางแผนสอบหาเส้นทางเงิน

เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ ห้องประชุม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เรียกประชุมด่วนคดีเงิน 12 ล้านบาท ที่พบในจุดทิ้งขยะชั้น 4 ที่คอนโด ย่านเมืองทองธานี

โดยวันนี้มีการวางแผนการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งจะการขยายผลสอบสวน แหล่งที่มาของเงิน 12 ล้านบาท แม้มีนายเอ (นามสมมุติ) แสดงตัวว่า เป็นเจ้าของเงิน แต่ก็ยังมีประเด็นให้ขยายผลตรวจสอบกันต่อ และ รอเจ้าตัวหาหลักฐานมาแสดงว่า เงิน 12 ล้านบาท เป็นของเขาจริง

ส่วนการประชุมในวันนี้มีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน สอบสวนคดี เข้าร่วมประชุมประมาณ 20 นาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ พฐ.จ.นนทบุรี ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชม. จึงออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนถึงผลการประชุมในวันนี้

พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยหลังการประชุมว่า วันนี้เรียกประชุมกับคณะทำงานเพื่อกำหนดกรอบของการตรวจสอบที่มาของเงิน โดยมีการแบ่งมอบการทำงาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการทำงานของโรงพักที่ต้องประสานงานกับทางธนาคาร และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนที่ 2 เป็นเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยจะมีการประสานกับทาง ปปง. ให้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาร่วมในการตรวจสอบ โดยในวันจันทร์จะทำหนังสือแจ้งไปทาง ปปง. ซึ่งมีการประสานในเบื้องต้นไว้แล้วและส่วนที่ 3  คือความสงสัยในเรื่องของเงินที่ได้มาอย่างไร

ตนได้รับการประสานกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าในสัปดาห์หน้าทาง บก.ปปป. สอบสวนกลาง และทาง ปปท. จะเข้าร่วมในการตรวจสอบ เรื่องเงินจำนวนนี้ โดยให้ทางรองผู้การจังหวัดนนท์เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้

พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวต่อว่า ส่วนทาง ปปช. ยังไม่มีการติดต่อประสานเข้ามาขอร่วมหรือขอตรวจสอบหลักฐาน ส่วนที่ทาง ปปป.และปปท. จะเข้ามาร่วมตรวจสอบเนื่องจากคดีนี้มีความน่าสนใจ และประชาชนให้ความสนใจกับคดีนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบในเรื่องของเส้นทางการเงินจำนวนดังกล่าว ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับเงินจำนวนดังกล่าวว่าเป็นมาอย่างไร

ส่วนในเรื่องของพิสูจน์หลักฐานมีผลตรวจออกมาเป็นบางส่วนสำหรับหลักฐานที่ส่งไปตรวจก่อนหน้า แต่ยังมีบางส่วนที่จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากพูดคุยทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะทำการเร่งตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด หลักฐานที่มีการส่งตรวจแล้วเป็นจำพวกกล่องบรรจุเงิน เสื้อผ้าที่พบในที่เกิดเหตุ ส่วนเงินจำนวนดังกล่าวต้องมีการส่งตรวจสอบเพิ่มเติม เน้นที่ตัวธนบัตร อาจจะต้องมีการตรวจลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ โดยวันนี้จะเร่งดำเนินการ

พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวอีกว่า สำหรับผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ธนาคารระหว่างนี้ติดวันหยุด ซึ่งในวันจันทร์จะทำการสอบถามอีกครั้ง โดยมีการประสานกันมาตั้งแต่วันแรกที่พบเงิน เส้นทางธนาคารได้ข้อมูลของเงินจำนวนดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับที่เจ้าของเงินเก่าอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาบริษัท เขาต้องมีหน้าที่นำหลักฐานมาแสดง เพื่อพิสูจน์ในส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อเท็จจริงที่ได้จากธนาคารมาเปรียบเทียบ ซึ่งการตรวจสอบบริษัทเอกชนที่กล่าวอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาตนได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้ว สำหรับคดีนี้จะไม่มีการใช้ความรู้สึกในการตัดสินการทำงานต้องใช้ระเบียบข้อกฎหมาย และยึดถือพยานหลักฐานเป็นที่ตั้ง 

สำหรับเรื่องกล้องวงจรปิดที่บริเวณชั้นห้าหน้าห้องพักของบุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กล้องไม่สามารถบันทึกภาพได้คือเสีย ซึ่งจากการตรวจสอบมีการแจ้งซ่อมไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนบริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟท์ชั้น 4 ไม่มีมุมกล้องที่ส่องไปเห็นจุดที่ทิ้งขยะได้ โดยในวันนี้จะมีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์การพบเงินจะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

วันเดียวกัน นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงการพบเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ว่า จากข่าวดังกล่าว พบว่าชายคนดังกล่าว มีสถานะเป็นสามีของข้าราชการ ป.ป.ช. ระดับผู้อำนวยการ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้งยังเป็นอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ของกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยนั้น

สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงว่า ชายคนดังกล่าว เป็นสามีของข้าราชการท่านหนึ่งระดับผู้อำนวยการ ของสำนักงาน ป.ป.ช. จริง และเงินสดจำนวน 12 ล้านบาทดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของรายการในบัญชีทรัพย์สิน ที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ด้วยหรือไม่ อย่างไร

นอกจากนี้ ในประเด็นการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะแต่งตั้งตามความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และคุณวุฒิของบุคคลนั้น ๆ ทั้งนี้ หากมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมสำนักงาน ป.ป.ช. จะชี้แจงในขั้นตอนต่อไป