24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2568
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์บริเวณกลางวงเวียน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
08.10 น. รับแจ้งจาก สภ.โพธาราม ว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทางโพธาราม - บ้านเลือก บริเวณวงเวียนม้า ในพื้นที่ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ ป้ายทะเบียน ราชบุรี ชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ป้ายทะเบียน ราชบุรี พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้ชายไทย อายุ 18 ปี และมีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นผู้ชายอีก 1 ราย ทางอาสาสมัครช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ ก่อนนำขึ้นรถส่งโรงพยาบาลโพธาราม และรับแจ้งว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชบุรี
>> สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ รายงานผลการจับกุม ตรวจยึดยาเสพติดล็อตใหญ่ เกือบ 2 ล้านเม็ด
08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ได้ดำเนินการจับกุม/ตรวจยึดยาเสพติด ณ บริเวณริมหนองฮี ทิศเหนือบ้านคำเตาะเลาะ หมู่ที่ 3 ตำบลคำแก้ว อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
เจ้าหน้าที่ได้จับกุม ผู้ต้องหา เป็นชายไทย จำนวน 3 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า) จำนวนประมาณ 960 มัด รวมยาบ้าประมาณ 1,920,000 เม็ด
นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 2 รายการ คือ รถยนต์กระบะ 4 ประตู จำนวน 2 คัน ข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกตั้งข้อกล่าวหา "จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน)
โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย" การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาพักในพื้นที่บ้านโนนแสบง หมู่ที่ 2 ตำบลคำแก้ว อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ในที่สุด สถานะปัจจุบัน ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อขยายผลต่อไป
>> กรมชลฯ เร่งระบายน้ำ ช่วยเหลือชาวนาสุรินทร์ หลังฝนตกหนัก ทำน้ำท่วมนา
10.56 น. กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีที่มีสื่อออนไลน์นำเสนอข่าว “ชาวบ้าน จ.สุรินทร์ โวยถูกน้ำท่วมในนาข้าวมานานหลายวัน สาเหตุมาจากบานประตูระบายน้ำพังเปิดไม่ได้ ไร้หน่วยงานเหลียวแลซ่อมแซม” นั้น
กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานสุรินทร์ สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่นาของราษฎร หมู่ที่ 5 ตำบลคำผง อำเภอโนนนารายณ์ เกิดจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2568 ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่รวมน้ำหลายสาย ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรประมาณ 30 ไร่ ซึ่งมีประตูระบายน้ำบ้านห้อยขยุง ตั้งอยู่และใช้ในการบริหารจัดการน้ำบริเวณดังกล่าว ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปดูแล โดยสำนักงานชลประทานที่ 8 ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไขโดยเร็วแล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ยกบานประตูระบายน้ำขึ้น เพื่อให้น้ำสามารถระบายออกได้อย่างสะดวก ปัจจุบันระดับน้ำในพื้นที่ลดลงกลับสู่ระดับปกติแล้ว จากการสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ไม่พบความเสียหายต่อพื้นที่ทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
>> กรมการปกครอง ย้ำ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องพร้อมอพยพประชาชนได้ทันที
11.16 น. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง(ปค.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ปกติเรามีแผนซักซ้อมเรื่องการอพยพอยู่แล้วเพื่อเตรียมความพร้อมจึงกำชับเจ้าหน้าที่ใน 7 จังหวัดติดชายแดนไทย-กัมพูชา แม้จะไม่มีสถานการณ์ ก็มีการซักซ้อมเป็นปกติอยู่แล้ว และหากสถานการณ์บานปลายสามารถอพยพได้ทันที ในพื้นที่มีการแบ่งความรับผิดชอบ
ส่วนหลุมหลบภัย ยืนยันว่ามีจำนวนเพียงพอ แต่ต้องกำหนดจุดว่าหากต้องอพยพต้องออกจากจุดใด เพราะบางหมู่บ้านหลุมหลบภัยก็มีไม่เพียงพอ
เมื่อถามว่ามีการอพยพเด็ก สตรีและผู้สูงอายุออกจากพื้นที่ไปบ้างแล้วใช่หรือไม่ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า แล้วแต่พื้นที่จะพิจารณา หากเห็นว่ามีความเสี่ยงก็อพยพได้ ส่วนพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด ที่มีการซักซ้อมกลางทะเล โดยใช้กระสุนจริงของกองทัพเรือกัมพูชา เป็นการดำเนินการอยู่ในพื้นที่ของเขา
"ย้ำถึงขวัญและกำลังใจของประชาชนในพื้นที่ว่าเต็มร้อยอยู่ แต่ต้องตั้งอยู่ด้วยความไม่ประมาท ในพื้นที่ประเทศไทยทุกคนต้องมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของภาครัฐและเอกชน ส่วนการจัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)นั้น ถือเป็นกำลังของคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการฝึกแล้วมาดูแลประชาชน รวมถึงอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนอนาคตหากมีการปิดด่าน อธิบดีกรมการปกครอง ระบุว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล"
>> รถ 18 ล้อหัวลากบรรทุกแบคโฮพุ่งชนท้าย 2 แถว ยายกำลังจะลง กระเด็นตกจากรถ ถูกเหยียบซ้ำดับคาที่ มีคนเจ็บสาหัสอีก 2 ราย
13.00 น. สภ.พานทอง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถชนกันและมีผู้เสียชีวิต บนถนนสุขุมวิท ใกล้เคียงทางเข้าวัดศรีประชาราม อ.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ พบร่างของ หญิงไทย อายุ 65 ปี นอนเสียชีวิต สภาพมีรอยล้อรถเหยียบที่สะโพก อยู่ใต้รถบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หัวสีส้ม ทะบียน กทม. ใกล้กันพบรถสองแถว 6 ล้อโดยสาร ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน ชลบุรี จอดอยู่เลนซ้าย สภาพมีร่องรอยการชนที่ท้ายรถเสียหาย
ทางด้าน คนขับรถบรรทุก 18 ล้อ อ้างว่า ตนเห็นรถโดยสารชะลอรถและเบรก แต่ตนไม่คิดว่าจะมีผู้โดยสาร ตนมัวดูแต่รถ 10 ล้อเลยไม่ได้ดูรถโดยสารฝั่งนี้เลยเกิดเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีหญิงอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เจ็บที่ศีรษะกู้ภัยฯปฐมพยาบาลบาดแผล เบื้องต้นรีบนำส่ง รพ.พานทอง
ขณะที่ คนขับรถสองแถว 6 ล้อ กล่าวว่า ตนขับรถมาจากชลบุรีจะไปบ้านเก่า ถึงที่เกิดเหตุ ตนชะลอเข้าเลนซ้าย เพื่อจะจอดส่งผู้โดยสาร แล้วรถ 18 ล้อ พุ่งมาชนท้ายรถตน ผู้โดยสารกระเด็นตกจากรถ 3 คนเลย แล้วเหยียบซ้ำทำให้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจคุมตัวคนขับรถบรรทุก 18 ล้อไปสอบสวนต่อที่ สภ.พานทอง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> หนุ่ม 19 เข้าปรามผัวเมียทะเลาะกันเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ถูกฟันหน้าแหก
14.35 น. ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุชายถูกฟันหน้าบาดเจ็บสาหัส ที่ตึก 33 หมู่บ้านเอื้ออาทรขจรวิทย์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี
จุดเกิดเหตุพบ นายนฤเบศ อายุ 19 ปี ถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่โหนกแก้มซ้าย แผลลึก-เลือดอาบหน้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งเร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่ง รพ.บางพลี คนก่อเหตุคือ นายออ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี หลังก่อเหตุได้ขี่ จยย. หลบหนีพร้อมมีด
ผู้บาดเจ็บเผย ได้ยินเสียงทะเลาะของสามีภรรยาห้องตรงข้ามจึงออกไปห้าม แต่ถูกบุกฟันเข้าหน้าไม่ทันตั้งตัว ขณะนี้ ตำรวจ สภ.บางพลี อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวนายอำนาจมาดำเนินคดี
>> "บูม สุภาพร" ร้องตำรวจไซเบอร์ แจ้งความมือดีตัดต่อคลิป กล่าวหาฉ้อโกงเงิน
15.09 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวสุภาพร หรือ "บูม" ดารานักแสดงและพิธีกรรายการ เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กรณีที่มี Fake new ในโลกโซเชียลกล่าวหาว่าฉ้อโกง นางแบบชื่อดัง ด้วยการหลอกให้ลงทุนสูญเงินเกือบ 10 ล้าน
บูม สุภาพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้ไปเห็นคลิปดังกล่าวจากในแอปพลิเคชัน TikTok ช่วงประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา บัญชีรายชื่อหนึ่ง ได้มีการเผยแพร่คลิปที่มีการตัดต่อที่มีเนื้อหาว่า นางแบบชื่อดัง ได้ไปแจ้งความที่ตนในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากตนได้ไปโกงเงินหลอกมาลงทุนไปจำนวนเกือบ 10,000,000 บาท
ตอนแรกตนเห็นแล้วก็อยากที่จะปล่อยผ่านไปเพราะไม่ใช่เรื่องจริงแต่พอเวลาผ่านไป 2-3วัน ก็มีคนติดต่อเข้ามาสอบถามตนเรื่อยๆ ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เลยเกรงว่าจะส่งผลต่อการทำงานที่ทำ เนื่องจากไม่อยากให้ลูกค้ามีที่เข้ามาจ้างงานตน มองว่าตนเป็นคนแบบในข่าว จึงอยากจะมาแสดงความบริสุทธิ์ใจในวันนี้
เบื้องต้นตนได้ส่งคลิปส่งคลิปให้ผู้จัดการดูซึ่งเป็นผู้จัดการคนเดียวกันกับ นางแบบชื่อดัง ซึ่งก็คงรู้เรื่องแล้วและได้มีการแจ้งผ่านผู้จัดการมาว่าพร้อมเป็นพยานในเรื่องนี้อยากให้ช่วยเหลือในด้านใดทางคดีขอให้บอกมาได้เลย
ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามผู้เสียหาย เห็นว่าผู้ที่ลงคลิปดังกล่าว มีความผิด ตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ โดยนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหายจึงนำหลักฐานคลิปวิดีโอดังกล่าวมาพบกับตำรวจไซเบอร์และประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับผู้ทำผิดดังกล่าว
>> ผู้ว่าฯ ชลบุรี - อธิบดีกรมเจ้าท่า "คุมสถานการณ์ได้แล้ว" ยืนยันคราบน้ำมันรั่วเคลียร์จบวันนี้
17.00 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, พล.ร.ต.พิสิฐ รังสีภาณุรัตน์ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 และนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า, ผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงปิดศูนย์ปฏิบัติการเพื่อแก้ไขสถานการณ์ กรณีเหตุการณ์ น้ำมันดิบ รั่วไหล จากเรือบรรทุกน้ำมันดิบ ซึ่งรั่วไหลไปประมาณ 8 ตัน บริเวณทุ่น Tier 1 ห่างจากฝั่ง ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตนอกท่าเรือ ตามที่ได้มีข่าวนำเสนอไปนั้น ล่าสุด ได้มีการควบคุมน้ำมันดิบรั่วไหลได้หมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อธิบดีกรมเจ้าท่าเปิดเผยว่า สาเหตุของการรั่วไหลมาจากลมกระโชกแรงกระทันหันเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เชือกที่ผูกโยงระหว่างเรือกับทุ่น SBM-2 ขาด เรือเคลื่อนตัว ดึงท่อน้ำมันและระบบ safety (break away coupling) ทำงาน เพื่อป้องกันน้ำมันรั่วไหล แต่ระบบฯ ใช้เวลา 8 วินาที ขณะนั้นน้ำมันดิบที่ค้างอยู่ในท่อรั่วออกประมาณ 8,000 ลิตร ก่อนเจ้าหน้าที่จะล้อมบูมป้องกันทันที โดยมีคราบบางส่วนหลุดออกจากแนวบูม แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อพื้นที่ท่องเที่ยวหรือชายฝั่ง โดยเฉพาะ พัทยา ศรีราชา บางแสน และเกาะสีชัง
ในการแก้ไขสถานการณ์ บริษัทไทยออยล์ฯ ได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ประกอบด้วยการล้อมบูม 3 ชั้น ฉีดสารสลายคราบน้ำมัน และประสานกองทัพเรือเตรียมใช้เฮลิคอปเตอร์โปรยสารเคมีเพิ่มเติมในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อเร่งกำจัดคราบที่ลอยอยู่บางส่วนในทะเล
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรียืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีปริมาณน้ำมันรั่วไหลน้อยมากเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เคยรั่วไหลถึง 60,000 ลิตร และสามารถควบคุมได้ พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขจัดคราบให้หมดภายในวันนี้ และยืนยันว่าจะไม่มีคราบน้ำมันไหลเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น พัทยา หรือ บางแสน นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ชลบุรียังชี้แจงว่า ในช่วงนี้ชายทะเลย่านชลบุรีเกิดปรากฏการณ์ แพลงก์ตอนบลูม ทำให้น้ำทะเลมีสีออกเขียวๆ เหมือนน้ำเสีย จึงขอให้ประชาชนแยกแยะและอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นคราบน้ำมันจนตื่นตระหนก
>> รถบรรทุกพุ่งข้ามเกาะกลางชนกับรถนั่งส่วนบุคคล กลางถนนหมายเลข 349 มีผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจรองสารวัตรจราจร สภ.เมืองชลบุรี
18.30 น. รับแแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยสว่างเหตุทุ่งเหียง มีอุบัติเหตุ รถบรรทุก 10 ล้อ ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย บนถนนหมายเลข 349 เส้นทางพนัสนิคม - หนองชาก บริเวณใกล้เคียงปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.ทุ่งขวาง อ.พนัสนิคม จ. ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคคล ฮอนด้า แจ๊ส สีดำ ป้ายทะเบียน ชลบุรี สภาพด้านหน้ารถพังเสียหายยับเยิน ใกล้กันพบรถบรรทุก ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน ปทุมธานี จอดอยู่ในสภาพหน้ารถพังเสียหาย
ตรวจสอบภายในรถเก๋ง พบร่างของผู้บาดเจ็บ 2 รายมีอาการสาหัส และสภาพยังติดค้างภายในยานพาหนะ ทางอาสาสมัคร ดำเนินการใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ และนำตัวออกมาจากตัวรถ ก่อนนำส่ง รพ.พนัสนิคม และต่อมาทางทีมแพทย์ที่โรงพยาบาล ได้คืบหน้าว่า ทั้ง 2 รายได้เสียชีวิตแล้ว ตรวจสอบเอกสาร คือ รตท.มานพ ตำแหน่ง รอง สว.จร.สภ.เมืองชลบุรี และ น.ส.กมลลักษณ์ อายุ 66 ปี
ส่วนคนขับรถบรรทุก บาดเจ็บไม่สาหัส และเล่าว่า ตนขับรถกลับมาจาก จ.จันทบุรี ใช้เส้นทางเพื่อจะกลับ กทม. ระหว่างทางเกิดหลับใน จนข้ามเลนไปชนกับรถเก๋งคู่กรณี กระทั่งมีผู้เสียชีวิต รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนัสนิคม จึงนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> นายกฯ ขอบคุณประธานอาเซียน เห็นพ้องไทย - กัมพูชา ใช้สันติวิธี มั่นใจจุดยืนไทย ยึดมั่นสันติวิธี ใช้การทูต-การเจรจา แก้ปัญหาชายแดน
21.30 น. นาย ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โทรศัพท์หารือกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จ ฮุน มาแนด นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยประธานอาเซียนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ พร้อมขอให้ใช้ความอดกลั้นและร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีในทุกมิติ
นายกฯ แพทองธาร ขอบคุณนายกฯ มาเลเซีย ที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมให้ความช่วยเหลือในการเจรจาระหว่างกัน พร้อมย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ และการปกป้องอธิปไตยของไทยตามหลักสากลระหว่างประเทศ
การพูดคุยทางโทรศัพท์ในครั้งนี้ สะท้อนว่าแนวทางของไทยในการยึดมั่นสันติวิธีด้วยการเจรจา เป็นแนวทางที่ถูกต้อง สอดคล้องกับความเห็นของประธานอาเซียนและเป็นสากลวิธีที่ยอมรับทั่วโลก ทั้งนี้ รัฐบาลและกองทัพ ได้เตรียมมาตรการไว้อย่างรอบด้านและเป็นไปตามลำดับ เพื่อปกป้องอธิปไตย ดินแดน และผลประโยชน์ของชาติ
>> แผ่นดินไหว ที่ สปป.ลาว
02.33 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.3 ความลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศลาว ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 39 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่
03.59 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.5 ลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไม่มีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ