วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เวลา 03:12 น.
ปอศ.ขยายผลปฏิบัติการ Operation Crypto Phantom กวาดล้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลผิดกฎหมาย ล่าผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมทั้งบุคคลและบริษัท รวม 5 ราย
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอศ. ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศและสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ รัฐบาลได้ออก พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ให้มีความปลอดภัย โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
ในขณะเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้กำหนดเป็นนโยบายสำคัญให้ทุกหน่วยในสังกัด เข้มงวดกับการตรวจสอบการใช้คริปโตเคอร์เรนซีในลักษณะที่ผิดกฎหมายโดยเฉพาะการนำไปใช้เป็นช่องทางฟอกเงินหรือซ่อนเส้นทางการเงินในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ
ต่อมาในวันที่ 20 พ.ค.68 ที่ผ่านมา กก.3 บก.ปอศ. ได้เปิดปฏิบัติการ Operation Crypto Phantom กวาดล้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลผิดกฎหมาย ร่วมกันตรวจค้น 8 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดภูเก็ต พบร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราแอบแฝงการให้บริการ แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท USD Tether (USDT) แบบ “ชนมือ” โดยไม่ได้ผ่านศูนย์แลกเปลี่ยน ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย โดยการให้บริการลักษณะดังกล่าวมีเป้าหมายชัดเจนในการ หลีกเลี่ยง การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงหลบเลี่ยงภาษี และมีการนำเงินที่ได้ไปหมุนเวียนในธุรกิจ ผิดกฎหมายหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเครือข่ายค้ายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า ธุรกรรมมากกว่า 1,000 รายการเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรม และมีเงินหมุนเวียนรวมสูงถึง 425,104,595 USDT หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. ได้มีการขยายผลรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาโดยตลอด
ต่อมาหลังจากที่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างรัดกุมรอบคอบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ทำการออกหมายเรียกผู้ต้องหาซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 6 ราย ในฐานะนิติบุคคล 2 ราย และในฐานะส่วนตัว 4 ราย ดังนี้
1. บริษัท ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางะมุง จ.ชลบุรี โดย น.ส.มา (นามสมมุติ) เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะนิติบุคคล
2. น.ส.มา (นามสมมุติ) ฐานะส่วนตัว
3. บริษัท คริปโตฯ ตั้งอยู่ที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดย น.ส.วาด (นามสมมุติ) เป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจ ในฐานะนิติบุคคล
4. น.ส.วาด (นามสมมุติ) ฐานะส่วนตัว
5. นายชัย (นามสมมุติ) เปิดร้าน Exchange ตั้งอยู่ที่ ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง กทม.
โดยได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้งหมด ในข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินการ ซึ่งหลังจากนี้จะทำการสืบสวนเส้นเงินคริปโตฯ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกฎหมายอื่นๆ หรือเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน หรือหลีกเลี่ยงภาษี หรืออาจได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้เปิดร้าน รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และทำธุรกิจที่มีการรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลสกุล USDT เป็นเงินไทยบาท หรือสกุลเงินต่างประเทศโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
27 กรกฎาคม 2568
27 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ