หน้าแรก > ภูมิภาค

คืบหน้า! เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นหมู่เกาะสุรินทร์ พบปะการังเสียหาย 150 ตร.ม.

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 08:25 น.


เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์  รายงานความคืบหน้ากรณีเรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา ชื่อ “MV.AYAR LINN” ชนแนวปะการังและเกยตื้นบริเวณอ่าวจาก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยทีมเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2568

จากการสำรวจภายนอกตัวเรือ “MV.AYAR LINN” เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการแตกหัก รอยร้าว หรือรอยรั่วบริเวณใต้ท้องเรือ อย่างไรก็ตาม พบร่องรอยการแตกหักขนาดใหญ่ (แผ่นไม้หลุด/หัก) บริเวณกลางลำเรือ (กาบเรือ) ทางด้านขวา และบริเวณท้ายเรือ ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเกิดจากการกระแทกของคลื่น

ส่วนการตรวจสอบภายในตัวเรือ ไม่พบความเสียหายใต้ท้องเรือในส่วนที่สามารถเข้าถึงได้ ยกเว้นบริเวณที่ถูกกระสอบปูนซีเมนต์จำนวนมากทับอยู่ ทำให้ไม่สามารถสำรวจได้อย่างทั่วถึง ในส่วนของห้องเครื่อง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบถังน้ำมันเชื้อเพลิงและพบว่ามีน้ำมันอยู่ภายใน จึงได้ดำเนินการสูบน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดออกจากถัง เพื่อป้องกันการรั่วไหลลงสู่ทะเล โดยได้รับความร่วมมือจากพี่น้องชาวไทยมอแกนในการขนย้ายน้ำมัน นับเป็นการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพยากรใต้น้ำอันอุดมสมบูรณ์ของหมู่เกาะสุรินทร์
สำหรับการสำรวจความเสียหายของแนวปะการังในจุดเกิดเหตุ พบว่าระยะทางตั้งแต่จุดแรกที่เรือชนแนวปะการังไปจนถึงจุดที่เรือเกยตื้น รวมประมาณ 75 เมตร ปะการังไม่ได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่มีเพียงปะการังลักษณะก้อนสูงที่ไม่พ้นท้องเรือได้รับความเสียหาย โดยจุดที่เสียหายมากที่สุดคือช่วงระยะ 45-75 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เรือเกยตื้นและทับปะการังอยู่ เบื้องต้นประเมินพื้นที่ปะการังที่ได้รับความเสียหายประมาณ 150 ตารางเมตร

ชนิดปะการังที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่ ได้แก่​ ปะการังสีน้ำเงิน (Heliopora coerulea) เสียหายมากที่สุด ประมาณ 80% ปะการังเขากวาง (Acropora sp.) เสียหายประมาณ 15% ปะการังโขด (Porites lutea) เสียหายประมาณ 5% ปะการังสมองร่องสั้น (Platygyra daedalea) แตกหักไปประมาณ 4 โคโลนี  ปะการังดอกกะหล่ำ (Pocillopora)แตกหักไปประมาณ 3 โคโลนี​ ปะการังดาวเหลี่ยม (Leptastrea purpurea) แตกหักไปประมาณ 1 โคโลนี

จากการสำรวจล่าสุด ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมจากตัวเรือหรือเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ยังคงเผชิญกับอุปสรรคจากคลื่นลมแรง เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูมรสุม ทำให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความยากลำบากและมีความเสี่ยงสูง​ ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ