หน้าแรก > อาชญากรรม

ปอศ.จับอดีตกรรมการฯ ชาวต่างชาติทันควัน คาสุวรรณภูมิ เลี่ยงจ่ายภาษี ทำรัฐเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 03:13 น.


ปอศ.จับอดีตกรรมการฯ ชาวต่างชาติทันควัน คาสุวรรณภูมิ เลี่ยงจ่ายภาษี ทำรัฐเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมตัว นายบี (นามสมมุติ) อายุ 71 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 6 พ.ค. 2568 เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทำการใดๆ โดยความเท็จโดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน จับได้ที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 

สืบเนื่องด้วยกรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์ที่ กก.2 บก.ปอศ. ให้พิจารณาดำเนินคดีอาญากับ บริษัทดังกล่าว ซึ่งมี นายบี (นามสมมุติ) อายุ 71 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ต้องหา มีฐานะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพันบริษัท ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 - วันที่ 30 ตุลาคม 2558 เนื่องด้วยสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 17 ได้ตรวจสอบภาษีอากร ของ บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการให้บริการสารสนเทศ ต่อมาปรากฏข้อมูลว่าบริษัทฯ ดังกล่าวมีพฤติกรรมเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่แสดงยอดขายและภาษีขาย ยอดซื้อและภาษีซื้อเป็นศูนย์ ไม่มีภาษีสุทธิที่ต้องชำระ แต่จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทฯ ดังกล่าวมีรายได้ จากการประกอบกิจการ จึงเป็นการยื่นภาษีที่ไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ของบริษัทฯ ก็พบว่ามีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ไว้ไม่ถูกต้อง กรมสรรพากรจึงพิจารณา ดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานดังกล่าวกับบริษัทฯ และผู้แทนของบริษัทฯ ซึ่งจากการตรวจสอบ และทำการประเมินแล้ว พบความเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 5,239,319.00 บาท ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ได้อออกหมายเรียกเพื่อติดต่อกรรมการของบริษัทฯ มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มีผู้ใดมาพบพนักงานสอบสวนตามที่ออกหมายเรียกไป จึงเชื่อได้ว่า มีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนงเพื่อออกหมายจับเพื่อนำตัว กรรมการเป็นผู้รับผิดชอบมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด จนทราบว่าผู้ต้องหา กำลังจะเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ทางด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเชื่อได้ว่าจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ จึงเดินทางไป ตรวจสอบเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบผู้ต้องสงสัย บุคคลต่างชาติ มีลักษณะและตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับฯ มาแสดงตนที่ฝ่าย ตม.ขาออก ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ตรวจอนุญาตเดินทางออกราชอาณาจักร ชุดจับกุมได้ แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบว่า นายบี (นามสมมุติ) อายุ 71 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ผู้ต้องหา เป็นบุคคล ตามหมายจับจริง จึงทำการจับกุม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่า ตนเคยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพัน บริษัทดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 - วันที่ 30 ตุลาคม 2558 จริง ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ