หน้าแรก > อาชญากรรม

แถลงรวบ 6 ผู้ต้องหา แก๊งทรชนร่วมปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลกากร

วันที่ 3 มิถุนายน 2568 เวลา 12:11 น.


รวบแล้ ว6 ทรชน ปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ชน รปภ.เสียชีวิต ฝากขังพรุ่งนี้ คัดค้านการประกันตัว 

3 มิถุนายน 2568 ที่ สน.ท่าเรือ พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 แถลงข่าวความคืบหน้า ติดตามจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย แก๊งทรชน ก่อเหตุร่วมกันปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ของกรมศุลกากร อุกอาจถอยรถชนลุง รปภ. ขณะเข้าสกัดเหตุ จนเสียชีวิตคาที่

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ท่าเรือ ร่วมกันสืบสวนติดตามตัวคนร้ายก่อเหตุปล้นทรัพย์และขับรถชนเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยเสียชีวิต โดยผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ที่ก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์บุหรี่ไฟฟ้า และขับรถชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขณะเข้าสกัดเหตุ จนเสียชีวิต 

ด้าน พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 01.20 น. ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนร้ายจำนวนประมาณ 6 คน ขับรถตู้ หมายเลขทะเบียนจังหวัด ตาก เข้ามาบริเวณโกดังสเตเดียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร และลงมืองัดตู้คอนเทนเนอร์ภายในโกดัง เพื่อทำการลักทรัพย์ (บุหรี่ไฟฟ้า) โดยมี นายบุญนาค จ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการท่าเรือ เป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์ และพยายามเข้าระงับเหตุ ขณะนั้นกลุ่มคนร้ายได้พากันขึ้นรถตู้พยายามหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ และได้ขับรถถอยพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ของนายบุญนาค ขณะที่นายบุญนาค กำลังขับขี่ไล่ติดตามกลุ่มคนร้าย ทำให้นายบุญนาคเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้คนร้ายยังได้ขับรถเฉี่ยวขนรถกระบะของประชาชนที่ขับขี่ผ่านมาในบริเวณที่เกิดเหตุ ส่งผลให้รถกระบะได้รับความ เสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าเรือ สืบสวนติดตามคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี่และได้จับกุมนายเจ อายุ 41 ปี ได้พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 493 ชิ้น ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในบ้านของนายเจ จึงได้แจ้งข้อหาว่า "รับของโจร" และได้สืบสวนขยายผล จนจับกุมผู้ก่อเหตุอีก จำนวน 5 คน พร้อมแจ้งข้อหา "ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พื้นการจับกุม, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ , ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร" และ ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้" (ผู้ต้องหาที่ 1)

สำหรับทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรม บุหรี่ไฟฟ้าจำนวน493 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 65,820 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของกรมศุลกากร เป็นของกลางในคดีที่นำมาเก็บรักษาไว้  และยึดของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ รถตู้ หมายเลขทะเบียนจังหวัดตาก1คัน,ครีมตัดเหล็ก ,ไฟส่องสว่าง แบบติดหัว 

ด้าน พลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า นายแบงค์ อายุ 38 ปี 1 ในคนร้าย สารภาพว่า ตนทำทุกอย่างเองโดยที่ไม่มีใครจ้าง โดยมีผู้ดูแลสนามฟุตบอลในพื้นที่เป็นคนคอยชี้เป้าให้ ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นตนก็ชักชวนไปทำ ไม่ได้ว่าจ้าง ส่วนเรื่องถอยรถชน รปภ.เสียชีวิต นายแบงค์บอกว่าใส่เกียร์ผิด ไม่ได้ตั้งใจ อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต และจากการซักถามนายแบงค์ ให้การว่า ก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกได้บุหรี่ไฟฟ้ารวมมูลค่า 270,000 บาท นำไปขายทางออนไลน์ ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทุกครั้งจะมีคนในพื้นที่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นคนคอยชี้เป้าให้ และมีความสนิทสนมกับนายแบงค์ ซึ่งตอนนี้ตำรวจทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร ส่วนที่ขับรถชน รปภ.เสียชีวิต นายแบงค์ ยืนยันว่า เป็นการใส่เกียร์ผิด ไม่ได้มีเจตนา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ส่วนข้อมูลที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลไม่ตรงกับกรมศุลกากรว่าไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ทาก่อน เพราะตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความจากกรมศุลกากร ซึ่งจะต้องรอให้กรมศุลกากรรวบรวมข้อมูล โดยเฉพาะรายการบัญชีของกลางเพื่อนำมาตรวจสอบ

โดยหลังจากนี้ จะส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียด และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯใต้ฝากขังภายในวันพรุ่งนี้ ท้ายคำร้องคัดค้านประกันตัว

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ