วันนี้ (2 มิ.ย.68) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล เป็นห่วงประชาชนในช่วงหน้าฝน ที่มีฝนตก น้ำขัง ทำให้เป็นแหล่งขยายพันธุ์ของ ยุงลาย สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ โรคที่มากับยุง ทั้ง 3 โรค ได้แก่ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคชิคุนกุนยา ไข้ปวดข้อยุงลาย 3.โรคไวรัสซิกา ซึ่งทั้ง 3 โรคจะมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า โรคไข้เลือดออกจะเกิดจากไวรัสเดงกี มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ มียุงลายเป็นพาหะ ในประเทศไทยจะมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ยุงลายบ้าน และยุงลายสวน

ส่วนโรคชิคุนกุนยา หรือ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ระยะฟักตัวอาศัยระยะเวลา 3 – 7 วัน ผู้ที่ป่วยจะมีไข้สูง ร่วมกับอาการปวดข้อ มักจะเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดในร่างกาย การรักษาจะรักษาตามอาการเช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก แต่โรคนี้จะไม่มีระยะวิกฤต ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรค  ขณะที่โรคไวรัสซิกา เกิดขึ้นจาก เชื้อไวรัสซิกา อาการของโรค มีผื่นแดงตามตัว มีเยื่อบุตาขาวอักเสบ แต่ถ้าหากผู้ป่วยมีการตั้งครรภ์ สามารถผ่านจากแม่สู่ลูกในครรภ์ได้ ส่งผลให้ทารกพิการ หรือมีพัฒนาการช้า ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหรืออาจสูญเสียการมองเห็นหรือได้ยิน หากมีความกังวลแนะนำให้ปรึกษากับคุณหมอสูติแพทย์เพื่อตรวจติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
  
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 โรค สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่พบบ่อยในเด็กวัยเรียน และวัยทำงานตอนต้น ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ เด็กทารก และผู้สูงอายุ มีภาวะอ้วน หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคเม็ดเลือดแดงแตกง่าย หรือโรคที่เกิดจากฮีโมโกลบินผิดปกติ ผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด โรคหัวใจขาดเลือด โรคไตวาย โรคตับเรื้อรัง รับประทานยากลุ่มสเตอรอยด์ หรือยาในกลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ 
  
แนะประชาชนป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงลายกัด เก็บกวาดสถานที่ไม่ให้มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ยุงลาย สำหรับผู้ประกอบการ จัดการสิ่งแวดล้อมไม่ให้ยุงลายมีที่วางไข่ กำจัดภาชนะกักเก็บน้ำชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงขยะเศษภาชนะ กล่องโฟม จานรองกระถางต้นไม้ หรือกาบใบไม้ใหญ่ๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์ หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที