หน้าแรก > การเมือง

ถกงบฯ วันที่ 3 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เป็นไปอย่างเรียบร้อย ฝ่ายค้านอภิปรายเป็นรายกระทรวง ก่อนที่ประธานฯ นัดประชุมอีกครั้งในเวลา 09.00 น. พรุ่งนี้

วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 01:22


ถกงบฯ วันที่ 3 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เป็นไปอย่างเรียบร้อย ฝ่ายค้านอภิปรายเป็นรายกระทรวง พร้อมระบุ การจัดสรรงบประมาณไม่ตรงเป้าหมาย และเกิดความเหลื่อมล้ำ ขณะที่รัฐมนตรีหลายคน ได้ทยอยชี้แจงเป็นระยะ ก่อนที่ประธานฯ ในที่ประชุม จะได้สั่งพักการประชุม และนัดประชุมอีกครั้งในเวลา 09.00 น. พรุ่งนี้ (31 พ.ค.นี้)

(30 พ.ค.68) เป็นวันที่ 3 ของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท โดยตลอดทั้งวัน การอภิปรายฯเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยฝ่ายค้านได้สลับกันอภิปรายงบของกระทรวงต่างๆ ระบุ การจัดสรรงบไม่ตรงเป้าหมาย และเกิดความเหลื่อมล้ำในการใช้งบประมาณ

โดยในส่วนของงบกระทรวงมหาดไทย น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายในส่วนของงบจังหวัด และกลุ่มจังหวัด จำนวน 2.65 หมื่นล้านบาท ว่า เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความเหลื่อมล้ำ แสดงให้ถึงความล้มเหลวของการกระจายอำนาจ และการพัฒนาท้องถิ่น โดยจะเห็นได้จากงบกลุ่มจังหวัด ที่ถูกนำไปใช้สำหรับการก่อสร้าง และฝึกอบรม แต่ไม่ได้มีโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต และการศึกษา 
ขณะที่การอภิปรายงบประมาณในส่วนของกระทรวงอื่นๆ เป็นไปอย่างราบรื่น โดยช่วงหนึ่ง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ได้อภิปรายงบประมาณด้านการศึกษา โดยระบุว่า งบประมาณด้านการศึกษาของไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2567 ปีละ 4% และกระทรวงศึกษาธิการก็ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นมากที่สุด แต่การใช้งบประมาณไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

ทั้งนี้นายพริษฐ์ ได้หยิบยกทั้งประเด็นการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนฉบับใหม่ ที่ถูกจัดทำแบบลวกๆ ไม่รอบคอบเพียงพอ การขาดแคลนบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งยังได้กล่าวถึงโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน หรือ “ODOS” ของรัฐบาล ว่า เป็นโครงการที่ช่วยเหลือนักเรียนกว่า 5,700 คน เป็นโครงการที่ดี แต่รัฐบาลยังไม่แก้ปัญหาเชิงรุกมากเพียงพอ รวมทั้งขอให้รัฐบาลหาทางออกของโรงเรียนขนาดเล็กที่ยังขาดงบ รวมถึงต้องแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินของ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ด้วย

และในประเด็นนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตอบข้อสงสัยถึงสถานภาพของ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) คนที่มีสิทธิ์ในการกู้สามารถกู้ได้ตามสิทธิ์ครบถ้วน ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีการแก้ไขในเรื่องเบี้ยปรับ กฎเกณฑ์ ต้องขอบคุณคณะกรรมการชุดนั้นที่มองเห็นประโยชน์ของผู้กู็ยืมเป็นหลัก การคำนวณยอดแต่ละรายนั้นจะใช้รูปแบบการคำนวณย้อนไปตั้งแต่วันแรก ซึ่งจะเสร็จภายในเดือน ก.ค.68 และจะได้ดำเนินการปรับโครงสร้างต่อให้ครบถ้วน กยศ. ปี 2569 มีภาระราว 4.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งขอปรับลดไปกับทางสำนักงบประมาณ ซึ่งคำนวณออกมาสามารถปรับลดได้แค่ราว 5 พันล้านบาท แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพอหรือขาด ความสำคัญอยู่ที่ความยืดหยุ่นของกลไกงบประมาณ ยืนยันว่า คนที่อยู่ในระบบและจะเข้าระบบจะต้องได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาทุกราย กยศ. กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างใช้วิธี "พี่ส่งต่อให้น้อง" เพื่อให้ได้รับการศึกษาจากรุ่นสู่รุ่น

ในส่วนของหน่วยงานด้านสาธารณสุข นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปราย ว่า แม้งบประมาณแผ่นดินปี 69 จะเพิ่มจากเดิมแค่ 0.7% แต่สำหรับกระทรวงสาธารณสุขที่ในปี 69 จัดสรรงบประมาณไว้ 1.77 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% หรือเกือบ 5 เท่าของค่าเฉลี่ยของงบประมาณแผ่นดิน และถ้าเพิ่มจาก สปสช.เข้าไปด้วยจะเพิ่มมา 15.18% คือเกือบ 20 เท่า แต่การบริหารงบฯ ถือว่าสอบตก เพราะโครงการต่างๆ ของกระทรวงฯ ทั้ง นโยบาย “30 บาทรักษาทุกโรค” ที่ยกระดับเป็น “30 บาทรักษาทุกที่” ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว การเชื่อมต่อระบบข้อมูลบริการสุขภาพดิจิทัล และ Thailand health Atlas และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ถือว่าล้มเหลว

กระทั่งช่วงค่ำ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ได้ชี้แจง โดยย้ำว่า การจัดสรรงบประมาณ ของกระทรวงฯ เป็นไปอย่างคุ้มค่า และชี้แจงการสร้างศูนย์อาคารสาธารณสุขเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ที่ จ.สุโขทัย เป็นไปอย่างสุจริต และไม่มีการเอื้อประโยชน์อย่างแน่นอน

ขณะที่ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลุกขึ้นชี้แจงกรณี ที่นายณัฐพงศ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงงบประมาณที่จัดสรรให้กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น ไม่สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้จริง และใช้งบประมาณสิ้นเปลืองไปกับการประชาสัมพันธ์

โดยนายสรวงศ์ ชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวจีนและกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ ลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะสร้างความสมดุลระหว่างปริมาณและคุณภาพ โดยที่ผ่านมารัฐบาลสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวระยะไกลอย่าง ตลาดยุโรปและอเมริกาได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีระยะเวลาพำนักที่นานและค่าใช้จ่ายต่อหัวสูง

สำหรับกรณีที่โครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” ยอมรับว่า อาจได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปี 2567 และเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยถูกมองว่าไม่มีความปลอดภัย การทำการโฆษณาและประชาสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการกู้คืนภาพลักษณ์ที่สูญเสียไปเพื่อเรียกความเชื่อมั่นคืนมา

นอกจากนี้กระทรวงฯ กำลังแก้ปัญหาในภาคการกีฬา ในเรื่องของสนามกีฬาที่ยังสร้างไม่เสร็จ หรือยังไม่ได้รับการถ่ายโอน และจะเพิ่มการสนับสนุนเยาวชน ให้สามารถต่อยอดให้กีฬาสามารถเป็นอาชีพได้อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ภาพรวมการอภิปรายตลอดทั้งวัน จนถึงช่วงค่ำ เป็นไปด้วยความราบรื่น มีการประท้วงกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จนกระทั่งเวลา 21.36 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ประธานฯ ในที่ประชุม ได้สั่งพักการประชุม และนัดประชุมอีกครั้งในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 31 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการอภิปราย และจะมีการลงมติ ในเวลาประมาณ 18.00 น.ต่อไป


 

ข่าวยอดนิยม