วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 โรงพยาบาลโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู รับตัวผู้ป่วยชายอายุ 64 ปี จากบ้านซับภูเก้า หมู่ 13 ตำบลหนองเรือ อำเภอโนนสัง เข้ารับการรักษาด้วยอาการตุ่มคันบริเวณหลัง แขน ท้อง และไหล่ ซึ่งมีลักษณะขอบแดงตรงกลางคล้ายหนอง และต่อมาเปลี่ยนเป็นสะเก็ดสีดำ แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาจติดเชื้อ แอนแทรกซ์ และได้ดำเนินการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันผล

ผลการย้อมแกรมจากห้องปฏิบัติการพบผลเป็นบวก (Positive) ต่อเชื้อแบคทีเรียที่อาจสอดคล้องกับ Bacillus anthracis ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคแอนแทรกซ์ ขณะนี้ผู้ป่วยได้รับการรักษาแบบผู้ป่วยในภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลโนนสัง
จากการสอบสวนเบื้องต้นของทีมสอบสวนโรค (SRRT) พบว่าเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ผู้ป่วยได้มีประวัติร่วมกิจกรรมชำแหละเนื้อวัวที่ทุ่งนาในพื้นที่บ้านซับภูเก้า ก่อนนำเนื้อวัวดังกล่าวมาปรุงเป็นลาบดิบและรับประทานร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน

หลังจากกิจกรรมดังกล่าว ผู้ป่วยเริ่มมีอาการในวันที่ 25 พฤษภาคม โดยมีตุ่มคันที่หลัง และลุกลามไปยังบริเวณบ่า ท้อง และแขน ทั้งนี้ครอบครัวของผู้ป่วยอีก 4 คนอาศัยอยู่ร่วมบ้านแต่ไม่ได้ร่วมรับประทานอาหารในวันเกิดเหตุ

เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการแพร่ระบาด ทีม SAT อำเภอโนนสัง ร่วมกับหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (JIT) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเพิ่มเติมในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 พร้อมทั้งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด รวมถึงตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ที่เกี่ยวข้อง

ด้านโรงพยาบาลโนนสังได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน สอบสวน และควบคุมโรคแอนแทรกซ์อย่างเข้มงวด รวมถึงส่งตัวอย่างสิ่งส่งตรวจเพื่อยืนยันผลที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสถาบันบำราศนราดูร

ประชาชนในพื้นที่ได้รับการแจ้งเตือนให้หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อดิบทุกชนิด โดยเฉพาะเนื้อวัวจากแหล่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบโดยสัตวแพทย์ และหากพบอาการผิดปกติทางผิวหนัง หรือเคยมีประวัติสัมผัสกับซากสัตว์ ควรรีบพบแพทย์ทันที