หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 พฤษภาคม 2568

วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เวลา 05:42 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 พฤษภาคม 2568


>> DSI บุกโกดัง เปิดปฏิบัติการล่าข้ามชาติ รวบแก๊งไนจีเรียโกงขายของออนไลน์ ความเสียหายพุ่ง 2,000 ล้าน

07.00 น. ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี DSI และ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีฯ บุกเข้าตรวจค้นโกดังเป้าหมายกลางกรุง “โกดังเจ๊พิกุล” ซอยเพชรบุรี 13 แยก 1 แขวงพญาไท หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งปฏิบัติการของเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ

ตรวจค้นตามหมายศาล พบโกดัง 2 ชั้น แยกเป็นสำนักงานและที่เก็บของ บังหน้าเป็นบริษัท แต่พบพิรุธด้านเอกสารการเงิน-บัญชีไม่สัมพันธ์กับเงินหมุนเวียน ขณะเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อม ต้องงัดประตูบุก ก่อนพบบุคคลต้องสงสัยชาวไนจีเรีย 2 ราย หลบซ่อนใต้บันได ตรวจสอบพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาหนักหลายกระทง

จับตัว “ลีวินุส” หัวหน้าเครือข่าย สัญชาติไนจีเรีย พร้อมพวก รวม 7 ราย ในการบุกค้น 11 จุดทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ นครปฐม กระบี่ กาญจนบุรี และจันทบุรี ผู้ต้องหา 3 รายเป็นชาวต่างชาติ (ไนจีเรีย 2 ราย, แคเมอรูน 1 ราย) ที่เหลือเป็นคนไทย มีภรรยาไทยช่วยเปิดบัญชีม้า-หลอกลงทุนผ่านเว็บไซต์ปลอม

เครือข่ายใช้ “เว็บไซต์ผี” หลอกขายสินค้าลวง เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือแพทย์ ช่วงโควิด โดยอ้างตัวตนเป็นบริษัทจริง แต่ไม่มีสินค้า-บริการอยู่จริง พบมีเว็บไซต์ปลอมกว่าพันแห่ง ความเสียหายสะสมกว่า 2,000 ล้านบาท มีเหยื่อหลายประเทศ ล่าสุดชาวเวียดนามร่วมสังเกตการณ์ในจุดตรวจค้นวันนี้ หลังสูญเงินกว่า 8 ล้านบาท

เงินไหลผ่านบัญชีม้า-เปลี่ยนเป็นคริปโต เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางเงิน พบใช้บัญชีม้าหลายสิบรายรับเงินจากเหยื่อ ก่อนโอนต่อผ่านบัญชีคริปโต เพื่อซ่อนร่องรอย ปัจจุบันมีหมายจับรวม 24 หมาย และอยู่ระหว่างติดตามขยายผลเชื่อมโยงบัญชี-ทรัพย์สิน


>> ศาลพิพากษาจำคุกแก๊งมิจฉาชีพ หลอก "ชาล็อต ออสติน" โอนเงิน

09.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีที่อัยการโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ ต่อศาลอาญา คดีหมายเลขดำ และคดีหมายเลขแดง ในข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฉ้อโกง พรบ.คอม พรบ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พรบ. ฟอกเงิน พรก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ลหุโทษ ซึ่งระหว่างพิจารณา นางสาวชาล็อต ออสติน ผู้เสียหาย ขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการด้วย

ทั้งนี้ ศาลมีการบรรยายพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลยทั้ง 4 โดยจำเลยที่ 1 มีหน้าที่เปิดบัญชีธนาคาร และข้ามไปสแกนใบหน้าที่ฝั่งกัมพูชา แล้วส่งมอบข้อมูลให้แก่จำเลยที่ 2,3 /จำเลยที่ 2,3 มีหน้าที่ในการรวบรวมบัญชีธนาคาร ส่งให้แก่ จำเลยที่ 4 /จำเลยที่ 4 มีหน้าที่สวมเครื่องแบบตำรวจหลอกผู้เสียหาย ว่าได้มีการกระทำความผิดทางอาญา เมื่อหลอกผู้เสียหายสำเร็จ จำเลยที่ 4 จะให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 4 ได้รับสมุดบัญชีธนาคารมาจากจำเลยที่ 2,3 โดยเมื่อจำเลยทั้งสี่ ร่วมกันหลอกผู้เสียหายสำเร็จ และได้รับเงินจากผู้เสียหายแล้ว ก็จะนำเงินที่ร่วมกันหลอกมาได้นั้น ไปซื้อเหรียญดิจิตอล เข้าข่ายลักษณะเป็นการฟอกเงิน

ทั้งนี้ พิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 1 จำคุก 6 ปี 150 เดือน, จำเลยที่ 2 ,3 ลงโทษจำคุก 7 ปี 150 เดือน, จำเลยที่ 4 ลงโทษจำคุก 6 ปี 146 เดือน และให้จำเลยทั้งสี่ ร่วมกันชำระเงิน จำนวน 4,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับจากวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ให้แก่โจทก์ร่วมจนครบถ้วนด้วย


>> นายกฯ เร่งทุกหน่วยเดินหน้ามาตรการ “SEAL STOP SAFE” มั่นใจรัฐบาลชุดนี้จัดการเด็ดขาด เพื่อลูกหลานไทยห่างไกลยาเสพติด

09.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับฟังผลสรุปผลการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามมาตรการ Seal Stop Safe ในรอบ 2 เดือน (เมษายน - พฤษภาคม 2568) พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการผลการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเยี่ยมชมจุดตรวจของกลาง ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)

นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือดำเนินมาตรการ Seal Stop Safe มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถจับกุม ยึดยาเสพติดได้จำนวนมาก พร้อมย้ำว่า ยาเสพติดเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เป็นภัยร้ายต่อสังคม รัฐบาลจะเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานในทุกมิติ ให้สามารถบรรลุเป้าหมายอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง 
การเปิดปฏิบัติการ Seal Stop Safe 2 เดือน ที่ผ่านมา (1 เม.ย. - ปัจจุบัน) สามารถปิดล้อม บุกจับ ขยายผลยึดทรัพย์ เครือข่ายรายสำคัญได้กว่า 31 คดี ผู้ต้องหา 34 คน ยึดยาบ้า 29.93 ล้านเม็ด เฮโรอีน 126 กิโลกรัม ไอซ์และคีตามีน 4,443 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้านบาท


>> โจรขโมยฝาเหล็กปิดท่อระบายน้ำ หมู่บ้านเดียวหาย 27 ฝา ทำชาวบ้านเดือดร้อน

10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ 9 ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เกิดเหตุขโมยลักตะแกรงเหล็กปิดฝาท่อระบายน้ำแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ตะแกรงฝาท่อระบายน้ำได้ถูกคนร้ายขโมยไปอีก

โดย นายสากล ราศีงาม ผู้ใหญ่บ้านโนนสะอาด หมู่ที่ 9 ต.ท่าเยี่ยม เปิดเผยว่า ตนและชาวบ้านได้พยายามช่วยกันตรวจตรา จัดเวรยามเฝ้าระวังในช่วงกลางคืน แต่หัวขโมยก็จะอาศัยจังหวะออกมาลักขโมยตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำไปหลายครั้ง หายไปครั้งละ 2-3 ฝา ซึ่งจากการตรวจสอบทั้งหมดพบว่า ฝาท่อระบายน้ำในพื้นที่ถูกคนร้ายขโมยหายไปแล้วถึง 14 จุด ฝาท่อระบายน้ำหายไปรวมกันเป็นจำนวน 27 ฝา คาดว่าคนร้ายน่าจะนำฝาท่อไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งตนยังไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เนื่องจากวงจรปิดก็ไม่มี จากนี้คงต้องหาแนวทางป้องกันเพิ่มเติม และต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งตามจับหัวขโมยให้ได้โดยเร็ว

ด้าน นายสุพจน์ อายุ 35 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนมักเดินออกมาหาส่องหากบในช่วงกลางคืน และจะเดินส่องกบไปเรื่อยๆ ตามแนวที่มีการวางท่อระบายน้ำ ตนก็เห็นว่าตะแกรงฝาท่อระบายน้ำถูกถอดออกไปหลายจุด ซึ่งช่วงนั้นตนได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ไม่เปิดไฟหน้ารถขับผ่านเข้ามาบริเวณที่มีแนววางท่อระบายน้ำ และเห็นเงาคนในความมืดตรงจุดนั้น สักพักก็ขี่รถกลับออกไป แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร คาดว่าน่าจะเป็นพวกหัวขโมย


>> รถตู้ รพ.ชื่อดัง ชนเสาไฟเกาะกลาง นศ.แพทย์และคนขับได้รับบาดเจ็บ อาสากู้ภัยงัดรถช่วยเหลือและนำส่ง รพ.

11.19 น. ศูนย์วิทยุสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี แจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถยนต์ตู้ชนเสาไฟส่องสว่าง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายอยู่ในยานพาหนะ บนถนนทางหลวงหมายเลข 340 เส้นทางสุพรรณบุรี- บางบัวทอง บริเวณ หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ของโรงบาลแห่งหนึ่ง ลักษณะชนกับเสาไฟส่องสว่างเกาะกลางถนน สภาพหน้ารถด้านขวาพังยับ และมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถจำนวน 3 คน โดยผู้บาดเจ็บ 2 รายนั่งมาภายในรถตู้เป็นนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ ของโรงพยาบาลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำออกจากตัวรถยนต์ และพบว่าคนขับขี่รถยนต์ตู้ ยังติดค้างอยู่ในยานพาหนะ จึงใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือ ก่อนนำผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช


>> ขนส่งสั่งปรับคนขับแท็กซี่ คิดอัตราเหมาผู้โดยสาร พร้อมพักใบอนุญาต 1 เดือน

13.00 น. จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ผู้โดยสารถูกผู้ขับรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน กทม. เอารัดเอาเปรียบโดยเรียกราคาเหมา เป็นเงิน 150 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 68 เวลาประมาณ 22.06 น. บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอคอนสยามนั้น

ล่าสุด กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้เรียกตัว ผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง โดย คนขับ ให้การยอมรับว่าได้กระทำตามที่ร้องเรียนจริง กองตรวจการขนส่งทางบกพิจารณาแล้ว เห็นว่าพฤติกรรมของ คนขับ เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 จึงได้ดำเนินการ ดังนี้

เปรียบเทียบปรับในข้อหาไม่ใช้มาตราค่าโดยสาร ตามมาตรา 5(2) ประกอบมาตรา 58 ในอัตราสูงสุดเป็นเงิน 1,000 บาท, พักใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ เป็นเวลา 1 เดือน และ ส่งเข้ารับการอบรมจิตสำนึกการให้บริการประชาชน เป็นเวลา 3 ชั่วโมง พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากยังกระทำผิดซ้ำอีกจะพิจารณาลงโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป


>> ชายวัย 50 กว่าปีวิ่งตัดลงชานชาลา ถูกรถไฟชนและทับเสียชีวิต

14.30 น เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถไฟทับคนเสียชีวิตบริเวณสถานีรถไฟ ต.กระมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

ในจุดเกิดเหตุ สถานีรถไฟ พบร่างของผู้เสียชีวิต สภาพถูกรถไฟทับจนร่างแหลก ตรวจสอบเอกสารในกระเป๋าพบสำเนาบัตรประชาชนระบุ เป็นชายไทย อายุ 52 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.เมืองอุดรธานี

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าผู้เสียชีวิตได้เดินอยู่ในชานชาลา ก่อนรถไฟขบวนรถธรรมดา 211 ต้นทางกรุงเทพฯ ปลายทางตะพานหิน กำลังจะเข้าสถานี ผู้เสียชีวิตได้วิ่งให้รถไฟชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟอีกครั้ง และประสานหาญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


>> ไทย-กัมพูชา บรรลุข้อตกลง "ถอนกำลังออกจากพื้นที่ขัดแย้ง" พร้อมใช้กลไก JBC

15.30 น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะหารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน

ซึ่งในวันนี้เป็นการพบปะเจรจาต่อเนื่อง หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชาได้พูดคุยผ่านทางระบบ VTC เมื่อวานนี้ (28 พ.ค. 68) โดยผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธี ในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตย หรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 
ส่วนกรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว ถือเป็นการคลี่คลายความตรึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Regional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายได้ระบุว่าจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด โดยผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ย้ำว่า ในส่วนของกัมพูชา หากมีผู้ใดฝ่าฝืนข้อตกลงที่ได้ร่วมกันวางไว้ในวันนี้ จะดำเนินการย้ายกำลังออกจากพื้นที่ทันที และยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาสามารถควบคุมและสั่งการหน่วยงานทุกหน่วยได้อย่างเด็ดขาด


>> เหตุอุทกภัย จ.ตาก มีผลกระทบ 6 อำเภอ น้ำท่วมบ้าน 109 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 334 ไร่

15.36 น. นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สั่งการให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่

ทั้งนี้ ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดตาก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 6 อำเภอ 10 ตำบล 26 หมู่บ้าน 4 ชุมชน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 1,265 ครัวเรือน โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต 
โดยความเสียหายในเบื้องต้น พบว่า มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน 109 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 334 ไร่ ขณะที่ปัจจุบัน (29 พ.ค. 68) ไม่มีฝนตกในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ระดับน้ำในแต่ละพื้นที่เริ่มลดลง และกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ขณะเดียวกัน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนทุกอำเภอ ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อิทธิพลของลมมรสุม และสภาพอากาศในห้วงเวลานี้ อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ และกำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือประชาชน ตามระเบียบ/หลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องต่อไป


>> รวบ เตย - ฉัตรชัย สองสามีภรรยา คนสนิท "ทิดแย้ม" มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี - ร้านค้าสวัสดิการ

16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ปปป. (กก.5 บก.ปปป.) สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม เตย และ ฉัตรชัย สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”

โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ขณะนี้ อยู่ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการ ปปป.


>> สาวสองช่างเสริมสวย ถูกแทงดับคาป่าละเมาะ ตร.ตามรวบมือมีด อ้างโดนลวนลาม ก่อนคุมตัวไปสอบสวนและดำเนินคดี

16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ชัย ได้รับแจ้งเหตุ ฆาตกรรมในป่าละเมา ปากทางเข้าบ้านหนองแสง ในพื้นที่ ต.หนองตาไก้ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด จึงรุดออกตรวจสอบพร้อม หน่วยกู้ภัยอโสกโพธิ์ชัย-ร่องคำ แพทย์เวร รพ.โพธิ์ชัย

ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 32 ปี ลักษณะคล้ายสาวประเภทสอง สภาพศพนอนหงาย ถูกทำร้ายด้วยของมีคมหลายแผล ในที่เกิดเหตุพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 ซม. จากการชันสูตร พบบาดแผลที่หน้าอกขวา ต้นคอ สะบักหลัง คิ้วซ้าย และหน้าแข้งซ้าย ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร ได้ทำการตรวจและเก็บหลักฐาน และได้มอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

เบื้องต้นได้ทำการจับกุมตัว เยาวชนชาย อายุ 18 ปี ชาว อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุ โดยอ้างว่าถูกผู้ตายลวนลาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไปที่ สภ. โพธิ์ชัย เพื่อทำการสอบสวนและจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> หนุ่มใหญ่ของขึ้น นั่งสมาธิบนหลังคา เจ้าหน้าที่ปีนไปคุมตัวลงวุ่น

19.36 น. ร.ต.อ.สนธยา ขนทรัพย์ รอง สวป. สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งว่า มีคนขึ้นไปนั่งสมาธิอยู่บนหลังคาชั้นสองของอาคารพานิชย์ แห่งหนึ่งภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ 25 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบผู้ชายไทย อายุประมาณ 40 - 50 ปี มีลายสักยันต์ที่แขน นั่งทำสมาธิอยู่บนหลังคากันสาดชั้นสอง โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้บันไดปีนขึ้นไปบนระเบียง แล้วมาควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ขึ้นไปยังที่ปลอดภัยอย่างทุลักทุเล แล้วนำตัวลงมาด้านล่างโดยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด

เบื้องต้น ร.ต.อ.สนธยา ขนทรัพย์ รอง สวป. สภ. เมืองพัทยา นำตัวผู้ชายดังกล่าว ซึ่งยังไม่ทราบชื่อ เคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด และมีอาการป่วยหรือไม่


>> เพลิงไหม้ห้องเช่า บนอาคารพาณิชย์ ซอยเพชรบุรี 1 ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ

19.34 น.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดหตุ ซอยเพชรบุรี 1 ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ประกอบกิจการ ให้เช่าพักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 ห้องเลขที่ 343 เพลิงลุกไหมเสียหาย เฉพาะที่นอน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 1 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่ทราบสาเหคุ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท


>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี ผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

19.44 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนรอบเมืองอุดรธานี ใกล้เคียงหน้าปั้ม ปตท.รังษิณา ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เทน่า สีเขียว-ดำ ป้ายทะเบียน อุดรธานี ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหาย ลักษณะถูกรถไม่ทราบชนิดเฉี่ยว ใกล้กันพบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 39 ปี มีอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเร่งช่วยเหลือ และนำส่งที่โรงพยาบาลอุดรธานี และรับแจ้งว่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี


>> หนุ่มวัย 38 ปีขับรถกระบะชนกับรถบรรทุกเข้ากลางลำ ถนนเพชรเกษม เสียชีวิตร่างติดค้างในซากรถ

20.35 น. ได้รับแจ้งจาก กู้ภัยสว่างสรรเพชญฯ มีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในยานพาหนะ บนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น กทม. บริเวณจุดกลับรถใกล้เคียงห้างแม็คโคร ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีเทา ทะเบียนป้ายแดง ราชบุรี ลักษณะชนเข้ากลางลำ รถบรรทุกผลไม้ ฮีโน่ สีแดง ป้ายทะเบียน สระบุรี ตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่รถกระบะได้เสียชีวิต สภาพร่างยังติดภายในยานพาหนะ ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ เพื่อนำร่างออกมา และตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี


>> เพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ ซอยสายไหม 56 เสียหายวอดทั้งคัน

22.21 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ซอยสายไหม 56 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสี ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิงดำเนินการใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหมเสียหายหมดทั้งคัน ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม


>> รถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง แม่-ลูกสาววัย 5 ขวบดับ ส่วนพ่อคนขับกับลูกชายเจ็บสาหัส

23.00 น. ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ ศิริกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ รับแจ้งเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำ ตกร่องกลางถนน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บนถนนสาย 331 ขาเข้าบ่อวิน ใกล้จุดกลับรถกรมป่าไม้ กม.32+500 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ 4 ประตู อีซูซุ วีครอส สีเทา ทะเบียน ชลบุรี สภาพพังยับทั้งคัน ร่องรอยล้อรถยาวกว่า 200 เมตรก่อนตกลงร่องกลางถนน จากการตรวจสอบ พบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี และเด็กหญิง วัยประมาณ 5 ขวบ ซึ่งคาดว่าเป็นแม่และลูกสาว เสียชีวิตในพงหญ้ากลางถนน และพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 รายคือ เป็นชายไทย คนขับรถกระบะ และเด็กชาย วัยประมาณ 8 ขวบ คาดว่าเป็นพ่อและลูกชาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาล

พยานระบุ ได้ยินเสียงเบรกและชนดังสนั่น ก่อนเห็นรถกระบะพลิกคว่ำหลายตลบ ชาวต่างชาติพลเมืองดีช่วยเด็กชายออกจากรถได้ ขณะที่คนขับบาดเจ็บสาหัส

ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาสาเหตุ และมอบศพผู้เสียชีวิตให้โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ รอญาติมารับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

03.27 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าเกิดเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.5 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 318 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ