หน้าแรก > สังคม

ผบ.ตร. แจงไม่ละเลยทุกความเห็นหลังพบแชทนักบินบอก ฮ.ไม่พร้อมใช้งานแล้ว เอาผิดเด็ดขาดหากพบทุจริตซ่อมบำรุง

วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 15:28 น.


วันนี้ (28 พ.ค.2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่อง เฮลิคอปเตอร์ตำรวจรุ่นเบลล์ 212 ตกที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่านายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อกรณีนี้ จึงเรียกตนและทีมงานเข้ามาและรายงานข้อมูล และสอบถามเกี่ยวกับความต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีความต้องการอะไร ขอให้พิจารณาและนำเสนอเข้ามา

ส่วนกรณีที่พบว่าเฮลิคอปเตอร์อยู่อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมบินนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า สิ่งที่ตนและผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติตระหนักเป็นอย่างแรกคือความปลอดภัยของนักบิน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความสูญเสียอย่างมาก ส่วนการแสดงความเห็นตามโซเชียลมองว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถแสดงความเห็นได้แต่สิ่งต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบ ทั้งหมดอยู่ที่การพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหากตรวจสอบพบว่ามีใครประพฤติมิชอบจะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด ซึ่งช่วงบ่ายนี้ตนจะไปประชุมที่กองบินตำรวจเพื่อให้นักบินมีความมั่นใจในอากาศยาน

ขณะเดียวกันยังเปิดเผยว่าตนได้เห็น ข้อความของหนึ่งในนักบินที่เสียชีวิต สนทนากับเพื่อน ว่า "เครื่องบินแทบบินไม่ได้แล้ว" ตนไม่ขอปฏิเสธ แต่ได้นำความเห็นส่งให้จเรตำรวจแห่งชาติเพื่อนำไปตรวจสอบด้วย และยืนยันว่า ไม่ละเลย รวมถึงทุกความเห็นที่ตนได้รับ ได้ส่งให้จเรตำรวจตรวจสอบและ ขอให้ดูทุกประเด็น

ส่วนการขอซื้ออากาศยานใหม่นั้น อยู่ในแผนของการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว แต่อยากได้อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูภารกิจและความจำเป็น รวมถึงงบประมาณในสิ่งที่จะได้ รวมถึงแนวคิดในการบริหารงานจากนี้ไปซึ่งตนคิดเผื่อข้างหน้าอีก 10 ปี รวมทั้งความต้องการอากาศยานใหม่จำนวนเท่าไหร่ ขอไปดูจำนวนให้ชัดเจนว่าของที่มีอยู่มีจำนวนเท่าไหร่รอจำหน่ายเท่าไหร่ และอยู่ในวงการซ่อมแซมจำนวนเท่าไหร่ เพื่อมาดูความจำเป็นว่าอีก 5 ปี 10 ปีเราจำเป็นต้องต้องใช้อากาศยานจำนวนเท่าไหร่

ขณะที่กรณีเพจ CSILA เปิดเผยข้อมูลว่า ขณะนี้กองบินตำรวจมีเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมด 63 ลำแต่ใช้ได้เพียง 9 ลำ และมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทุจริตซ่อมบำรุงนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำว่ามีข้อมูลจากหลายกลุ่ม แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้บริหารกองบินด้วย ว่าความจริงแล้วมีเฮลิคอปเตอร์อยู่เท่าไหร่ ใช้ได้เท่าไหร่และใช้ ไม่ได้เพราะอะไร และส่วนที่ใช้อยู่ในวงรอบการซ่อมเท่าไหร่ ซึ่งเป็นการบริหารที่ถูกแล้ว แต่หากพบว่าครบชั่วโมงบินแล้วไม่ซ่อม ไม่ดูแลแบบนี้ถือว่าละเลยหรือไม่เป็นประเด็นที่ต้องดูมากกว่า

นอกจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวย้ำว่า หากพบว่ามีการเบียดบังทุจริตจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะนี่คือชีวิตของมนุษย์ชีวิตของนักบินและผู้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตคน

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ