วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 02:21 น.
บุกจับจีนเทาพัทยา ฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินแม่ค้าออนไลน์ ยึดทรัพย์กว่า 9 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พร้อมกำลังชุดจับกุม กก.3 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุม นายหลี่ฯ อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดวามเสียหายแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้ตรวจยึดทรัพย์สินได้จำนวน 35 รายการ มูลค่ารวมกว่า 9 ล้านบาท ดังนี้
1. เงินสดไทย จำนวน 746,530 บาท
2. เงินสดจีน จำนวน 7,513 หยวน
3. รถยนต์ ยี่ห้อ BMW สีขาว จำนวน 1 คัน
4. รถยนต์ ยี่ห้อ Benz สีดำ จำนวน 1 คัน
5. รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota สีขาว จำนวน 1 คัน
6. โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง
7. สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 2 เล่ม
8. กระเป๋าแบรนด์เนมและเครื่องประดับต่างๆ
สถานที่จับกุม คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า ได้เข้าไปในเพจเฟซบุ๊กเเพจ ซึ่งอ้างว่าเป็นเพจซื้อขายสินค้ามือสอง จากนั้นจึงกดลิงก์ไปยังกลุ่ม LINE Openchat ซึ่งมีสมาชิกกว่า 200 คน และหลงเชื่อว่าเป็นกลุ่มซื้อขายจริง เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวหน้าม้าในกลุ่มว่าสามรถขายสินค้าได้จริงและมีสมาชิกจำนวนมาก ต่อมา แอดมินในกลุ่มแนะนำให้ผู้เสียหายติดต่อแอดมิน “ฝ่ายบริการลูกค้า” โดยให้โอนเงิน 189 บาทเป็นค่าเข้ากลุ่ม (ซึ่งมีการโอนคืนมา) และส่งลิงก์เข้าแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ พร้อมรหัสผู้ใช้งาน ซึ่งพบว่า เป็นแพลตฟอร์มปลอม
หลังจากนั้นแอดมิน “ผู้ดูแล” ได้มีการพูดคุย อ้างชื่อบริษัทฯ ขายเสื้อผ้ามือสองแห่งหนึ่งว่า มีการจดทะเบียนถูกต้อง แจ้งว่าต้องทำการโอนเงินจำนวน 3 ครั้ง เพื่อเปิดระบบซื้อขาย โดยแต่ละรอบ ต้องโอนเงินเข้าระบบ รวมเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 20,700 บาท เมื่อทำการโอนเงินครบทั้ง 3 ครั้งแล้ว ผู้เสียหายพยายามถอนเงินแต่ไม่สามารถถอนได้ และถูกแจ้งให้โอนเพิ่มอีกกว่า 50,000 บาท เพื่อ “แก้ไขระบบ” จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง และมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ตรวจสอบข้อมูลแพลตฟอร์มดังกล่าว พบว่าเป็นแพลตฟอร์มปลอม และตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีการถอนเงินจากบัญชีม้าที่บริเวณ ห้างสรรพสินค้าแห่งนึง ในมืองพัทยา จ.ชลบุรี และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า มีบุคคลที่ควบคุมบัญชีม้ามาถอนเงิน และนำเงินที่ถอน ได้ส่งต่อให้กับชายชาวจีน จึงได้ออกหมายจับและเข้าตรวจค้นจับกุมชาวจีนผู้ที่รับเงินดังกล่าว
ผลการตรวจค้น พบนายหลี่ฯ สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นพบว่า ได้มีเพื่อนชาวจีนติดต่อให้ไปรับเงินสดจากแก๊งถอนเงินในคดีนี้ และได้โอนเงินดิจิทัลฯ สกุล USDT ต่อไปยังกระเป๋าที่เพื่อนชาวจีนแจ้ง โดยพบว่า นายหลี่ฯ เดินทางเข้ามาประเทศไทยโดยวีซ่า นักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องรายนี้มีการเปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่พัทยา ซึ่งเป็นสาขาเดียวกับที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 เข้าจับกุมนายหน้าและเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่ลักลอบเปิดบัญชีให้คนจีนไปแล้ว ก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีการจดทะเบียนบริษัท เตรียมเปิดเป็นสำนักงานกฎหมาย ให้กับลูกค้าชาวจีนในพื้นที่เมืองพัทยาอีกด้วย
เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า เงินที่รับมาจากแก๊งถอนเงินจากบัญชีม้านั้น เป็นเงินที่เพื่อนชาวจีนติดต่อมาให้ไปรับ เพื่อแลกเป็นเงินดิจิทัล สกุล USDT และโอนต่อไปยังกระเป๋าที่เพื่อนชาวจีนแจ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสืบสวนขยายผลต่อไป
21 มิถุนายน 2568
21 มิถุนายน 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ