วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 15:23 น.
“MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.8” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายอ้างเป็นแพลตฟอร์ออนไลน์ชื่อดัง หลอกโอนเงินทำกิจกรรม ตามอายัดทันกว่า 3 แสน นำคืนผู้เสียหาย
วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ณ บริเวณชั้น 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.8” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายอ้างเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการช้อปปิ้งและการขายสินค้าออนไลน์แห่งหนึ่งหลอกโอนเงินทำกิจกรรม ตามอายัดทันกว่า 3 แสน นำคืนผู้เสียหาย
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “Money Cash Back” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 6.8 ล้านบาท
โดยล่าสุด ได้มีกรณีเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 มีมิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัทแพลตฟอร์มช้อปปิ้งและขายสินค้าออนไลน์แห่งหนึ่ง แล้วชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมทำงาน ออนไลน์กับบริษัท ด้วยการโพสต์สินค้า แชร์ลิงก์สินค้าต่างๆ ลงสื่อออนไลน์ โดยอ้างว่าให้ค่าตอบแทนจำนวน 20 บาท ต่อโพสต์
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทดลองโอนเงินไปร่วมกิจกรรมแล้วปรากฏว่าได้รับเงินโอนคืนมาจริงใน 3 ครั้งแรก จึงมั่นใจว่าทำแล้วได้เงินจริง จึงได้โอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้งไปยังบัญชีธนาคารปลายทางทั้งหมด จำนวน 11 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 3,019,840 บาท สุดท้ายไม่ได้รับเงินคืนจริง
จากกรณีดังกล่าว ว่าที่ พ.ต.อ.วิศรุตม์ จันทร์สุวรรณ ผกก.1 บก.สอท.2 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนในสังกัดรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการ จนสามารถออกหมายจับได้แล้วหลายราย โดยล่าสุด พ.ต.ท.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง ผกก.1 บก.สอท.2 และ พ.ต.ท.ทัศไนย อนันทิโย สว.กก.1 บก.สอท.2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ติดตามจับกุม ชาย อายุ 42 ปี หนึ่งในขบวนการได้สำเร็จ โดยจับกุมตัวได้ในพื้นที่ ต.วัดดาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
โดยดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาเพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด”
จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของชายคนดังกล่าวไว้ได้ เป็นจำนวนเงิน 303,200 บาท เบื้องต้น เจ้าตัวรับสารภาพว่าได้ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชี โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ จึงขอไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหารายอื่นอยู่ระหว่างสืบสวนจับกุม
วันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 303,200 บาท มอบคืนให้แก่ผู้เสียหาย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน”
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ