24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2568
>> บุกค้นบ้านแก๊งหมวกกันน็อค พื้นที่เชียงใหม่ พบบัญชีลูกหนี้หลายร้อยราย
07.30 น. พตต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนดคีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม นำกำลังเจ้าหน้าที่กองกิจการอำนวยความยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 เข้าค้นบ้านเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบ
โดยมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สำนวนสืบสวน ตามหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2568
จากการตรวจค้นพบพยานเอกสาร อาทิเช่น บัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีรายชื่อลูกหนี้จำนวนหลายร้อยราย และรายละเอียดเกี่ยวกับมูลหนี้ บัญชีการทวงถามหนี้รายวัน สัญญาเงินกู้ และพบโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร และมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง จึงได้ทำการตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ประกอบการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
>> รถตู้รับ - ส่งนักเรียนชนเกาะกลางแล้วพลิกตะแคง มีผู้บาดเจ็บหลายราย โชคดีอาการไม่สาหัส
07.30 น. สปภ.อำเภอชัยบาดาล ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุ รถตู้รับ-ส่งนักเรียนประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนนแล้วเสียหลักพลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนหมายเลข 2089 เส้นทางท่ามะนาว - สี่แยกสหเมืองทอง ในพื้นที่ ตำบลท่ามะนาว อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถตู้รับส่งนักเรียน ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ป้ายทะเบียน ลพบุรี ลักษณะพลิกตะแคงสภาพรถพังเสียหาย ตรวจสอบพบว่า มีผู้บาดเจ็บเป็นนักเรียน จำนวน 20 ราย คนขับรถตู้ 1 ราย รวม 21 ราย (เคสเขียว) ส่วนใหญ่มีอาการตกใจ ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ชัยบาดาล ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล
>> รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำกลางถนนพหลโยธิน ผู้บาดเจ็บอาการสาหัส อาสากู้ชีพ - กู้ภัยช่วยทำ CPR แต่ไม่เป็นผล
10.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออก ในช่องทางคู่ขนาน เลยบุญถาวรรังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง ป้ายทะเบียน กทม. ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 44 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง
>> ไฟไหม้บ้านไม้ เสียหายวอดทั้งหลังที่เมืองพะเยา มีผู้บาดเจ็บ 1 รายนำตัวส่ง รพ. จนท.จะสอบสวนหาสาเหตุ
10.40 น. ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองพะเยา ได้รับแจ้งจากนายปริยัติ สุวรรณ กำนันตำบลแม่กา ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
นายนิกร ยะกะจาย นายอำเภอเมืองพะเยา มอบหมายให้ นายธีระวัฒน์ เกตสระชัย ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองพะเยา นายปิยะพงศ์ ใจกล้า ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองพะเยา นายธีระพันธ์ วงค์วิลาศ ปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบลแม่กา นายทัศไนย วิเศษศุณ ปลัดอำเภอ พร้อมด้วย นายปริยัติ สุวรรณ กำนันตำบลแม่กา ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และชุดรักษาความปลอดภัยตำบลแม่กา เจ้าหน้าที่งานป้องกันตำบลแม่กา พร้อมรถดับเพลิงลงพื้นที่
จากการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านไม้ยกสูง ซึ่งเป็นบ้านของ นางสร้อย โดยเพลิงได้ลุกไหม้รุนแรง เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิง ระดมหัวฉีดน้ำเข้าระงับเหตุ จนสามารถควบคุม และเพลิงสงบลง ในเวลา 12.20 น.
เบื้องต้น เพลิงไหม้สร้างความเสียหายหมดทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุ มีผู้พักอาศัยจำนวน 6 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายที่บริเวณต้นขาข้างขวา เนื่องจากถูกไฟไหม้ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแม่กา ได้นำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลพะเยาต่อไป สาเหตุเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา
>> ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อรัฐสภา
12.47 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่รัฐสภา กลุ่มไทยพิทักษ์สิทธิ์ และผู้ที่ได้รับผลกระทบวัคซีนโควิด-19 เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมวัคซีนโควิด-19 ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อที่จะได้มีข้อมูลในการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด โดยมีนายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาฯ เป็นผู้เข้ารับหนังสือ
ด้าน พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา นายแพทย์ชื่อดัง เปิดเผยว่า มีผู้มาร้องเรียนกับตนเองว่า ภรรยาถูกตัดขาทั้งสองข้าง ตัดแขนหนึ่งข้าง และตัดเฉพาะมืออีกหนึ่งข้าง โดยที่ไม่สามารถระบุได้ชัดว่าเป็นเพราะโรคใด เมื่อตรวจค่าเลือดภูมิต้านทานต่อต้านโควิดพบว่า เป็นเพราะค่า Spike (S) Protein หรือ สไปก์โปรตีน สูงถึง 14,500 จากปกติที่ไม่ควรเกิน 0.8 ซึ่งเมื่อไปอุดตันเส้นเลือดส่วนใด จะเกิดปัญหา อาทิ อุดตันเส้นเลือดสมอง จะเกิด Stroke อุดตันเส้นเลือดหัวใจ อาจจะหัวใจวายเฉียบพลัน และอาจเสียชีวิต
นายพิพัฒน์ สามีของภรรยาที่ถูกตัดขา และแขน กล่าวว่า ตนเองได้ไปขอค่าชดเชยจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่ไม่ได้รับการชดเชยเพราะเกินเวลา 2 ปีแล้ว
ขณะที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบอีกหนึ่งรายเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าลูกชาย อายุ 23 ปี ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม จากเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย แต่วันนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตันก้านสมอง ไม่รู้สาเหตุ รักษาตามอาการ ทั้งที่ก่อนหน้าเล่นกีฬาปกติ ขณะนี้ป่วยมา 2 ปีแล้ว จิตใจไม่ปกติ ต้องหาหมอจิตเวชร่วมด้วย เงินที่เก็บไว้ให้เรียนก็หมดไปกับการรักษาตัว จึงอยากฝากภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย
>> รวบสาวแสบหลอกออมเงินผ่านเฟซบุ๊ก เหยื่อหลงเชื่อสูญเกือบ 2 แสนบาท
13.49 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นางสาวสอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี โดยต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน,ยักยอกทรัพย์, กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยจับกุมได้ริมถนนสาธารณะ ซอยธรรมวงศ์สวัสดิ์ อ.เมือง จ.มหาสารคาม
สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม หลังถูกหญิงสาวรายหนึ่งใช้บัญชี Facebook ปลอมแปลงข้อมูล หลอกลวงให้ร่วมลงทุน “ออมเงินกินดอก” พร้อมโฆษณาแถมทองคำครึ่งสลึง อ้างผลตอบแทนสูง สุดท้ายเชิดเงินหนี ผู้เสียหายต้องสูญเงินไปกว่า 190,000 บาท โดยเริ่มจากเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2564
ต่อมาเจ้าพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิดของนางสาวสอ เพื่อขอออกหมายจับต่อศาลอาญา และสามารถติดตามจับกุม นางสาวสอ ได้ในที่สุด จากการตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหายังพบว่าเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันอีกกว่า 10 คดี ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสาน รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 1,150,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับที่เกี่ยวข้อง และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
>> "ทรู" ขออภัยลูกค้า เหตุเครือข่ายล่ม เตรียมชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ
15.00 น. จากกรณีมีผู้ใช้งานเครือข่ายมือถือ “ทรู” แชร์ประสบการณ์ระบบล่ม ไม่สามารถใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ต ตลอดจนไม่สามารถโทรออก หรือรับสายได้ ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญผู้บริหารจากบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าชี้แจงเร่งด่วน กรณีสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตทรูใช้งานไม่ได้ชั่วคราวนั้น
ต่อมา ทรู ประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่าย โดยได้ชี้แจงว่า ทรู ขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้ บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป
>> ศาลปกครองสูงสุด สั่ง "ยิ่งลักษณ์" ชดใช้คดีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท
15.01 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ศาลปกครองสูงสุด ศาลนัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่ กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท
ในคดีที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่า กระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
ล่าสุด ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้กรณีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท
>> ตำรวจน้ำ ตรวจเข้มแม่น้ำท่าจีน ป้องกันอาชญากรรมทางน้ำ
16.46 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) พร้อมด้วยเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย โดยจับกุมได้บริเวณกลางร่องแม่น้ำท่าจีน จ.สมุทรสาคร
แม่น้ำท่าจีน ถือเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำสายสำคัญของจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีการสัญจรของเรือประมง เรือโดยสาร และเรือพาณิชย์จำนวนมาก เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางน้ำ ตำรวจน้ำสมุทรสาครจึงได้ดำเนินการสุ่มตรวจเรือที่ผ่านเข้าออกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นตรวจสอบเอกสาร การปฏิบัติตามกฎหมายการเดินเรือ รวมถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร การตั้งจุดตรวจทางน้ำในครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเชิงรุกในการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางสัญจรทางน้ำในพื้นที่สมุทรสาคร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำเรือตรวจการณ์ในสังกัด ตั้งจุดตรวจจุดสกัดป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดทางน้ำบริเวณหน้าที่ทำการสถานีตำรวจน้ำสมุทรสาคร สุ่มตรวจเรือที่แล่นในแม่น้ำท่าจีน พบเรือกระทำความผิดตามพระบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 จำนวน 2 ลำ ผู้ต้องหา จำนวน 3 รายจึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ทำการสถานีตำรวจน้ำสมุทรสาคร แล้วจึงนำตัวไป.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
>> เพลิงไหม้ทาวน์เฮ้าส์ ย่านเชื่อมสัมพันธ์ซอย 14 ห้องนอนเสียหายวอด
16.56 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 14 ถนนเชื่อมสัมพันธ์ แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ปลูกติดกันจำนวน 8 คูหา ต้นเพลิงเกิดขึ้นคูหาที่ 7 ชั้นบน ภายในห้องนอนเพลิงลุกไหม้เสียหายห้องนอนจำนวน 1 ห้อง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 10 ตารางเมตร อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองจอก
>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ริมถนนหมายเลข 3481 ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นหญิง
17.10 น. รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญฯ อ.บ้านสร้าง มีอุบัติเหตุจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้เสียชีวิต ริมถนนหมายเลข 3481 เยื้องๆ ทางเข้าวัดบางกระเบา พื้นที่ ม.6 ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน ปราจีนบุรี ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้หญิง 1 ราย ลักษณะนอนคว่ำหน้า มีแผลฉีกขาดบริเวณหน้าผากขนาดใหญ่ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านสร้าง
>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
18.31 น. เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ใต้เต็กเซี่ยงตึ๊ง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์นกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนทางหลวงหมายเลข 4012 ในพื้นที่ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีขาว ป้ายทะเบียน นครศรีธรรมราช ลักษณะชนกับ รถบรรทุก อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน นครศรีธรรมราช ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ เป็นหญิง 1 ราย อาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ